xs
xsm
sm
md
lg

"เล็ก"สานฝันต่อยอดซิวทอง-"ชุมพล"พอใจชงนายกอัดฉีด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"ปรีชา ต่อตระกูล" อุปนายกสมาคมเทควันโด พอใจภาพรวมเตรียมจ้างโค้ชเกาหลีเพิ่ม ขณะที่ "ชุมพล ศิลปอาชา" ไม่ติดใจผลงานนักกีฬาไทย หลังมวยการันตีเหรียญแน่นอนแล้ว ส่วน “น้องเล็ก-ชนาธิป”จอมเตะสาวเจ้าของเหรียญทองแดงขอไปให้ถึงทองใน “ริโอ เดอ จาเนโร เกมส์” ด้าน แก้ว พงษ์ประยูร หายกดดันหลังมีเหรียญทองแดงอยู่ในมือเจอรัสเซียด่านต่อไปมีลุ้น 50-50 ขณะที่โค้ช พ.ต.ธง ทวีคูณ มองไกลถึงรอบชิงชนะเลิศ 11 ส.ค.ระบุเป็นเป้าหมายสูงสุดในการมา โอลิมปิก ครั้งนี้

ทัพนักเทควันโดไทยทำผลงานได้ดีไม่เท่า ปักกิ่ง 2008 ซึ่งครั้งนั้น “น้องสอง” บุตรี เผือดผ่อง ทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศพร้อมมีเหรียญเงินติดมือ โดยหลังจอมเตะทั้ง 3 รายของสมาคมฯ ลงทำการแข่งขันครบทุกรุ่น นาย ปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า "ภาพรวมของเทควันโดโอลิมปิกหนนี้หากดูถึงจำนวนเหรียญเราไปไม่ถึงเหรียญทองหรือเหรียญเงินตามที่ตั้งเป้าไว้คงต้องบอกว่าน่าผิดหวัง แต่หากใครได้ดูแต่ละเกมที่นักกีฬาลงแข่งขันนั้นต้องบอกว่าเป็นเกมคุณภาพแทบทั้งสิ้น ทุกคนทุ่มเทและตั้งใจที่จะคว้าเหรียญให้ได้ ซึ่งจุดบกพร่องเล็กๆน้อยในแต่ละเกมคือบทเรียนสำคัญของเรา แต่หากถามผมแล้วต้องบอกว่าพอใจกับเด็กชุดนี้มาก ส่วนอนาคตขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคน ชนาธิป และ รังสิยา ยังเป็นกำลังสำคัญแน่นอน ส่วน เป็นเอก ใจจริงผมก็มองว่าเขายังเล่นได้อีกหลายปี แต่หากต้องการที่จะเปิดทางให้รุ่นน้องก็ต้องยอมรับกาาตัดสินใจ ซึ่งทางสมาคมเองอาจจะเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาเป็นทีมสตาฟโค้ชในอนาคต"

โดยอุปนายกสมาคมฯ ได้ทิ้งท้ายถึงการสร้างทีมในอนาคตว่า "เราเองมีการเตรียมทีมกันมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสมาคมก็ได้เซ็นสัญญากับโค้ชชาวเกาหลีอีกหนึ่งคนที่จะเข้ามาช่วยงานโค้ชเช ยอง ซอก โดยจะมาดูแลนักกีฬาเยาวชนที่มีมากกว่า 50 คนเพื่อดันสู่ทีมชาติชุดใหญ่ในอนาคต"

ทางด้าน ชนาธิป ซ้อนขำ เจ้าของเหรียญทองแดงรุ่น 49 กก.หญิงได้กล่าวถึงอนาคตของตนเองต่อจากนี้ว่า "จริงๆ แล้วต้องบอกว่ารู้สึกผิดหวังที่ไม่ผ่านเข้าไปชิงเหรียญทองตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราพลาดเองในช่วงท้ายของรอบรอบชนะเลิศที่พ่ายคู่แข่งจากสเปน 9-10 คะแนน จากนี้ไปคงต้องตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อมและไล่ตามความฝันของตัวเอง โดยมีเหรียญทองโอลิมปิกที่บราซิลเป็นเป้าหมาย" ส่วนเรื่องเงินอัดฉีดที่เบื้องต้นเจ้าตัวจะได้รับ 3 ล้านบาทนั้น "น้องเล็ก" เผยว่าเงินทั้งหมดจะนำไปให้พ่อกับแม่เพื่อใช้ภายในครอบครัวต่อไป

ซึ่งนายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ยันจะมีการจัดเลี้ยงต้อนรับ ชนาธิป จอมเตะหญิงอย่างยิ่งใหญ่พร้อมขบวนรถแห่รอบเมืองแน่นอน ด้านพ่อคำนึงและแม่ ณัฐชยา ซ้อนขำ เผยส่วนของครอบครัวคงไม่มีอะไรพิเศษคงทำอาหารที่ลูกชอบโดยเฉพาะผัดสะตอ แต่ต้องมีไข่ดาวเป็นส่วนหนึ่งในอาหารนั้นด้วย เพราะทุกทีที่กินอะไรก็ตาม "น้องเล็ก" ก็จะขอไข่ดาวทานด้วยเสมอ ปกติก็เป็นคนกินง่ายอยู่ง่ายอยู่แล้ว

ส่วนฝั่งของ "เจ้าไอ" เป็นเอก การะเกตุ จอมเตะหน้าหยกที่พลาดท่าพ่ายรอบชิงทองแดงต่อ ออสการ์ โอเบียโด ชนิดช็อกแฟนกีฬาชาวไทยทั้งสนาม เอ็กเซล เซนเตอร์ เนื่องจากทำแต้มขึ้นนำในช่วงท้าย แต่ถูกฝั่งของโคลัมเบียประท้วง ซึ่งผลออกมาเป็นคู่ต่อสู้ที่ได้ประโยชน์ ทำให้ว่าที่บัณฑิตใหม่จากรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ต้องพลาดคว้าเหรียญ โอลิมปิก อย่างน่าเสียดาย ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าอาจถึงเวลาที่ต้องเปิดโอกาสให้รุ่นน้องขึ้นมารับใช้ชาติต่อไป

เป็นเอก เผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า "วันนี้ไม่ใช่วันของผม เพราะพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะเอาเหรียญไปฝากพ่อแม่และประเทศไทย แต่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ดีนี่คือเรื่องของเกมกีฬา ส่วนอนาคตหลังจากนี้ ผมอาจจะรับใช้ชาติต่ออีกสักระยะ แต่หากมีนักกีฬารุ่นน้องที่ก้าวขึ้นมาก็คิดว่าจำเป็นที่จะต้องเปิดทางให้" พร้อมกันนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงอนาคตที่อาจหันไปเอาดีทางวงการบันเทิงนั้นเจ้าตัวยอมรับว่า "ทุกอย่างเป็นเรื่องของอนาคต ที่ผ่านมามีผู้กำกับรวมถึงค่ายภาพยนตร์ติดต่อเข้ามาเหมือนกัน ซึ่งหากโอกาสนั้นมาถึงอีกผมเองก็พร้อมที่จะพิจารณา"

ส่วนความเคลื่อนไหวของมวยสากลสมัครเล่นไทยที่เหลือ แก้ว พงษ์ประยูร ซึ่งเข้าถึงรอบตัดเชือกเพียงรายเดียว ทำให้การันตีเหรียญทองแดงแน่นอนแล้ว ได้กล่าวถึงความพร้อมก่อนจะขึ้นชกกับ ดาวิด อายราเปยัน จากรัสเซียว่า “ไฟท์นี้โอกาสอยู่ที่ 50-50 เพราะคู่ชกรายนี้แม้จะตัวเล็กกว่าแต่เราคงไม่ได้เปรียบสักเท่าไรเพราะเป็นนักมวยที่เดินหน้าบุกเหมือนกันวางแผนการชกเอาไว้ว่าต้องพยายามตัดลำตัวให้ได้มากที่สุดและเปิดเกมบุกก่อน คิดว่าน่าจะรับมือไหว” เมื่อถามว่าตอนนี้ได้ทองแดงอยู่ในมือแล้ว หวังถึงเหรียญทองเลยหรือไม่ แก้ว เผยว่า “ลึกๆแล้วผมก็อยากไปให้ถึงรอบชิงชนะเลิศแต่อยากทำผลงานแบบไฟท์ต่อไฟท์มากกว่าจะได้ไม่กดดันตนเอง” ขณะที่ "โค้ชธง" พ.ต.ธง ทวีคูณ มองว่าโอกาสอยู่ที่ 50-50 เช่นกัน แต่ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะไปถึงรอบชิงในวันที่ 11 สิงหาคมได้เพราะคือเป้าหมายสูงสุดในการมาโอลิมปิกหนนี้

ฟากครอบครัวของ แก้ว ที่กำแพงเพชร พ่อคำและแม่มะลิ พงษ์ประยูร ได้จัดสถานที่รองรับชาวบ้านที่มาร่วมเชียร์อย่างคึกคักร่วม 200 คนไม่ว่าจะเป็นจอโปรเจคเตอร์ 2 จอและทีวีขนาดใหญ่อีก 1 เครื่องรวมถึงอาหารกับเครื่องดื่มพร้อมสรรพ โดยก่อนขึ้นชกแม่ได้ถือเคล็ดจุดธูปกราบไว้บรรพบุรษและเครื่องเซ่นผลไม้คือแก้วมังกร โดยถือเคล็ดที่ลูกชายมีชื่อเล่นว่า แก้ว และจะเป็นมังกรคว้าชัยชนะครั้งนี้

ขณะเดียวกันที่รัฐสภาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์หลังถูกกระแซะถามเรื่องผลงานนักกีฬาไทยใน "ลอนดอน เกมส์" ว่าล้มเหลวหรือไม่ โดยกล่าวว่า "ผมไม่คิดเช่นนั้น เพราะทุกคนได้พยายามเต็มที่ แม้แต่สมาคมยกน้ำหนักที่จากเดิมดูเหมือนว่าจะมีปัญหา ทว่าเมื่อช่วยกันแล้วก็สามารถแข่งขันจนได้เหรียญเงินกลับมาซึ่งก็เป็นที่น่าพอใจ ขณะที่การพัฒนานักกีฬาไทยเราคงต้องทำตั้งแต่เด็กๆ เหมือนกับจีน โดยส่งเสริมเยาวชนให้เข้าเรียนโรงเรียนกีฬาของกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เหมือนปัจจุบันที่นักกีฬาส่วนใหญ่มาจากโรงเรียนกีฬาและสถาบันพลศึกษา ซึ่งการพัฒนานักกีฬาตั้งแต่ระดับประถม มัธยม ทางกระทรวงได้เตรียมแผนไว้อยู่แล้ว หากได้รับงบประมาณสนับสนุนอย่างเต็มที่ ก็คงจะสามารถพัฒนานักกีฬาไทยได้อย่างเต็มที่เช่นกัน"

โดยนายชุมพล ยังเปรยถึงเรื่องการมอบเงินอัดฉีดให้ฮีโร่ โอลิมปิก ว่า "ผมจะทำเรื่องเสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อขออนุมัติเงินรางวัลให้แก่นักกีฬาที่ได้รับเหรียญกลับมา ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของกองทุนพัฒนากีฬาอยู่แล้ว เมื่อนักกีฬาเดินทางกลับมาก็จะมีพิธีมอบกันต่อไป โดยกำหนดวางไว้คร่าวๆ หากวันที่14 ส.ค. นายกรัฐมนตรีไม่ติดภารกิจใด ก็จะให้มีพิธีมอบในวันดังกล่าว ส่วนจำนวนเงินได้เหรียญละเท่าไหร่นั้นก็เป็นไปตามกติกา"

กรณี "บิ๊กอ๊อด" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย แสดงความไม่พอใจผลงานแต่ละสมาคม นายชุมพล เผยว่า "เรื่องนี้ก็แล้วแต่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ หากมีแนวทางใดก็สามารถเสนอแนะมาได้ เพราะกระทรวงกีฬามีหน้าที่ผลิตนักกีฬา แต่ผู้ที่ดูแลนักกีฬาคือสมาคม ส่วนการกีฬาแห่งประเทศไทยมีหน้าที่สนับสนุนงบประมาณและผู้มีหน้าที่บริหารจัดการคือคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ดังนั้นจะเห็นว่าระบบการบริหารงานยังแยกกันออกเป็นส่วนๆ จึงต้องได้รับการบูรณาการและดูแลให้อยู่ที่เดียวกัน"
กำลังโหลดความคิดเห็น