“เจ้าสด” ฉัตรชัย บุตรดี กำปั้นรุ่น 52 กก.ชายทีมชาติไทย ประกาศลั่นไม่หวั่นความเร็วของโรไบเซย์ รามิเรซ นักชกความเร็วสูงจากคิวบา ในการขึ้นตะบันหน้ารอบ 16 คนสุดท้ายของศึกมวยสากลสมัครเล่น “โอลิมปิกเกมส์ 2012” ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ วันที่ 3 ส.ค.นี้ ยันศึกษาฟอร์มการชกมาดีและมั่นใจในประสบการณ์ที่้เหนือกว่า ขณะที่ “โค้ชธง” พ.ต.ธง ทวีคูณ ยัน ฉัตรชัย มีดีที่ความเร็ว ไม่แพ้คู่แข่งจากคิวบา เชื่อกำปั้นไทยเอาตัวรอดทะลุรอบชิงเหรียญทองแดงได้
ความเคลื่อนไหวขุนพลเสื้อกล้ามไทยชุดลุยศึกลอนดอนเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา “โค้ชธง” พ.ต.ธง ทวีคูณ หัวหน้าผู้ฝึกสอนได้นำ ฉัตรชัย บุตรดี และ แก้ว พงษ์ประยูร ลงซ้อมเบาๆ และล่อเป้าเพื่อเรียกเหงื่อ ในช่วงเช้า บริเวณหมูบ้านนักกีฬา ภายในโอลิมปิก พาร์ค ก่อนที่ “เจ้าสด” จะมีคิวขึ้กชกกับ โรไบเซย์ รามิเรซ คู่แข่งจากคิวบาที่สังเวียนเอ็กเซล เซ็นเตอร์ วันที่ 3 ส.ค.นี้ เวลา 21.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นที่อังกฤษ หรือตรงกับเวลา 03.00 น.ของเช้ามืดวันที่ 4 ส.ค.ตามเวลาประเทศไทย
โดยโค้ชธง เผยผ่าน MGR SPORT ถึงความพร้อมล่าสุดของ “เจ้าสด” ว่า “สภาพร่างกายของฉัตรชัยอยู่ในขั้นสมบูรณ์เต็มร้อย ไม่มีอาการบาดเจ็บหรือป่วยใดๆ ขณะเดียวกัน สภาพจิตใจก็ยอดเยี่ยมไม่มีอาการกังวลใดๆ โดยช่วง 2 วันที่ผ่านมาเจ้าตัวก็ทำการบ้านอย่างหนักด้วยการดูวีดีโอศึกษาสไตล์การชกของรามิเรซ”
ขณะเดียวกัน หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมกำปั้นไทยยังพูดถึงความเร็วของ รามิเรซ ที่หลายคนเป็นกังวลหลังไล่ถลุงคาซูเอกิ ซูซะ 19-7 แต้มในการชกรอบแรก ว่า “หลายคนดูแมตช์ที่รามิเรซเอาชนะญี่ปุ่น อาจจะมองว่านักมวยรายนี้เร็วมาก แต่หากเทียบกันจริงๆ แล้ว ฉัตรชัยของเราก็ไม่ได้เป็นรอง และดูจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ ที่สำคัญ ประสบการณ์ของเราเหนือกว่ามาก ซึ่งผมยังมั่นใจว่า นักชกไทยจะผ่านคู่แข่งเข้าไปในรอบชิงเหรียญทองแดงได้แน่นอน”
ด้าน ฉัตรชัย ว่าที่นักชกพ่อลูกอ่อน เผยก่อนขึ้นชกในวันที่ 3 ส.ค.นี้ ่ว่า “จากการศึกษาข้อมูลของมวยคิวบาตัวนี้ ต้องยอมรับว่า เป็นมวยฝีมือ และเป็นมวยซ้ายด้วยกัน แต่ผมเองก็ยังมั่นใจว่า จะเอาชนะได้ โดยเราจะต้องพยายามใช้ความเร็วต่อยบนสลับล่าง และอาศัยจังหวะปล่อยซ้ายตรงเล่นงาน อย่างไรก็ดี ก็จะวางแผนชกอย่างรัดกุมและไม่ประมาทแน่นอน”
สำหรับ ฉัตรชัย บุตรดี หากสร้างผลงานทะลุเข้าไปคว้าเหรียญทองในการชกรุ่น 52 กก.ชายได้สำเร็จ ก็จะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับทีมกำปั้นไทยเป็นชาติที่สองที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์รุุ่นดังกล่าวได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ต่อจากฮังการี ที่ทำได้ในโอลิมปิกเกมส์ 1928 และ 1932 โดยเมื่อ 4 ปีที่แล้วไทยสามารถคว้าเหรียญทองในการชกรุ่นนี้จาก สมจิตร จงจอหอ