สหรัฐอเมริกา ประกาศศักดาครองจ้าวเหรียญ “ลอนดอนเกมส์” ได้สำเร็จจากการคว้าไป 46 เหรียญทอง ด้วยการทิ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน 8 เหรียญทอง ขณะที่ทัพนักกีฬาไทยจบอันดับ 57 ของตาราง เมื่อเก็บมาได้ 2 เหรียญเงิน กับอีกหนึ่งเหรียญทองแดง
ปล่อยให้ จีน เถลิงบัลลังก์เหรียญครั้ง “ปักกิ่งเกมส์” เมื่อ 4 ปีก่อน มาในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2012 สหรัฐฯ ทวงคืนความยิ่งใหญ่สำเร็จ ด้วยการเก็บไป 46 เหรียญทอง 29 เหรียญเงิน 29 เหรียญทองแดง ล้มแชมป์เก่าลงได้โดย จีน ได้มา 38 เหรียญทอง 27 เหรียญเงิน และ 22 เหรียญทองแดง ขณะที่ “เจ้าภาพ” สหราชอาณาจักร รั้งอันดับ 3 ที่ 29 เหรียญทอง 17 เหรียญเงิน 19 เหรียญทองแดง
ทั้งนี้ “เอเอฟพี” สื่อชั้นนำออกมาแสดงความยกย่อง 2 ชาติเอเชีย อย่าง จีน และเกาหลีใต้ ถือเป็นผู้ชนะใน “ลอนดอนเกมส์” โดย จีน แม้ไม่สามารถยึดบัลลังก์จ้าวเหรียญเอาไว้ได้ อีกทั้งหลายชนิดกีฬาทำผลงานต่ำกว่าเป้า ไม่ว่าจะเป็น ยิงปืน ที่ได้มาเพียง 2 เหรียญทอง ยิมนาสติก จากเดิมที่ปักกิ่งกวาด 7 ทอง มาที่อังกฤษเหลือแค่ 3 ทอง รวมทั้งยังโชคร้ายที่ หลิว เสียง ซูเปอร์สตาร์นักวิ่งข้ามรั้ว 110 เมตรชาย ประสบปัญหาบาดเจ็บซ้ำ ขณะที่ หวัง เซียวลี และ หยู่ หยาง คู่มือ 1 ขนไก่ ก่อเรื่องงามหน้าโดนตะเพิดจากโอลิมปิกเกมส์ 2012 เนื่องจากแข่งกันแพ้กับทีมแบดมินตันเกาหลีใต้
ทว่า จีน ยังรักษามาตรฐานในกีฬาที่เป็นความหวังอย่าง กระโดดน้ำ, แบดมินตัน และ เทเบิลเทนนิส ที่พลาดไปแค่ 2 เหรียญทอง อีกทั้งพวกเขายังค้นพบฮีโรแห่งอนาคต เมื่อ ซุน หยาง ฉลามหนุ่มวัย 17 ปี และ เย่ ชี เหวิน เงือกสาววัย 16 ปี ประกาศศักดาในกีฬาว่ายน้ำ โดย ซุน หยาง กลายเป็นฉลามหนุ่มจีนคนแรกที่คว้าเหรียญทอง 400 เมตรฟรีสไตล์ พร้อมทั้งทำลายสถิติโลกฟรีสไตล์ 1,500 เมตร ขณะที่ เย่ ชี เหวิน ก็ได้ 2 ทองจาก ผลัดผสม 200 และ 400 เมตร
ซึ่ง ซุน หยาง ออกมาประกาศถึงความยอดเยี่ยมของนักกีฬาแดนมังกร “ใครๆ คิดว่า จีนกวาดเหรียญทองมากมาย เพราะการโด๊ปและใช้สารกระตุ้น แต่ผมบอกพวกคุณได้เลยว่า ความสำเร็จตรงนี้มาจากการทำงานอย่างหนัก เราฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อให้ได้มาซึ่งผลการแข่งขัน จีน ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าชาติอื่นๆ แล้ว”
ส่วน เกาหลีใต้ กลายเป็นชาติอันดับ 2 ของเอเชียที่ได้เหรียญรองจากจีน และติดท็อปเทน (ได้อันดับ 5) เมื่อเก็บมา 13 เหรียญทอง 8 เหรียญเงิน 7 เหรียญทองแดง ซึ่งความสำเร็จที่น่ายกย่อง คือ อิม ดอง-ฮุน โรบินฮูดหนุ่มที่สายตาพิการ แต่กลับกวาดเหรียญทองยิงธนูมาได้ พร้อมทำลายสถิติโลก ขณะที่ นักแม่นปืน, ยูโด และฟันดาบ สามารถคว้าเกียรติยศสู่มาตุภูมิเช่นกัน ถึงแม้ 4 นักตบลูกขนไก่สาว อย่าง ยุง คุง-อุน กับ คิม ฮา-นา และ ฮา ยุง อุน กับ คิม มิน ยุง สร้างรอยด่างพร้อยแกล้งแพ้แข่งกับ จีน และ อินโดนีเซีย ก็ตาม
สำหรับผลงานของชาติอื่นๆ ในเอเชีย ญี่ปุ่น ได้อันดับ 11 เก็บไป 7 ทอง 14 เงิน 17 ทองแดง ตามด้วย เกาหลีเหนือ (อันดับ 20) ที่ 4 ทอง 2 ทองแดง อุซเบกิสถาน (อันดับ 47) 1 ทอง 3 ทองแดง อินเดีย (อันดับ 55) 2 เงิน 4 ทองแดง มองโกเลีย (อันดับ 56) 2 เงิน 3 ทองแดง และไทย จบที่ 57 ได้ 2 เหรียญเงินจาก พิมศิริ ศิริแก้ว ยกน้ำหนักหญิง และแก้ว พงษ์ประยูร มวยสากลสมัครเล่น ขณะที่ทองแดงได้จาก ชนาธิป ซ้อนขำ นักเทควันโดสาว
โดย เกาหลีเหนือ การจบที่ 20 ถือเป็นอันดับดีที่สุดในรอบ 20 ปี ด้าน อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย มีชาติละ 1 เงิน 1 ทองแดง ส่วน ฮ่องกง ได้ฉลองเหรียญประวัติศาสตร์ 1 ทองแดง จากกีฬาจักรยาน และสิงคโปร์ ได้ทั้งหมด 2 ทองแดง หนึ่งในนั้นเป็นเหรียญประเภทบุคคลครั้งแรกในรอบ 52 ปี จาก เทียน เหว่ย เฟง นักปิงปองสาว
ปล่อยให้ จีน เถลิงบัลลังก์เหรียญครั้ง “ปักกิ่งเกมส์” เมื่อ 4 ปีก่อน มาในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2012 สหรัฐฯ ทวงคืนความยิ่งใหญ่สำเร็จ ด้วยการเก็บไป 46 เหรียญทอง 29 เหรียญเงิน 29 เหรียญทองแดง ล้มแชมป์เก่าลงได้โดย จีน ได้มา 38 เหรียญทอง 27 เหรียญเงิน และ 22 เหรียญทองแดง ขณะที่ “เจ้าภาพ” สหราชอาณาจักร รั้งอันดับ 3 ที่ 29 เหรียญทอง 17 เหรียญเงิน 19 เหรียญทองแดง
ทั้งนี้ “เอเอฟพี” สื่อชั้นนำออกมาแสดงความยกย่อง 2 ชาติเอเชีย อย่าง จีน และเกาหลีใต้ ถือเป็นผู้ชนะใน “ลอนดอนเกมส์” โดย จีน แม้ไม่สามารถยึดบัลลังก์จ้าวเหรียญเอาไว้ได้ อีกทั้งหลายชนิดกีฬาทำผลงานต่ำกว่าเป้า ไม่ว่าจะเป็น ยิงปืน ที่ได้มาเพียง 2 เหรียญทอง ยิมนาสติก จากเดิมที่ปักกิ่งกวาด 7 ทอง มาที่อังกฤษเหลือแค่ 3 ทอง รวมทั้งยังโชคร้ายที่ หลิว เสียง ซูเปอร์สตาร์นักวิ่งข้ามรั้ว 110 เมตรชาย ประสบปัญหาบาดเจ็บซ้ำ ขณะที่ หวัง เซียวลี และ หยู่ หยาง คู่มือ 1 ขนไก่ ก่อเรื่องงามหน้าโดนตะเพิดจากโอลิมปิกเกมส์ 2012 เนื่องจากแข่งกันแพ้กับทีมแบดมินตันเกาหลีใต้
ทว่า จีน ยังรักษามาตรฐานในกีฬาที่เป็นความหวังอย่าง กระโดดน้ำ, แบดมินตัน และ เทเบิลเทนนิส ที่พลาดไปแค่ 2 เหรียญทอง อีกทั้งพวกเขายังค้นพบฮีโรแห่งอนาคต เมื่อ ซุน หยาง ฉลามหนุ่มวัย 17 ปี และ เย่ ชี เหวิน เงือกสาววัย 16 ปี ประกาศศักดาในกีฬาว่ายน้ำ โดย ซุน หยาง กลายเป็นฉลามหนุ่มจีนคนแรกที่คว้าเหรียญทอง 400 เมตรฟรีสไตล์ พร้อมทั้งทำลายสถิติโลกฟรีสไตล์ 1,500 เมตร ขณะที่ เย่ ชี เหวิน ก็ได้ 2 ทองจาก ผลัดผสม 200 และ 400 เมตร
ซึ่ง ซุน หยาง ออกมาประกาศถึงความยอดเยี่ยมของนักกีฬาแดนมังกร “ใครๆ คิดว่า จีนกวาดเหรียญทองมากมาย เพราะการโด๊ปและใช้สารกระตุ้น แต่ผมบอกพวกคุณได้เลยว่า ความสำเร็จตรงนี้มาจากการทำงานอย่างหนัก เราฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อให้ได้มาซึ่งผลการแข่งขัน จีน ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าชาติอื่นๆ แล้ว”
ส่วน เกาหลีใต้ กลายเป็นชาติอันดับ 2 ของเอเชียที่ได้เหรียญรองจากจีน และติดท็อปเทน (ได้อันดับ 5) เมื่อเก็บมา 13 เหรียญทอง 8 เหรียญเงิน 7 เหรียญทองแดง ซึ่งความสำเร็จที่น่ายกย่อง คือ อิม ดอง-ฮุน โรบินฮูดหนุ่มที่สายตาพิการ แต่กลับกวาดเหรียญทองยิงธนูมาได้ พร้อมทำลายสถิติโลก ขณะที่ นักแม่นปืน, ยูโด และฟันดาบ สามารถคว้าเกียรติยศสู่มาตุภูมิเช่นกัน ถึงแม้ 4 นักตบลูกขนไก่สาว อย่าง ยุง คุง-อุน กับ คิม ฮา-นา และ ฮา ยุง อุน กับ คิม มิน ยุง สร้างรอยด่างพร้อยแกล้งแพ้แข่งกับ จีน และ อินโดนีเซีย ก็ตาม
สำหรับผลงานของชาติอื่นๆ ในเอเชีย ญี่ปุ่น ได้อันดับ 11 เก็บไป 7 ทอง 14 เงิน 17 ทองแดง ตามด้วย เกาหลีเหนือ (อันดับ 20) ที่ 4 ทอง 2 ทองแดง อุซเบกิสถาน (อันดับ 47) 1 ทอง 3 ทองแดง อินเดีย (อันดับ 55) 2 เงิน 4 ทองแดง มองโกเลีย (อันดับ 56) 2 เงิน 3 ทองแดง และไทย จบที่ 57 ได้ 2 เหรียญเงินจาก พิมศิริ ศิริแก้ว ยกน้ำหนักหญิง และแก้ว พงษ์ประยูร มวยสากลสมัครเล่น ขณะที่ทองแดงได้จาก ชนาธิป ซ้อนขำ นักเทควันโดสาว
โดย เกาหลีเหนือ การจบที่ 20 ถือเป็นอันดับดีที่สุดในรอบ 20 ปี ด้าน อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย มีชาติละ 1 เงิน 1 ทองแดง ส่วน ฮ่องกง ได้ฉลองเหรียญประวัติศาสตร์ 1 ทองแดง จากกีฬาจักรยาน และสิงคโปร์ ได้ทั้งหมด 2 ทองแดง หนึ่งในนั้นเป็นเหรียญประเภทบุคคลครั้งแรกในรอบ 52 ปี จาก เทียน เหว่ย เฟง นักปิงปองสาว