ฮิเดกิ มัสซูยามา นักกอล์ฟหนุ่มจากแดนอาทิตย์อุทัย เจ้าของอันดับสองของนักกอล์ฟสมัครเล่นโลกยืนยันเข้าร่วมการแข่งขัน"เอเชีย-แปซิฟิค อเมเจอร์" พร้อมมุ่งมั่นคว้าชัยชนะเป็นครั้งที่ 3 ณ สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ โดยรายการนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ทำการแข่งขันในระหว่างวันที่ 1- 4 พฤศจิกายนนี้
การแข่งขันกอล์ฟรายการ "เอเชีย-แปซิฟิค อเมเจอร์" เดิมใช้ชื่อการแข่งขันว่า "เอเชียน อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ" ซึ่งผู้ชนะเลิศจะได้รับสิทธิเข้าร่วมการแข่งขันรายการยิ่งใหญ่ของโลก "เดอะ มาสเตอร์ส" ที่สหรัฐอเมริกา โดยมัสซูยามา คว้าแชมป์รายการนี้ที่ญี่ปุ่นในปี 2553 และที่สิงคโปร์ในปี 2554 โดยในปีที่แล้ว มัสซูยามา จบอันดับที่ 27 ในการแข่งขันเดอะมาสเตอร์สครั้งแรกของเขา และได้รับรางวัลนักกอล์ฟสมัครเล่นที่ทำคะแนนต่ำที่สุด ส่วนในเดือนเมษายนที่ผ่านมาเขาสามารถผ่านการตัดตัวและจบอันดับ 54 ที่สนามออกัสต้า เนชั่นแนล กอล์ฟ คลับ
นอกจากนี้มัสซูยามายังคว้าแชมป์รายการ ไทไฮโย มาสเตอร์ส ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับอาชีพในเจแปนทัวร์เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และจากการคว้าแชมปรายการนี้ทำให้เขาก้าวขึ้นสู่การเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นอันดับต้นๆของเอเชีย และอาจก้าวสู่การเป็นนักกอล์ฟอาชีพในอนาคตอันใกล้
ทั้งนี้นักกอล์ฟหนุ่มและนักศึกษามหาวิทยาลัยฟูกูชิผู้นี้ ยืนยันที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน "เอเชีย-แปซิฟิค อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ" ณ สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ ในระหว่างวันที่ 1-4 พฤศจิกายนนี้ โดย กล่าวว่า "ผมหวังว่าจะสามารถคว้าแชมป์รายการนี้อีกครั้ง เพื่อจะได้สิทธิไปแข่งขัน เดอะ มาสเตอร์ส ในปีหน้าผมมีประสบการณ์แข่งขันเดอะ มาสเตอร์ส สองปีที่แล้ว และรู้สึกรักมันมากผมปรารถนาที่จะได้กลับไปสนามออกัสต้าอีกครั้ง และจะเล่นให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป"
มัสซูยามา ซึ่งมีโปรแกรมเข้าร่วมการแข่งขัน ยูเอส อเมเจอร์ส ระหว่างวันที่ 13-19 สิงหาคมนี้ กล่าวเพิ่มเติมว่า "การคว้าแชมป์ครั้งแรกเมื่อปี 2553 ผมเล่นง่ายกว่า เพราะไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่การแข่งขันเดอะ มาสเตอร์ส ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผมเป็นอย่างมากผมตั้งใจอย่างยิ่งที่จะกลับไปแข่งขันรายการนี้ทุกปี และจะเล่นให้ดียิ่งๆขึ้นไป"
"ผมรู้สึกได้ถึงความกดดันสำหรับการแข่งขันในปีนี้ ผมแข็งแกร่งขึ้นและรู้สึกแตกต่างมีนักกอล์ฟฝีมือดีมากมายที่มีเป้าหมายอย่างเดียวกันคือการคว้าแชมป์รายการนี้เพื่อเป็นการการันตีการได้สิทธิลงเล่นในเดอะ มาสเตอร์ส ผมต้องมีสมาธิและมุ่งมั่นและวางแผนเกมของผมให้ดี" มัสซูยามา กล่าวทิ้งท้าย
การแข่งขัน "เอเชีย-แปซิฟิค อเมเจอร์" ในปีนี้จะมีนักกอล์ฟสมัครเล่นจากเอเชียเข้าแข่งขัน 120 คน จากประเทศที่เป็นสมาชิก 37 ประเทศจากเอเชีย แปซิฟิค กอล์ฟ คอนเฟดเดอเรชั่น (APGC) ซึ่งจะจัดการแข่งขัน "เอเชีย-แปซิฟิค อเมเจอร์" เป็นประจำทุกปีร่วมกับการแข่งขัน เดอะ มาสเตอร์ส และอาร์แอนด์เอ
สำหรับประเทศไทยในฐานะประเทศเจ้าภาพได้สิทธิส่งนักกอล์ฟสมัครเล่นเข้าจำนวน 10 คน ซึ่งจะแข่งขัน ณ สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ สนามแข่งขันสุดท้าทาย ซึ่ง ลี เวสต์วูดผู้คว้าแชมป์รายการ ไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ ณ สนามแห่งนี้เมื่อปีที่แล้ว และยังเป็นสนามแข่งขันรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายโซนเอเชีย เพื่อชิงสิทธิเข้าร่วมการแข่งขัน ดิ โอเพ่น แชมเปี้ยนชิพ นอกจากนี้สนามอมตะ สปริง ยังเคยเป็นสังเวียนการแข่งขันกอล์ฟแอลพีจีเอในปี 2549 อีกด้วย