"ฉัตรชัย" เสียดายชวดเหรียญอลป.ฝากลูก

ฉัตรชัย บุตรดี กำปั้นทีมชาติไทย ยอมรับความพ่ายแพ้หลังโดนกำปั้นหนุ่มจากคิวบา เขี่ยตกรอบสองในการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นในโอลิมปิก เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา พร้อมรับเสียดายที่หนนี้ไม่มีเหรียญกลับไปฝากลูก แต่ยืนยันจะขอกลับแก้ตัวอีกครั้งในโอลิมปิก 2016 ที่บราซิล

การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น รุ่น 52 กก.ชาย ฉัตรชัย ขึ้นสังเวียนรอบสองพบกับ โรไบซี รามิเรซ คาร์ราซานา กำปั้นวัยละอ่อนจากคิวบา ทว่า "เจ้าสด" กลับโชว์ฟอร์มไม่ออกโดนคู่แข่งไล่ถลุงเอาชนะไป 22-10 คะแนน หลังชกครบ 3 ยก ตกรอบไปอีกราย ทำให้ไทยเหลือ แก้ว พงษ์ประยูร เป็นความหวังลุ้นเหรียญคนสุดท้ายของไทยในรุ่น 49 กก.

หลังจบการแข่งขัน ฉัตรชัย กล่าวถึงการชกของตนเองว่า "ผมต้องขอโทษพี่น้องชาวไทยทุกคนที่ทำให้ผิดหวัง วันนี้รูปมวยเราเป็นรองคิวบาจริงๆนักมวยคนนี้มีจังหวะที่ดีและเร็ว ยกแรกนั้นหลังถูกนับ 8 และด้วยคะแนนที่ห่างกันสองหมัด ทำให้ยกสองต้องเปิดเกมบุก เลยเข้าทางคิวบา ส่วนตัวแล้วรู้สึกเสียดายแต่ไม่เสียใจ และไม่ติดใจการตัดสิน วันนี้เราแพ้เขาจริงๆ ก่อนขึ้นชกในโอลิมปิกหนนี้ผมได้เผื่อใจไว้บ้างแล้ว ถือว่าเป็นประสบการณ์ให้เรานำกลับไปพัฒนาตนเอง หลังจากนี้ยังคงยืนยันที่จะรับใช้ทีมชาติต่อไปและจะต้องคว้าเหรียญรางวัลในอีกสี่ปีข้างหน้าที่ ริโอ เดอ จาเนโร ให้ได้"

ทั้งนี้ "เจ้าสด" ยังเผยอีกหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลต่อนักมวยไทยในโอลิมปิกหนนี้ว่า "การพบกับนักมวยคิวบา หนนี้แสดงให้เห็นว่าประสบการณ์บนเวทีของพวกเรายังน้อย หากได้อุ่นเครื่องชกมากกว่านี้ผมเชื่อว่าเราต้องสู้เข้าได้อย่างแน่นอน"

นอกจากนี้ฉัตรชัย ยังเผยว่าเสียดายที่ไม่ได้เอาเหรียญโอลิมปิกกลับไปฝากลูกที่กำลังจะคลอดในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ว่า "ผมตั้งใจว่าถ้าได้เหรียญรางวัลในโอลิมปิกหนนี้จะนำไปให้ลูกที่กำลังจะคลอดในวันช่วงปลายเดือนสิงหาคม เมื่อพ่ายนักมวยจากคิวบาแบบนี้ ของฝากลูกที่กำลังจะเกิดคงเป็นเสื้อผ้าเด็กที่ซื้อไว้บางส่วนแล้วในช่วงที่ไปเก็บตัวที่แมนเชสเตอร์"

ด้าน "โค้ชธง" พันตรี ธง ทวีคูณ โค้ชทีมกำปั้นไทย เผยสาเหตุที่ ฉัตรชัย พ่ายนักมวยจากคิวบา ถึง 12 หมัดว่า "ต้องยอมรับว่านักมวยจากคิวบาคนนี้มีความเร็ว และ ทักษะที่ดีมาก สู้ไม่ได้จริงๆ ยิ่งในช่วงยกสองซึ่งต้องเดินเข้าแลกทำให้เข้าทางของคิวบา สุดท้ายยิ่งทำให้คู่แข่งนำห่างและพ่ายไปในที่สุด" ส่วนอนาคตของ ฉัตรชัย นั้นโค้ชธงเผยว่า "แม้ว่าสดจะอายุ 27 ปี แต่ถ้ายังรักษาสภาพร่างกายและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากก็มีโอกาสที่จะกลับขึ้นเวทีโอลิมปิกในอีก 4 ปีข้างหน้าเพื่อคว้าเหรียญรางวัลได้เช่นกัน"

ขณะที่ "เสธ.อ้าย" พล.อ บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นของไทย ที่มาชมการแข่งขันเป็นนัดแรกกล่าวถึงผลงานของนักมวยไทยว่า "ต้องยอมรับว่านักมวยคิวบา เหนือกว่าเราจริงๆ ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ติดใจการตัดสินของกรรมการ แต่ห่วงว่าความพ่ายแพ้ในนัดนี้ของ ฉัตรชัย อาจส่งผลต่อกำลังใจของ แก้ว ที่จะขึ้นชกในวันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม ซึ่งสต๊าฟโค้ชยังหวังอยู่ว่าแก้ว น่าจะไปถึงเหรียญทองได้ แต่ถ้าหนนี้ไม่มีนักมวยไทยได้เหรียญรางวัลเลยผมก็ยืนยันที่จะรักษาคำพูดด้วยการลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมฯ"