xs
xsm
sm
md
lg

"5 แข้งมหากาฬ" ฟุตซอลโลก 2012

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฟัลเกา
ASTV ผู้จัดการรายวัน - เปิดฉากอย่างเป็นทางการสำหรับศึกฟีฟา ฟุตซอล เวิลด์ คัพ 2012 ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 1-18 พฤศจิกายน 2555 ซึ่งทีมข่าว MGR Sport รวบรวมแข้งสตาร์ซึ่งถือเป็น "คีย์แมน" สำคัญในการนำแต่ละชาติโรมรันแย่งแชมป์มาแนะนำกัน ดังต่อไปนี้

ฟัลเกา (บราซิล)
อเลสซานโดร โรซา วิเอรา หรือ "ฟัลเกา" ยอดนักฟุตซอลวัย 35 ปี มีประสบการณ์ในเวิลด์คัพมาแล้ว 3 สมัย ถือเป็นกลจักรสำคัญนำ "แซมบ้า" ผงาดแชมป์ฟุตซอลโลกครั้งที่ผ่านมาที่บ้านเกิด โดย ฟัลเกา ทำไปแล้ว 336 ประตูจากการลงสนาม 199 นัด แม้ก่อนเยือนแดนสยาม จอมเก๋าบราซิเลียนเจออาการบาดเจ็บเล่นงาน แต่อย่างไรเสีย ฟัลเกา ยังคงเป็นแกนหลักที่ทีมชาติบราซิลขาดมิได้ และก็เตรียมโชว์พลังสังหารในศึกฟุตซอลโลก 2012 เริ่มจากการประลองกับ "ซามูไร" ญี่ปุ่น คืนวันนี้ (1 ส.ค.)

ริคาร์ดินโญ (โปรตุเกส)
ถ้าเอ่ยถึงฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกส ย่อมต้องนึกถึง คริสเตียโน โรนัลโด แต่หากเป็นแวดวงโต๊ะเล็กแดนฝอยทอง ชื่อของ ริคาร์โด ฟิลิปเป ดา ซิลวา บรากา หรือ ริคาร์ดินโญ ต้องถูกหยิบยกมาพูดถึงเป็นลำดับต้นๆ ด้วยเชิงบอลที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ ดาวเตะร่างเล็กที่สูงเพียง 164 เซนติเมตร จึงมีดีกรีพ่วงท้ายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักฟุตซอลยอดเยี่ยมของโลกแห่งปี 2010 เป็นนักเตะทรงคุณค่าสโมสรยุโรปปี 2007 ซึ่งสองปีให้หลังสตาร์วัย 27 ปี พาต้นสังกัด เบนฟิกา จิกแชมป์ยุโรปมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ก่อนย้ายมาเล่นอาชีพในญี่ปุ่นนำ นาโกยา โอเชียนส์ ป้องกันแชมป์ ทั้งยังถูกเลือกให้เป็นผู้เล่นทรงคุณค่าของฤดูกาล 2010/11 แบบไร้คู่แข่ง

โมฮัมหมัด ทาเฮรี (อิหร่าน)
เมื่อหมดยุคของ วาฮิด ชามซาฮี ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของวงการฟุตบอลโต๊ะเล็กอิหร่าน ที่ทำได้ถึง 369 ประตูจากการลงเล่น 123 นัด แฟนบอลจากตะวันออกกลางก็ได้พบกับฮีโร่คนใหม่อย่าง โมฮัมหมัด ทาเฮรี ซึ่งถูกยกให้ขึ้นมาสืบทายาทความยิ่งใหญ่ต่อจาก ชามซาฮี โดย ทาเฮรี นำฟุตซอลทีมชาติอิหร่านคว้าแชมป์เอเชียมาได้ถึง 10 สมัย ตีตั๋วไปเล่นเวิลด์คัพทุกสมัย เป็นหนึ่งในทีมเอเชียที่ลุ้นท้าทายยอดทีมของโลกอย่าง สเปน, บราซิล หรือว่า โปรตุเกส

คาซูโยชิ มิอูระ (ญี่ปุ่น)
คาซูโยชิ มิอูระ ถือเป็นแข้งผู้บุกเบิกปูทางให้รุ่นน้องได้ไปโชว์ฝีแข้งในลีกอาชีพบนผืนแผ่นดินยุโรป จากฟอร์มอันน่าตื่นตาตื่นใจกับสโมสร เจนัว แห่งกัลโช เซเรีย อา อิตาลี น่าเสียดายที่ "คิงคาซู" ไม่มีโอกาสลิ้มรสฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแม้แต่หนเดียว ถึงแม้มีสถิติสวยหรูยิง 55 ประตูจาก 89 นัดให้ญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี คาซู กลายเป็นแข้งประวัติศาสตร์แดนซามูไร เมื่อถูกเรียกตัวติดทีมฟุตซอลมาชิงแชมป์โลกที่ไทย ด้วยวัย 45 ปี ซึ่งเจ้าตัวปลาบปลื้มไม่น้อยกับฝันที่เป็นจริง "อยากขอบคุณทุกกำลังใจที่คอยสนับสนุนผมเสมอมา ผมจะเล่นให้ดีที่สุด เพื่อความภาคภูมิใจและความรับผิดชอบที่มีต่อทีมชาติญี่ปุ่น"

เฟร์นานเดา (สเปน)
เฟอร์นานโด มาเซียล กอนซาเวซ หรือ เฟร์นานเดา มีปัญหาบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายเกือบไม่ได้มาแข่งครั้งนี้ แต่ที่สุดแล้ว โฆเซ เบนานซิโอ โลเปซ ยอดโค้ชทีมชาติสเปนก็ต้องหนีบเอากองหน้าวัย 32 ปี ซึ่งโชว์ฟอร์มโดดเด่นกับบาร์เซโลนา และเป็นผู้ยิงประตูไป 7 ประตู มากที่สุดให้ "กระทิงดุ" ในศึกเวิลด์คัพ 4 ปีก่อน ทั้งยังมีดีกรีดาวยิงสูงสุดลีกสเปน 2 สมัยซ้อนระหว่างปี 2005-2007 ติดมาเป็นอาวุธลับสำคัญในการทะลวงตาข่าย ลุ้นนำทีมกระชากแชมป์มาจากบราซิล ให้จงได้
ริคาร์ดินโญ (หมายเลข 10)
โมฮัมหมัด ทาเฮรี (เบอร์ 3)
คิง คาซู
เฟร์นานเดา
กำลังโหลดความคิดเห็น