ดร.ณัฐ อินทรปาณ ไอโอซีเมมเบอร์หนึ่งเดียวจากไทย ระบุควรปรับการให้คะแนนเทควันโดอลป.ใหม่ โดยเฉพาะการเตะศรีษะ 3-4 แต้มมากเกินไป แถมเป็นอันตรายต่อนักกีฬา พร้อมชี้การตัดสินของกรรมการใน “ลอนดอนเกมส์” ยังมีปัญหาจนทำให้เด็กไทยชวดชิงเหรียญทอง
ดร.ณัฐ อินทรปาณ สมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) ประจำประเทศไทย ในฐานะผู้ควบคุมดูแลการแข่งขันกีฬาเทควันโดในโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า จากการแข่งขันกีฬาเทควันโดในลอนดอนเกมส์ครั้งนี้ สิ่งที่ตนเห็นว่า ควรจะปรับปรุงเสียใหม่ ก็คือ กติกาการให้คะแนนสำหรับการเตะศีรษะของนักกีฬา หลังสหพันธ์เทควันโดโลกได้กำหนดการให้คะแนนสำหรับโจมตีที่เกราะ 1 คะแนน, กลับหลังเตะเกราะ 2 คะแนน, เตะศีรษะ 3 คะแนน และ กลับหลังเตะศีรษะ หรือ แบ็กคิก 4 คะแนน โดย ดร.ณัฐ มองว่า การให้คะแนนสำหรับการโจมตีศีรษะนั้น มีคะแนนมากเกินไป จูงใจให้นักกีฬาเน้นตรงจุดสำคัญดังกล่าวมากขึ้น ทำให้เกิดอันตรายกับคู่ต่อสู้ได้
“กติกาที่ผมมองว่า น่าจะเปลี่ยนเสียใหม่ ก็คือ การเตะที่หัวให้ 3-4 คะแนน ตรงนี้ถือว่า มันเป็นอันตรายสำหรับผู้เล่นมาก เพราะทุกคนจะเน้นเตะที่หัวกันเป็นส่วนใหญ่ หวังทำคะแนนเยอะๆ การแข่งขันกีฬาไม่ควรจะเสี่ยงอันตรายกันมากขนาดนั้น เนื่องจากที่ผ่านมาก็เคยมีการนำนักกีฬาส่งโรงพยาบาลมาแล้วหลายราย เพราะโดนเตะที่ศีรษะ หรือไม่ก็สลบคาสนามไปเลยก็มีมาแล้ว ดังนั้น จึงอยากให้สหพันธ์เทควันโดโลกพิจารณาแก้ไขเรื่องนี้ด้วย” ดร.ณัฐ กล่าวให้รับทราบ
ไอโอซีเมมเบอร์จากประเทศไทย ยังเผยถึงผลงานของนักเทควันโดของไทยว่า สมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทยได้เตรียมตัวนักกีฬาทั้ง 3 คนมาดีแล้ว แต่ของแบบนี้นอกเหนือจากฝีเท้าที่ดีของเด็ก ยังต้องมีเรื่องบุญวาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ถึงจะทำให้นักกีฬาประสบความสำเร็จคว้าเหรียญทองกลับมาได้ ยกตัวอย่างในเกมคู่ของ "น้องเล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ กับ บริกิตต์ ยานเก เอ็นริเก จากสเปน ในรอบรองชนะเลิศนั้น ซึ่งเด็กไทยพ่ายไปอย่างหวุดหวิดนั้น มีอยู่จังหวะหนึ่ง ที่สาวไทยโดนชกที่ไหล่ ซึ่งตามกติกาต้องไม่ได้แต้ม แต่กรรมการกลับให้แต้ม ซึ่งทาง “โค้ชเช” เช ยอง ซอก ไม่สามารถทำการประท้วงได้ เนื่องจากใช้สิทธิ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้ ชนาธิป พลาดเข้าไปชิงเหรียญทองแบบน่าเสียดาย นอกจากนี้ในเรื่องการใช้ภาพช้ามาตัดสินนั้นกลับเลือกดูเพียงมุมเดียว ทั้งที่จริงมีกล้องถึง 6 ตัวต้องดูให้ครบทุกมุมถึงค่อยตัดสินออกมาได้
