อูเซนต์ โบลต์ ลมกรดหนุ่มชาวจาเมกา ประเดิมคว้าเหรียญทองแรกในการแข่งขันกรีฑาโอลิมปิก ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้สำเร็จ หลังวิ่งคว้าชัยในการแข่งขันประเภท 100 เมตรชาย เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมสร้างสถิติใหม่ในการแข่งขันโอลิมปิก ด้วยเวลา 9.63 วินาที
ศึกกรีฑา “ลอนดอนเกมส์” ที่สนามโอลิมปิก สเตเดียม เดินทางเข้าสู่วันที่ 3 โดยไฮไลต์สำคัญบนลู่วิ่งวันนี้ อยู่ที่การแข่งขันกรีฑาประเภท 100 เมตรชาย ซึ่งมี อูเซนต์ โบลต์ ลมกรดวัย 25 ปี ชาวจาเมกา ลงป้องกันแชมป์ โดยมี โยฮัน เบลค เพื่อนร่วมชาติเป็นคู่ชิงชัยคนสำคัญ โดย โบลต์ ทำผลงานรอบรองชนะเลิศเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลา 9.87 วินาที ส่วน เบลค เข้าเป็นที่ 2 ด้วยเวลา 9.85 วินาที
ปรากฏว่า ในรอบสุดท้าย โบลต์ ที่ออกสตาร์ทจากลู่วิ่งได้ไม่ดีนัก กลับมาเร่งแซงคู่แข่งอีก 7 คนที่เหลือในช่วง 50 เมตรสุดท้าย และเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา 9.63 วินาที ถือเป็นสถิติใหม่ในโอลิมปิก หลังเมื่อ 4 ปีก่อน “ธันเดอร์โบลต์” สร้างสถิติไว้ที่ 9.69 วินาที อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถทำลายสถิติโลกที่เจ้าตัวเคยทำไว้ในเบอร์ลิน ที่ 9.58 วินาที ในปี 2009 ได้
ส่วน โยฮัน เบลค คู่แข่งคนสำคัญของ โบลต์ คว้าเหรียญเงินหลังวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 2 ด้วยเวลา 9.75 วินาที ด้าน จัสติน กัทลิน จากสหรัฐอเมริกา ซิวเหรียญทองแดงด้วยเวลา 9.79 วินาที ส่วน อาซาฟา พาวว์ ลมกรดจอมเก๋าจากจาเมกา วิ่งเข้ามาเป็นที่โหล่ด้วยเวลา 11.99 วินาที หลังมีปัญหาบาดเจ็บระหว่างทาง
หลังจบการแข่งขัน ชายที่เร็วที่สุดในโลก เปิดเผยว่า “กุญแจสำคัญสำหรับชัยชนะของผมนั้น มันมีการเตรียมการไว้แล้ว เมื่อเวลาแห่งการแข่งขันมาถึง ก็ถือเป็นหน้าที่ที่ผมต้องทำและคว้าชัยมาให้ได้ ซึ่งเวลานี้บอกได้เลยว่าผมรู้สึกดีและมีความสุขเป็นอย่างมาก”
ขณะที่การชิงชัยในประเภท 400 เมตรหญิง ปรากฏว่า ซานยา ริชาร์ด รอสส์ ลมกรดหญิงชาวอเมริกัน ผงาดคว้าเหรียญทองมาครองให้ทัพกรีฑาแดนลุงแซมได้ตามคาด หลังวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา 49.55 วินาที ด้าน “แชมป์เก่า” คริสติน โอฮูรูโอกู เจ้าถิ่น ทำได้เพียงเหรียญเงิน ส่วนเหรียญทองแดงนั้น เป็นของ ดีดี ทร็อตเตอร์ จากอเมริกา