xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯจ้าวอลป.ไทยที่57 “บิ๊กจา”รับเก่งแต่ยังไม่เก๋า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-รูดม่านปิดฉากแล้วสำหรับ โอลิมปิก ครั้งที่ 30 ลอนดอน เกมส์ ที่ประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2555 พร้อมกับการทวงตำแหน่งจ้าวเหรียญทองของ สหรัฐอเมริกา หลังปล่อยให้ จีน ไปเชยชมนานถึง 4 ปี ขณะที่ ไทย คว้าอันดับ 57 โดยภาพรวม “บิ๊กจา” พล.ต จารึก อารีย์ราชการันต์ เลขานุการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย พอใจ เพราะนักกีฬาส่วนใหญ่เป็นเลือดใหม่ขาดเพียงแค่ประสบการณ์และก่อนทัวร์นาเมนต์เปิดฉากหลายสมาคมก็ต้องรับมือกับปัญหารุมเร้า

สหรัฐอเมริกา กวาดไปทั้งสิ้น 46 เหรียญทอง 29 เหรียญเงิน 29 เหรียญทองแดงมากที่สุด ตามด้วย สาธารณรัฐประชาชนจีน แชมป์เก่าที่ปักกิ่งเมื่อ 4 ปีก่อน 38 เหรียญทอง 27 เหรียญเงิน 22 เหรียญทองแดงและอันดับ 3 "เจ้าภาพ" สหราชอาณาจักร 29 เหรียญทอง 17 เหรียญเงิน 19 เหรียญทองแดงถือว่าประสบความสำเร็จผลงานดีกว่าหนที่แล้ว ขณะที่ทัพนักกีฬาไทยใน ลอนดอนส์ 2012 ที่ได้มา 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดงถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดในหมู่ประเทศอาเซียน (โดยปีนี้ไม่มีประเทศใดในอาเซียนที่สามารถคว้าเหรียญทองได้เลย) และถ้ามองภาพรวมในเอเชียไทยนั้นรั้งอันดับที่ 6 ต่อจาก จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อุซเบกิซสถาน และ คาซัคสถาน เรียกได้ว่าไม่ขี้เหร่สำหรับจำนวนนักกีฬาที่ได้สิทธิลงสนาม 37 คนแต่ถ้าจะประเมินตามผลงานไล่เรียงสมาคมที่หวังเหรียญรางวัลนั้นดูเหมือนว่ามีปัญหาที่ต้องกลับไปเคลียร์กันภายในมากพอสมควร

เริ่มด้วยสมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทยที่หนนี้ “เสธ.ยอด” พล.ต. อินทรัตน์ ยอดบางเตย ลงมาคุมด้วยตนเองพร้อมส่งหญิงแกร่งเฉพาะรุ่นที่มีลุ้น พนิดา คำศรี และ สิริวิมล ประมงคล พิกัดน้ำหนัก 48 กิโลกรัมและ 58 กิโลกรัมที่มีความหวังอย่าง พิมศิริ ศิริแก้ว และ รัตติกาล กุลน้อย โดยสุดท้ายเป็น “น้องแต้ว” พิมศิริ สาววัย 22 ปีจากขอนแก่น ที่พลิกชีวิตกลายเป็นฮีโร่คว้าเหรียญเงินจากผลงานอันยอดเยี่ยมท่าคลีนแอนด์เจิร์ก

“เสธยอด” พลตรี อินทรัตน์ กล่าวถึงผลงานของนักยกน้ำหนักไทยชุดนี้ว่า “แม้จะไม่ถึงเหรียญทอง แต่หนึ่งเหรียญเงินสำหรับผมและสมาคมนับเป็นภาพรวมที่น่าพอใจ โดยเฉพาะยกน้ำหนักชายที่สามารถสู้ได้และเกือบได้เหรียญรางวัลมาครองเช่นกัน สำหรับนักกีฬายกน้ำหนักชุดนี้เป็นเลือดใหม่ทั้งหมด ทุกคนมีสิทธิได้ไปโอลิมปิกในอีกสี่ปีข้าหน้าขึ้นอยู่กับว่าผลงาน ณ เวลานั้นจะเป็นเช่นไร” แต่ดูเหมือนว่าในอีกสี่ปีข้างหน้าอาจจะมีภาระเพิ่มขึ้น เมื่อ “บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ ประกาศถอนตัวจากการทำหน้าที่หัวหน้าคณะนักกีฬาที่อยู่ในตำแหน่งมา 12 ปี และมองว่าคนที่เหมาะสมน่าจะเป็น “เสธ.ยอด”
มาที่สมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ถือว่ามีระบบจัดการภายในเป็นระเบียบมากที่สุด นับตั้งแต่ นายพิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคม นายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคม และ โค้ช เช ยอง ซอก เข้ามาเป็น 3 ประสานจนเหล่าจอมเตะไทยก้าวมาอยู่แถวหน้าของกีฬาความหวังเหรียญ แต่สมาคมนี้เหมือนต้องคำสาปคนที่เป็นความหวังมักไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัล แต่ม้ามืดจะกลายมาเป็นคนที่สร้างผลงาน ครั้งนี้ก็เช่นกันช่วงระหว่างฝึกซ้อม ณ โรงเรียนแลงดอน ชานกรุงลอนดอน ผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการรายวัน ได้ขอให้ “โค้ชเช” เจาะจงคนที่คิดว่าจะเป็นม้ามืดซึ่งก็ทำอย่างไม่ลังเลโดยชี้มาที่ “น้องเล็ก” ชนาธิป ซ้อนขำ สุดท้ายสาวจากพัทลุงก็คว้าทองแดงจนได้

แม้จะได้เหรียญรางวัลแต่ดูเหมือนว่าเป็นผลงานที่ไม่ค่อยน่าพอใจนักและชัดเจนขึ้นเมื่อ “บิ๊กเอ” พิมล ให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขันของ เป็นเอก การะเกตุ กับ ชนาธิป ซ้อนขำ ว่า “เสียดายกับผลการแข่งขันที่สองนักเตะไทยน่าจะไปได้ไกลกว่านี้” ซึ่งภายหลังนายปรีชา ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการรายวันเช่นกันว่า “ภาพรวมของเทควันโดโอลิปเกมส์ปีนี้ หากดูถึงจำนวนเหรียญที่ออกมาที่เราไปไม่ถึงเหรียญทองหรือเงินตามที่ตั้งเป้าไว้คงต้องบอกว่าน่าผิดหวัง แต่หากใครได้ดูแต่ละเกมที่นักกีฬาของเราลงแข่งขันนั้นต้องบอกว่าเป็นเกมคุณภาพแทบทั้งสิ้น ทุกคนทุ่มเทและตั้งใจที่จะคว้าเหรียญให้ได้ ซึ่งจุดบกพร่องเล็กๆน้อยในแต่ละเกมคือบทเรียนสำคัญของเรา แต่หากถามผมแล้วต้องบอกว่าพอใจกับเด็กชุดนี้มาก”

"ส่วนอนาคตของนักกีฬาทั้ง 3 คนก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา ชนาธิป และ รังสิยา ยังเป็นกำลังสำคัญแน่นอนส่วน เป็นเอก ใจจริงผมก็มองว่าเขายังเล่นได้อีกหลายปี แต่หากต้องการที่จะเปิดทางให้รุ่นน้องก็ต้องยอมรับกาาตัดสินใจ ซึ่งทางสมาคมเองอาจจะเปิดโอกาสให้เข้ามาเป็นทีมสตาฟโค้ชในอนาคต ซึ่งในส่วนของทีมเทควันโดไทย เราเองมีการเตรียมทีมกันมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสมาคมก็ได้เซ็นสัญญากับโค้ชชาวเกาหลีอีกหนึ่งคนที่จะเข้ามาช่วยงานโค้ชเช โดยจะมาดูและนักกีฬาเยาวชนที่มีมากกว่า 50 คนในเวลาที่เพื่อสร้างนักกีฬาก้าวสู่ทีมชาติชุดใหญ่ในอนาคต" อุปนายกสมาคมเทควันโด เผย

ส่วนสมาคมที่เรียกได้ว่าเป็นความหวังเหรียญในทุกครั้งของการแข่งขันโอลิมปิกอย่างมวยสากลสมัครเล่นนั้น หลัง แก้ว พงษ์ประยูร คว้าเหรียญเงินชนิดที่ต้องหลั่งน้ำตาลูกผู้ชายกลางเวทีกับผลการตัดสินที่ค้านสายตาคนทั้งสนามและท่ามกลางความวุ่นวายประท้วงผลการแข่งขัน “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ นายใหญ่ของสมาคมมวยประกาศลาออกตามที่ให้สัญญาไว้ทันที โดยให้เหตุผผลว่าตนเองนั้นไม่สามารถทำงานร่วมกับสมาพันธ์ที่มีแนวทางไม่โปร่งใสอย่าง ไอบา ซึ่งการลาออกครั้งนี้ทำให้มีคำถามตามมาว่าใครจะเป็นนายกคนต่อไป แต่นอกจากการเลือกนายใหญ่แห่งวงการเสื้อกล้ามไทยคนใหม่แล้ว ยังมีการบ้านที่ สมาคมฯต้องไปจัดการให้เรียบร้อยคือระบบหลังบ้าน ที่ต้องยอมรับว่า ณ เวลานี้ความสัมพันธ์ระหว่างสมาคมกำปั้นไทย กับ ไอบา นั้นเรียกได้ว่าแทบจะเหินห่างและมีส่วนที่ทำให้ ลอนดอน 2012 มวยไทยเกือบสูญพันธ์จากตารางเหรียญเลยทีเดียว

ทิ้งท้ายกันด้วยภาพรวมจากมุมมองของ “บิ๊กจา” พล.ต จารึก อารีย์ราชการันต์ เลขานุการ คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยกล่าวถึงผลงานโดยรวมของนักกีฬาไทยว่า “ถ้าดูตามจำนวนโควต้าแล้วถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ อย่างมวยสากลสมัครเล่นซึ่งผู้บริหารชุดใหม่นั้นมีเวลาจัดการภายในสมาคมฯค่อนข้างน้อย และ ช่วงก่อนเดินทางมาโอลิมปิกยังประสบปัญหาที่เกือบทำให้นักมวยไทยไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน การพานักกีฬามาได้ถึงขนาดนี้ก็นับว่าอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ อย่างผมมีโอกาสได้คุยกับ เสธอ้าย เรื่องที่เขาบอกว่าถ้าไม่ได้เหรียญทองจะลาออก ผมมองว่าถ้าเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ก็นับว่าใช้ได้แล้ว”

ส่วนเรื่องเหรียญรางวัลที่ไม่เป็นไปตามเป้านั้น “บิ๊กจา” นายใหญ่แห่งบ้านอัมพวัน เผยว่า “อันที่จริงแล้วคณะทำงานทุกคนต่างก็อยากให้นักกีฬาไทยได้เหรียญรางวัลในโอลิมปิก แต่ด้วยสภาพและสภาวะการณ์ที่เรียกได้ว่าเรากำลังอยู่ในระหว่างสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ การทำผลงานได้ในระดับนี้ก็นับว่าเป็นที่น่าพอใจ อย่างเทควันโด นั้นต้องเรียกว่าเจอของยากเพราะผลจับสลากประกบคู่ทำให้ตัวเต็งของเรา เป็นเอก การะเกตุ ไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลได้ แต่ก็ได้มาหนึ่งเหรียญจากประเภทหญิง ชนาธิป ซ้อนขำ ก็เรียกว่าเป็นที่น่าพอใจ แต่น่าเสียดายที่เกือบจะถึงรอบชิงอยู่แล้ว เพียงแต่เราแพ้ประสบการณ์คู่ต่อสู้เท่านั้นเอง”.
กำลังโหลดความคิดเห็น