"ปิ๊ก" แนะดันหวดใหม่สร้างสีสันไทยแลนด์โอเพน

ดนัย อุดมโชค นักเทนนิสมือ 1 ของไทย ออกโรงแนะนำให้บรรดานักหวดชายรุ่นใหม่ทุกคน เร่งเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในเวทีระดับเล็กๆให้ได้มากที่สุด เพื่อพัฒนาฟอร์มการเล่นขึ้นมาเทียบเท่านักหวดในระดับเอทีพี และก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญให้กับวงการลูกสักหลาดของไทยในศึกไทยแลนด์ โอเพน ในอนาคต

หวดวัย 31 ปี มีคิวลงสนามแมตซ์แรกในศึกไทยแลนด์ โอเพน พบกับ โก โซเอดะ หวดมือ 52 ของโลกจากญี่ปุ่น โดย “เจ้าปิ๊ก” ถือเป็นนักหวดเจ้าถิ่นเพียงคนเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในประเภทเดี่ยว หลัง “เจ้าแน็ค” พีระเกียรติ์ ศิริฤทัยวัฒนา รุ่นน้องที่ได้สิทธิ์ไวลด์การ์ดแข่งในปีนี้ ชิงตกรอบไปก่อนหน้า

สถานการณ์ของวงการเทนนิสชายไทย เวลานี้ค่อนข้างมืดมนหลังยังหาตัวตายตัวแทนของ “ซูเปอร์บอล” ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตมือ 9 ของโลก และ ดนัย อุดมโชค ไม่ได้ โดยเฉพาะรายหลังที่มีข่าวเตรียมแขวนแร็กเกตในอนาคต แต่ทั้งนี้ “เจ้าปิ๊ก” ก็ยังเชื่อมั่นว่าบรรดาหวดดาวรุ่งของไทย สามารถก้าวขึ้นมาสร้างชื่อแทนตนในการแข่งขัน ไทยแลนด์ โอเพน ในปีต่อไป หรือรายการอื่นๆในอนาคตอย่างแน่นอน

โดยหวดมือ 145 ของโลก เปิดเผยกับ MGR Sport ว่า “ผมอยากแนะนำน้องๆทุกคนว่าเวลานี้ควรตระเวนบินไปลงแข่งขันรายการระดับ ฟิวเจอร์ คัพ หรือ ชาแลนเจอร์ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และพัฒนาฝีมือให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากทำผลงานได้ดี อันดับโลกก็จะดีขึ้น และสามารถลงแข่งได้ทันทีโดยไม่ต้องขอไวลด์การ์ดจากผู้จัด ซึ่งผมมั่นใจว่าถ้าทุกคนโชว์ฟอร์มได้ดี พวกเขาก็จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในการแข่งขันที่บ้านเกิดในอนาคต”

ขณะเดียวกัน “เจ้าปิ๊ก” มองภาพรวมการจัดการแข่งขันตลอด 10 ปีที่ผ่านมาว่า เป็นทัวร์นาเมนต์ที่มีมาตรฐานที่ดีไม่แพ้รายการอื่นๆของเอทีพี ทั่วโลก และเชื่อว่าการน่าจะมีการต่อสัญญาทัวร์นาเมนต์นี้ออกไปอีกหลังสัญญาจะหมดลงในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าเป็นเรื่องยากหากจะยกระดับทัวร์มาเมนต์จาก 250 แต้ม เป็น 500 แต้ม เพราะมีรายการระดับ 500 แต้มอยู่แล้วที่ญี่ปุ่นและจีน รวมถึงปัจจัยอื่นๆเช่นจำนวนที่นั่งผู้ชม, ผู้สนับสนุน และ เงินรางวัลที่ยังน้อยหากเทียบกับรายการอื่น โดยหากไทยต้องการยกระดับทัวร์นาเมนต์ก็ควรมีการปรับปรุงในส่วนนี้ก่อน

ส่วนข้อซักถามที่ว่าปีนี้ไม่มีนักเทนนิสระดับท็อป 4 อย่าง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์, โนวัค ยอโควิช ฯลฯ บินมาร่วมแข่งเพื่อเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 10 ของศึกไทยแลนด์ โอเพน “เจ้าปิ๊ก”แสดงทัศนะทิ้งท้ายว่า “ผมว่าปีนี้เป็นปีที่หนักหนาสาหัสสำหรับผู้เล่นทุกคน เพราะนอกจากแกรนด์สแลมแล้วยังมีรายการโอลิมปิกสอดแทรกเข้ามา และทัวร์นาเมนต์ของไทยก็เป็นรายการระดับเล็ก ทำให้มือดังหลายคนต่างต้องการใช้ช่วงเวลานี้พักผ่อนหรืออยู่กับครอบครัว เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายก่อนลงหวดรายการระดับมาสเตอร์สที่เมืองจีนอีก 2 สัปดาห์หน้า ซึ่งคงต้องรอดูว่าปีหน้าจะมีใครมาเล่นที่เมืองไทยบ้าง”