xs
xsm
sm
md
lg

"นพ-เฮง" โต้ "ยี" ร่วมรับผิดแมตช์อัปยศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อรรณพ สิงห์โตทอง
"เสี่ยนพ" อรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี โต้ วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย หลังถูกพาดพิงในงานแถลงข่าว ชี้ถ้าจะรับความดีความชอบแชมป์ซีเกมส์ 8 สมัย ก็ต้องรับในส่วนของแมตช์อัปยศไทเกอร์ คัพ ครั้งที่ 2 ด้วย เพราะขณะนั้น "บังยี" นั่งตำแหน่งเลขาธิการสมาคมฯ พร้อมย้ำต้องเคลียร์ได้ว่าเงินจากบริษัท แดอัน 21 ที่โอนมากว่า 30 ล้านบาท มีเส้นทางงบดุลเป็นอย่างไร

หลังจากที่ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ออกโรงฉะ อรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี กลางงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา ว่ามีปัญหาอะไรให้พูดต่อหน้า ไม่ใช่ไปพูดลับหลัง พร้อมจวก “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล เฮดโค้ชฉลามชล ควรอยู่เงียบๆ พร้อมชี้ให้ไปดูแมตช์อัปยศ ศึกไทเกอร์คัพ ครั้งที่ 2 ( ปี 2541 รอบแบ่งกลุ่ม ระหว่าง ทีมชาติไทย ปะทะ อินโดนีเซีย ที่ผ่านเข้ารอบไปแล้วทั้งคู่ ซึ่งนัดนั้นถูกกล่าวหาว่าทั้งสองทีมเล่นกันอย่างไร้สปิริต)

ล่าสุด "เสี่ยนพ" อรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี ได้ออกมาเผยถึงเรื่องนี้ว่า "ที่วรวีร์พูดมาผมว่ามันไร้สาระ เวลาเขาเชิญมาออกรายการทำไมไม่มา ซึ่งผมเป็นคนตกลงกับทางรายการให้จัดเชิญมาแล้ว แต่ก็ยังไม่มา ทั้งตัวนายกฯ เลขาฯ และประธานทีพีแอล แล้วก็มาหาว่าผมพูดลับหลัง ทั้งที่พูดต่อหน้าสื่อในรายการชัดเจน ซึ่งผมอยากให้มาและให้เตรียมหลักฐานมาด้วย ไม่ใช่พอถามไปแล้วได้คำตอบกลับมาว่า ให้ส่งหนังสือมาก่อน ทั้งที่ตนเองเป็นถึงนายกสมาคมฯน่าจะตอบได้"

รองประธานชลบุรีกล่าวต่อว่า "ตอนนี้ตัวเอง (วรวีร์ )ถูกข้อกล่าวหาเยอะแยะน่าจะเอาเวลาไปแก้ต่างตรงนั้นมากกว่า เอาตัวเองให้รอดก่อน เคลียร์ให้กระจ่างก่อน ไม่ใช่ไปหาเรื่องโทษคนอื่น ส่วนของ "โค้ชเฮง" เรื่องก็ผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว และเขาก็ถูกประชาชนพิพากษาไปแล้ว แต่จากนั้นเขาก็ทำประโยชน์ต่อวงการฟุตบอลมาตลอด"

"และในกรณีนั้นต้องไปถามว่าใครเป็นคนดูแลทีม ใครเป็นคนสั่ง และที่สำคัญสมัยนั้นตัวเอง (วรวีร์) ก็นั่งตำแหน่งเลขาสมาคมฯอยู่ด้วย ทำไมไม่ขัด จะมาบอกว่าเอาความดีความชอบแชมป์ซีเกมส์ 8 สมัยใส่ตัวอย่างเดียวมันไม่ได้ เพราะในไทเกอร์คัพครั้งนั้น วรวีร์ ก็อยู่ในสมัยอัปยศนั้นด้วยทำไมไม่ร่วมรับความผิดไปด้วย"

นายใหญ่ฉลามชลยังเผยต่อว่า "ส่วนในกรณีของบริษัทแดอัน 21 ประเทศเกาหลีใต้ นั้นผมไม่รู่ว่าใครเป็นคนผิดสัญญาหรืออะไร แต่ในฐานะสโมสรสมาชิกผมอยากจะรู้ว่าเงินก้อนนั้นกว่า 30 ล้านบาท ไปอยู่ไหน เส้นทางการเงินเป็นอย่างไร ซึ่งตอนแรกที่มีข่าวออกมา วรวีร์ออกมาบอกว่าโดนดิสเครดิต แต่สุดท้ายก็ยอมรับว่ามีเงินเข้ามาจริง แต่ที่สำคัญต้องตอบให้ได้ว่าเงินจำนวนดังกล่าวอยู่ในงบดุลของสมาคมฯหรือไม่ ใครเป็นผู้เซ็นจ่ายออกไป ซึ่งอำนาจของนายกสมาคมฯสามารถเซ็นวงเงินออกได้จำนวนเท่าไหร่ มีใครร่วมเซ็นด้วยไหม และมีรายงานการประชุมหรือไม่ว่าได้นำเงินนั้นไปทำอะไร"

ด้าน “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล กุนซือชลบุรี เอฟซี กล่าวผสมโรงว่า "แมตช์นั้นเป็นเรื่องเก่าๆ ที่นานมาแล้ว แต่นายวรวีร์อยากจะพูดเพื่อมาดิสเครดิสตน ซึ่งสมัยนั้น นายวรวีร์ ที่อยู่ในตำแหน่งเลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ ในยุควิจิตร เกตุแก้ว เป็นนายกสมาคมฯ และมี นายถิรชัย วุฒิธรรม เป็นผู้จัดการทีม ได้สั่งตนว่าไม่ต้องส่งผู้เล่นบางคนลงสนาม เพราะมีการโกงอายุ และทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) อาจจะแบนประเทศไทยห้ามแข่งขันฟุตบอลในทุกๆ ระดับอายุ 3 ปีขึ้นไป"

“แมตช์นั้นสมาคมฯให้ผมเล่นแค่เสมอกับอินโดนีเซียเพียงเท่านั้น ในนัดสุดท้ายของรอบแรกศึกไทเกอร์คัพเพื่อหนีเจ้าภาพเวียดนาม แต่ อินโดนีเซีย ดันไปยิงประตูตัวเองส่งผลให้ ไทยชนะ 3-2 คุณวรวีร์พาล ขุดเรื่องเก่าๆ มาพูด ผมว่าคนที่โกงอะไรไว้น่าจะรู้ตัวเองดี คนโกงอยู่ไม่ได้แน่นอน และผมเชื่อว่าเมืองไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองจะทำให้คนโกงอยู่ไม่ได้ และที่ผมพูดเรื่อยมาคือการบริหารของสมาคมฯ คุณวรวีร์บริหารจัดการไม่เป็น ซึ่งผมไปพูดที่ไหนๆ ผมก็จะบอกแบบนี้ว่าการบริหารจัดการไม่ดี เรื่องที่ดินหรือเรื่องส่วนตัว ผมไม่ยุ่งหรอก” กุนซือมากประสบการณ์ทิ้งท้าย
โค้ชเฮง แฉโดนใบสั่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น