โรแม็ง โกรส์ช็องค์ นักขับเลือดเฟรนช์ของทีมโลตัส เรโนลต์ ในศึกฟอร์มูลา วัน ถูกเอฟวัน ลงโทษห้ามลงแข่งขันสนามที่ 13 ของฤดูกาล 2012 "อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์" ในสัปดาห์หน้า หลังก่ออุบัติเหตุชนกับคู่แข่งกระจุยตั้งแต่รอบแรกในศึกเบลเยียม กรังด์ปรีซ์ รอบชิงเมื่อคืนวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา
ศึก"เบลเยียม กรังด์ปรีซ์" จบลงด้วยชัยชนะของ เจนสัน บัตตัน ของแม็คลาเรน ที่ซิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 29 นาที 08.530 วินาที แต่หากเป็นการกลับมารีสตาร์ทแข่งใหม่ หลังรอบแรกมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เมื่อรถของโกรส์ช็องค์ ที่พยายามแซงขึ้นหน้าไปเกี่ยวโดนล้อรถของ ลูอิส แฮมิลตัน ของแม็คลาเรน จนควบคุมไม่อยู่และไปชนเข้ากับรถของ เฟร์นานโด อลอนโซ และ เซร์จิโอ เปเรซ ของเซาเบอร์ จนหลุดออกนอกแทร็ก และทำให้ทั้ง 4 คนต้องออกจากการแข่งขันในที่สุด
หลังเกิดเหตุ ล่าสุด เอฟวัน ได้ทำการลงโทษ โกรสช็องค์ ต้นเหตุของเรื่องด้วยการสั่งห้ามลงแข่งขันสนามต่อไปในรายการ "อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์" ที่อิตาลี ระหว่างวันที่ 7-9 ก.ย. นี้ แถมโดนปรับเงินเพิ่มอีก 50,000 ยูโร (ประมาณ 2.1 ล้านบาท) ซึ่งทั้งนักซิ่งชาวฝรั่งเศส และ เอริค บูลิเยร์ ทีมบอสของเรโนลต์ ก็ยอมรับบทลงโทษนี้แต่โดยดี
หลังจบการแข่งขัน แฮมิลตัน แม้ไม่พอใจที่ โกรส์ช็องค์ เป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าตัวออกจากการแข่งขัน แต่ก็พยายามเลี่ยงไม่ต่อว่าเพื่อนร่วมอาชีพผ่านสื่อ โดยกล่าวว่า "ผมโล่งอกที่ไม่มีใครบาดเจ็บ ว่าแต่ทำไมผมต้องต่อว่า โรแม็ง ด้วย ใครจะสนใจในสิ่งที่ผมคิด มันก็แค่ไม่ใช่สัปดาห์ที่ดีของผมเท่านั้น" ขณะที่ อลอนโซ ผู้นำในตารางชิงแชมป์โลก แม้ถูกตัดแต้มออกไป 24 แต้ม แต่ยังมองในแง่ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและตัวเองรอดตายออกมาได้หวุดหวิด
ส่วน โกรส์ช็องค์ ที่ถือเป็นนักขับคนแรกที่โดนแบนจากการแข่งขันของศึกเอฟวัน นับตั้งแต่ปี 1994 ก็ออกมาสำนึกผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับจะหาเวลาเข้าไปขอโทษทุกคนในโอกาสต่อไป "ผมหวังว่าจะได้เข้าไปขอโทษพวกเขาทุกคนที่ต้องออกจากการแข่งขัน ที่ผ่านมาถือว่าผมไม่ระมัดระวังเองจน ลูอิส ต้องออกจากการแข่งขัน แต่ก็ขอบคุณจริงๆที่ไม่มีใครบาดเจ็บ"
ทั้งนี้ สำหรับการแข่งขันเรซต่อไป รายการ "แกรนด์ พรีมิโอ ซานตานเดอร์ ดิ อิตาเลีย" ณ สนามออโตโดรโม ดิ มอนซา ประเทศอิตาลี จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 7-9 ก.ย. นี้
ภาพอุบัติเหตุดังกล่าว