ASTVผู้จัดการรายวัน-หลังศึกลอนดอนเกมส์ 2012 ปิดฉากลงโดยทัพนักกีฬาไทยคว้ามาได้ สองเหรียญเงิน แบ่งเป็นยกน้ำหนักหญิงหนึ่งเหรียญจาก "น้องแต้ว" พิมศิริ ศิริแก้ว และอีกหนึ่งเหรียญจาก มวยสากลสมัครเล่นรุ่นไลท์ฟลายเวต "แก้ว พงษ์ประยูร" ขณะที่เทควันโด "น้องเล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ สาวน้อยจากพัทลุงคว้าเหรียญทองแดงมาได้สำเร็จจากการแข่งขันเทควันโดรุ่น 49 กก.หญิง ซึ่งในวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ วัดไทยพุทธประทีป ทางสถานทูตไทยได้จัดพิธีถวายพระพรเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และพร้อมกันนี้ได้จัดเลี้ยงให้กำลังใจนักกีฬาไทยซึ่งมีเทควันโด และ มวยสากลสมัครเล่นที่ยังไม่เดินทางกลับโดยมีคนไทยในกรุงลอนดอนมาร่วมงานประมาณร่วมสองร้อยคน
ทั้งนี้บรรดานักกีฬาที่ยังไม่ได้เดินทางกลับเมืองไทยซึ่งมีสองสมาคมเป็นหลักคือ เทควันโด และ มวยสากลสมัครเล่น นั้นเดินทางมาถึงที่วัดในเวลาประมาณ 9.30 น. โดยนักกีฬาเทควันโด นั้นมากันครบทั้ง "น้องจูน" รังสิญา นิสัยสม "เจ้าไอร์" เป็นเอก การะเกตุ และ เจ้าของเหรียญทองแดง "น้องเล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ พร้อมด้วยผู้ใหญ่ของทางสมาคมฯ ไม่ว่าจะเป็นโค้ชเช "เช ยอง ซอก" นายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคม และนาย พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคม ส่วนมวยสากลสมัครเล่นนั้นนำโดย "โค้ชธง" พ.ต.ธง ทวีคูณ พร้อมด้วย นักชกเจ้าของเหรียญเงินคนล่าสุด "แก้ว พงษ์ประยูร" รวมถึงเพื่อนร่วมทีม "ฉัตรชัย บุตรดี" และ "สายลม อาดี" นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จากโอลิมปิกไทย และ นายธนา ไชยประสิทธิ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย
โดยพิธีการถวายพระพรเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ มีขึ้นในเวลาประมาณ 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นพิธีบรรดานักกีฬา และ คนไทยในลอนดอนได้ร่วมกันรับประทานอาหารและ มีการพูดคุยถึงการแข่งขัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับ "บิ๊กต้อม" นายธนา ไชยประสิทธิ์ถึงภาพรวมของผลงานนักกีฬาไทยในครั้งนี้โดยหัวหน้าคณะนักกีฬาไทยเผยว่า "ภาพรวมของทัพนักกีฬาไทยในครั้งนี้หากดูจากจำนวนเหรียญรวมและเหรียญที่ได้ต้องยอมรับว่าไม่เป็นไปตามเป้าที่วางเอาไว้ 2 เหรียญทอง อย่างไรก็ดีหากลงลึกในหลายๆชนิดกีฬาก็ต้องบอกว่าทุกคนได้ทำผลงานเต็มที่แล้ว แต่อาจไร้ดวงไปบ้าง อย่างยกน้ำหนักที่พลาดไปแบบเฉียดฉิว รวมถึงเทควันโดที่เหรียญหลุดมือในวินาทีสุดท้ายฉะนั้นก็คงไปโทษนักกีฬาไม่ได้ทั้งหมด อย่างไรก็ดีหลังกลับไปถึงเมืองไทยแต่ละสมาคมกีฬาคงต้องกลับไปวิเคราะห์หาสาเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อนำมาเป็นแนวทางแก้ไขสำหรับการเข้าแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติต่อไป"
ส่วนเรื่องของอนาคตในเก้าอี้หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยที่เจ้าตัวยืนยันว่าก่อนหน้านี้ว่าจะขอวางมือหลังจบศึกโอลิมปิก 2012 บิ๊กต้อมเผยว่า "ผมเองยังคงยืนยันคำเดิมว่าจะวางมือจากการเป็นหัวหน้าคณะนักกีฬาไทยหลังจบลอนดอนเกมส์ หลังผ่านประสบการณ์ในหน้าที่นี้มาถึง 3 สมัยติดต่อกัน ส่วนเรื่องของผู้ที่จะมารับตำแหน่งนี้หลังหมดวาระนั้น ตามข่าวที่ออกมาว่าอาจะเป็น เสธ.ยอด พล.ตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกสมาคมยกน้ำหนัก นั้น ผมมองว่าหากท่านพร้อมก็ถือว่าเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง"
ขณะที่ฝ่ายของนักชกไทยที่ พลาดโอกาสเข้าไปชิงเหรียญอย่างสายลม อาดีนั้น ได้กล่าวถึงโอกาสในการพัฒนาของวงการมวยไทยก่อนถึงโอลิปิกในอีก 4 ปีข้างหน้าว่า "นักมวยทั้ง 3 คนที่มาในครั้งนี้ แม้จะจำนวนน้อยกว่าทุกๆครั้งแต่ผมยืนยันได้เลยว่าทุกคนมุ่งมั่นและตั้งใจฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่ตลอดช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีการที่เราขาดทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องนั้นคือจุดที่ทำให้เราเสียเปรียบคู่แข่งหลายๆชาติ จริงอยู่ที่ทางสตาฟโค้ชจะพยายามทำการบ้านกันอย่างหนักด้วยการหาข้อมูลและเทปการชกของคู่แข่งจากเว็บไซต์ยูทูปมาศึกษา ทว่าในความเป็นจริงแล้วหากเราได้ลงนวมจริงๆ เราจะรู้จังหวะในการออกหมัด รู้จังหวะของกรรมการในการให้คะแนน รวมถึงรับสภาพกับสถานการณ์ต่างๆบนเวทีได้ดีกว่าการนั่งดูยูทูปแน่นอน"
โดยเจ้าของเหรียญเงินใหม่มาด ที่ต้องต่อสู้มาด้วยหยาดน้ำตาอย่าง "แก้ว พงษ์ประยูร" นั้นได้เผยถึงอนาคตของตนเอง พร้อมแนะมวยไทยจะดีกว่านี้หากมีไฟท์ที่ให้ประสบการณ์กับนักกีฬาโดยกล่าวว่า "ตอนนี้ผมอายุ 32 แล้ว โอลิมปิกหนนี้เป็นโอลิมปิกครั้งสุดท้าย ตลอดเวลา 12 ปีผมให้กับการแข่งขันอย่างเต็มที่ ต่อจากนี้คงขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสมาคมฯว่าจะให้ผมเข้าไปช่วยในทัวร์นาเมนท์เล็กๆบ้างหรือไม่ หรือถ้าสมาคมจะปั้นเด็กใหม่ผมก็ยินดีหลีกทางให้ เพราะใจจริงแล้วอยากเป็นโค้ชเพื่อปั้นนักชกรุ่นใหม่ๆขึ้นมา" ส่วนเรื่องเงินอัดฉีดที่จะได้รับนั้น "แก้ว" เผยว่า "ตอนนี้ยังไม่ได้คิดอะไร กลับไปถึงเมืองไทยคงต้องคุยกับครอบครัวอีกทีถึงตรงนี้ ผมอยากจะให้เวลากับครอบครัวมากขึ้นเพราะที่ผ่านมาพวกเขาเป็นกำลังใจให้เรามาตลอดถึงเวลานี้ก็อยากกลับไปอยู่กับเขานานๆ" ขณะที่เรื่องติดยศร้อยตรี นั้น "แก้ว" เผยว่า "ตอนนี้รอให้ทางผู้ใหญ่จัดการให้อยู่" ขณะที่ "โค้ชธง"ยืนยันว่าได้ติดยศนายร้อยแน่นอน เพราะทำผลงานขนาดนี้ถือว่าสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังได้พูดคุยกับ "เจ้าไอร์" เป็นเอก การะเกตุถึงอนาคตต่อจากนี้ หลังเจ้าตัวประกาศเลิกเล่นเพราะที่ผ่านมาทุ่มให้เต็มที่แล้ว โดย เป็นเอก เผยว่า "ที่ผมบอกว่าจะเลิกเล่นนั้น อันที่จริงแล้วกลับไปก็ยังคงซ้อมอยู่และแข่งในทัวร์นาเมนท์ที่เหลือ แต่ถ้าให้ผมอยู่ถึงโอลิมปิกอีกสี่ปีข้างหน้าคงไม่ใช่ เพราะเวลานั้นผมอายุ 26 ปีแล้วระหว่างทางมันมีอะไรเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อันที่จริงผมตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนร่วมการแข่งขันโอลิมปิกแล้วว่าจะขอทุ่มสุดตัว เมื่อผลออกมาเป็นเช่นนี้ผมก็ยอมรับ ต่อจากนี้ผมคงต้องหันกลับมาดูเรื่องอนาคตของตนเองบ้าง" ส่วน "น้องจูน" รังสิญา นิสัยสม นั้นเผยอนาคตในฐานะทีมชาติว่า "ยังคงไม่หมดกำลังใจและขอสู้ต่อไป เชื่อว่าประสบการณ์จากการแข่งขันจะทำให้เราแกร่งและพัฒนามากขึ้น"
ทางด้าน "น้องเล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ ซึ่งวันนี้กลายเป็นขวัญใจคนไทยในงานไม่แพ้แก้วเลยนั้น เผยถึงเส้นทางต่อจาก โอลิมปิก 2012 ว่าเป้าหมายเหรียญทองของเธออยู่ที่ โอลิมปิก 2016 "หนนี้ได้เหรียญทองแดง เพราะส่วนหนึ่งเราพลาด และ ประสบการณ์น้อยกว่าคู่ต่อสู้ ในอีกสี่ปีข้างหน้าจะพยายามพิสูจน์ให้เห็นว่าเทควันโดไทยก็สามารถคว้าเหรียญทองได้เช่นกัน" พร้อมกันนี้ยังเผยว่ากลับถึงเมืองไทยจะขอกลับไปเยี่ยมครอบครัวก่อน และจะกลับมาฝึกซ้อมทันที
โดยคณะนักกีฬาไทย และ เจ้าหน้าที่ได้อยู่ร่วมงานจนกระทั่งเวลาประมาณ 12.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) จากนั้นจึงทยอยเดินทางกลับเพื่อเข้าร่วมพิธีปิดการแข่งขันในช่วงเย็นซึ่ง ส่วนบทสรุปผลงานของนักกีฬาไทยในลอนดอน 2012 ซึ่งคว้ามาได้สองเหรียญเงิน หนึ่งเหรียญทองแดง ทำให้ไทยยังเป็นที่หนึ่งของอาเซียน เพราะในปีนี้ไม่มีชาติอาเซียนชาติใดคว้าเหรียญทองได้เลย และ เป็นที่ 6 ของเอเชียต่อจาก จีน ญี่ปุ่น เกาหลี คาซัคสถาน และ อุซเบกิซสถาน
