เอาใจช่วย “ชินจิ คากาวะ”

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-หลุดจากตัวจริง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกม พรีเมียร์ชิป นัดล่าสุดที่เปิด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถล่ม สโต๊ค ซิตี 4-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ก่อน 3 วันให้หลังจะได้กลับมาเป็นตัวจริงศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มๆ เอช นัด 3 เล่นในรังพลิกชนะ บรากา 3-2 แถมทำไป 1 แอสซิสต์ก่อนได้รับบาดเจ็บต้องถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงพักครึ่ง สำหรับ ชินจิ คากาวะ ที่ซื้อมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัวที่แพงเอาการถึง 16 ล้านปอนด์ (ประมาณ 800 ล้านบาท) โดยหวังให้เป็นจอมทัพ แม้ว่าจะสวมเบอร์ 26 ก็ตาม หลังจากได้ออกสตาร์ท 8 นัดรวมทุกรายการ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ "ผีแดง" อาจจะเริ่มมองออกแล้วว่าเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติญี่ปุ่นเล่นไม่เข้ากับระบบของทีม

ช่วงต้นฤดูกาลป๋าได้โอกาสทดลองระบบใหม่ๆ ทั้ง 4-3-1-2 และ 4-4-1-1 เพื่อให้โอกาส คากาวะ ประจวบเหมาะกับ 3 ตัวริมเส้นทั้ง แอชลีย์ ยัง และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ได้รับบาดเจ็บ รวมถึง หลุยส์ นานี ที่ฟอร์มตก ทั้งที่เป็นการฝืนธรรมชาติ 4-4-2 ของ แมนฯยู เลยทำให้สาวก "เรด เดวิลส์" ต้องลุ้นเหนื่อยตกเป็นรองไปก่อนหลายต่อหลายนัดแถมเกมรับก็เสียถึง 11 ประตูจาก 8 นัดโชคดีที่ยิงได้เยอะที่สุดในลีกถึง 21 ประตู ถ้าไม่นับว่า สโต๊ค แพ้ทาง รูปแบบการเล่นล่าสุดคือ 4-4-2 สามารถยืดหยุ่นเป็น 4-4-1-1 โดยมี เวย์น รูนีย์ เป็นตัวเชื่อมเข้าขารู้ใจกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี

ไม่มีใครกังขาความสามารถของ คากาวะ 2 ฤดูกาลกับ ดอร์ทมุนด์ ที่เบิ้ลถาดแชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมนี รวมถึงบอลถ้วย เดเอฟเบ โพคาล แต่ แมนฯยู ไม่เคยมีผู้เล่นลักษณะนี้มาก่อน ถ้าเทียบกับนักเตะคนอื่นของ อาร์เซนอล อย่าง ซานติ กาซอร์ลา ที่เพิ่งย้ายมาเมื่อช่วงซัมเมอร์เช่นเดียวกันจะต้องการบอลที่เท้า แต่แข้งปลาดิบถนัดรับบอลขณะวิ่งทะลุทะลวงขึ้นไปและคิดเร็วทำเร็วจ่ายให้เพื่อนจบสกอร์หรือยิงเองเห็นได้จากการยิงให้ "เสือเหลือง" 29 ประตูจาก 71 นัด

อังกฤษ ไม่มีผู้เล่นที่ยืนอยู่ระหว่างกองหลังและกองกลางของคู่ต่อสู้แต่ไหนแต่ไร ต่างจาก อิตาลี ที่จะมีจอมทัพหมายเลข 10 เสมอเพื่อสวมบทนี้ที่เรียกว่า "เตรควาร์ติสตา" หรือ อาร์เจนตินา ก็จะมี "เอ็นกานเช" ถือว่า "สิงโตคำราม" ทั้งทีมชาติและระดับสโมสรขาดนักเตะที่เชี่ยวชาญบทบาทนี้โดยเฉพาะ โจ โคล เคยเป็นปีก สตีเวน เจอร์ราร์ด, แฟรงค์ แลมพาร์ด และ แจ็ค วิลเชียร์ เหมาะคุมแผงกองกลาง 4 คนและคอยทะลุจากแถวสองมากกว่า รูนีย์ เคยทำได้ดีช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่คำถามก็คือใช้ตำแหน่งที่จะรีดศักยภาพดีที่สุดของเขาออกมาหรือไม่ ปี 2008 ถูกถ่างไปเล่นเป็นปีกและพา แมนฯยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก

โชเซ มูรินโญ เคยเข้ามาปรับเปลี่ยนสร้างระบบ 4-3-3 ให้ เชลซี จนกระทั่งประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ พรีเมียร์ชิป เมื่อปี 2004 ปัจจุบันหลายสโมสรก็ยึดลักษณะการเล่นแบบนี้จนทำให้แข้งใหม่อย่าง คากาวะ, กาซอร์ลา, ออสการ์ (เชลซี) และ กิลฟี ซิกูร์ดสสัน (ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์) ทุกคนยังต้องพิสูจน์ตัวเอง แต่เหมือนกองกลางทีมชาติสเปนจะทำได้ดีที่สุดกับ อาร์เซนอล

ถ้า เซอร์ อเล็กซ์ จะยึดระบบไดมอนด์ คากาวะ จะประสานงานร่วมกับ ไมเคิล คาร์ริค และ พอล สโคลส์ แต่ทางกราบขวาเมื่อ วาเลนเซีย กลับมาแล้วมีประโยชน์มากกว่าทั้งเกมรุกและยังถอยลงมารับได้เยี่ยมอีกด้วย เมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ถือว่าน่าหนักใจแทนแข้งวัย 23 ปีไม่น้อย เพราะอายุเพียงแค่ 23 ปีประสบการณ์ถือว่าเป็นรอง กาซอร์ลา ที่ก็ไม่เคยเล่นตรงกลางกับ อาร์เซนอล แต่สามารถทำได้ดีเก็บบอลและพาทะลุไปเอง ซึ่ง อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ "ปืนโต" ก็ตาแหลมพอที่จะมอบหมายบทบาทนี้ให้

จากนี้ถือเป็นโจทย์ของ เซอร์ อเล็กซ์ ว่าจะรีดศักยภาพของ คากาวะ อย่างไรแต่ต้องหลังจากหายเจ็บเข่าพักยาว 3-4 สัปดาห์ โดยอัปเดตโปรแกรม 3 นัดที่รออยู่เบื้องหน้าของ แมนฯยู คือว่าสาหัสสากรรจ์เริ่มตั้งแต่ไปเยือนจ่าฝูง พรีเมียร์ชิป เชลซี ที่ยังไร้พ่ายวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคมนี้ถ้าแพ้จะถูกหนีไปเป็น 7 แต้ม 3 วันให้หลังต้องไปเล่นที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกศึก แคปิตอล วัน คัพ รอบ 4 ปิดท้ายด้วยวันเสาร์ที่ 3 ตุลาคมเปิด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับมือ อาร์เซนอล ในลีก

เรื่อง เซียนไก๋