ASTV ผู้จัดการรายวัน-หลังจากการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นรอบแรกในโอลิมปิกเกมส์ ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยโดยนักมวยไทยที่ได้สิทธิขึ้นสังเวียนในลอนดอนเกมส์ 3 รุ่นผ่านเข้าถึงรอบ 16 คนสุดท้ายสองรุ่นโดยพลาดเพียงรุ่น 60 กก. ที่สายลม อาดี ซึ่งพลนักชกมือวางของรายการทำให้ไม่สามารถต้านความแข็งแกร่งได้และต้องพ่ายไปในที่สุด แม้ต่อมาคู่ชกของสายลมต้องถอนตัวจากการแข่งขันเนื่องจากดั้งจมูกหัก และทางทีมไทยพยายามจะขอสิทธิให้กับสายลม แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่เป็นผลและทำให้เวลานี้ กำปั้นไทยเหลือ ฉัตรชัย บุตรดี ในรุ่น 52 กก. (ฟลายเวท) และ แก้ว พงษ์ประยูร ในรุ่น 49 กก.(ไลท์ฟลายเวท)
โดยผลงานของแก้ว พงษ์ประยูร ที่ขึ้นชกเวลา 21.15 น. ของวันอังคารที่ 31 กรกฎาคม (ตามเวลาท้องถิ่น) ตรงกับเวลาในเมืองไทยประมาณ 03.15 น. ของวันพุธที่ 1 สิงหาคม นั้น แก้ว พบกับ นักมวยจากแอลจีเรีย ซึ่งมีช่วงชกที่ยาวกว่า หากประสบการณ์และเชิงมวยที่เหนือกว่าของกำปั้นไทยสามารถเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 19-11หมัด โดยในยกแรกนั้น แก้ว มีอาการเกร็งอยู่บ้างเนื่องจากเพิ่งหายจากอาการไข้ หลังไปเก็บตัวที่เมืองแมนเชสเตอร์ ซึ่งมีรายงานว่า แก้ว ต้องให้แพทย์ประจำทีมฉีดยาให้ถึงสองครั้งเพื่อให้อาการทุเลาและหายทันขึ้นชก
ทั้งนี้แก้ว จะผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้ายไปพบกับนักมวยจากเอกวาดอร์ คาร์ลอส กุยโป ปิลาตาซี่ ซึ่งเอาชนะนักชกสเปนเข้ามาได้โดยทั้งคู่มีคิวพบกันในวันที่ 4 สิงหาคม (รอบกลางคืน) โดยแก้วให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมของตนเองก่อนขึ้นชกกับนักมวยจากเอกวาดอร์ว่า "ในการชกกับนักมวยแอลจีเรีย ช่วงยกแรกผมยังเกร็งอยู่บ้างเพราะเพิ่งหายจากอาการไข้หวัด แม้ว่าคู่ต่อสู้รายนี้จะเคยเจอกันมาแล้วในการชกอุ่นเครื่องที่มวกเหล็ก แต่หนนี้เขาแก้ทางเรามาดีทำให้เปิดเกมบุกลำบาก ต้องรอทำแต้มเวลาเขาเผลอการ์ดตก" ทั้งนี้ แก้ว ยังเผยถึงจุดเปลี่ยนของการชกในไฟท์ที่ผ่านมาว่า "จุดเปลี่ยนอยู่ที่ยกสองตอนนั้นพอจบยกแรกผมรู้สึกว่าคะแนนมันสูสี เลยเดินเข้าทำตลอดแล้วได้คะแนนชุดใหญ่มาสองครั้งติดทำให้มั่นใจเพิ่มมากขึ้น และเอาชนะไปได้ในที่สุด"
ส่วนการขึ้นชกในรอบ 16 คนสุดท้ายนั้น แก้วต้องพบกับนักมวยจากเอกวาดอร์ คาร์ลอส กุยโป ปิลาตาซี่ ในวันเสาร์ที่ 4 สิงหาคมโดยจะเป็นคู่ในรอบกลางคืน ซึ่งแก้ว ได้กล่าวถึงคู่ชกชาวเอกวาดอร์ว่า "ได้เห็นฟอร์มของเขาก่อนขึ้นชกเหมือนกัน เป็นมวยที่เปิดเกมบุกตลอดเวลาคงต้องใช้วิธีการช่วงชิงจังหวะกันเวลาคลุกวงใน" ทางด้านโค้ชธง ได้กล่าวถึงผลงานของแก้ว และโอกาสในรอบ 16 คนที่ต้องเจอกับคู่แข่งที่หินพอตัวว่า "ถึงเวลานี้ทุกคนแข็งแกร่งหมด สำหรับมวยเอกวาดอร์ นั้น ท่าที่ดูก่อนขึ้นชกเป็นมวยตัวเล็กและชกดีมาก ที่ผ่านมาไม่เคยพบกันมาก่อน ต่อจากนี้ต้องทำการบ้านเอาเทปของ นักมวยรายนี้มาดูเพื่อแก้เกมถึงเวลาขึ้นชกคงต้องชิงจังหวะกัน เพราะเป็นมวยที่ตั้งบล็อกได้ดี ต้องรอดูว่าใครจะชิงจังหวะออกหมัดก่อนเพราะสองคนนี้ต่อยสไตล์เดียวกัน แต่ก็ยังเชื่อว่า แก้ว มีความแข็งแกร่ง ขยันมากกว่าแม้ว่าจะตัวเล็กแต่ก็หมัดหนัก ถ้าแก้บล็อกเอกวาดอร์ได้น่าจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้"
สำหรับในสายของแก้ว นั้น หากผ่านนักมวยเอกวาดอร์ ไปได้ มีโอกาสที่จะไปพบกับ นักมวยจากเกาหลีใต้ จองยุน ชิน ซึ่งเป็นมือวางอันดับที่ 2 ของรายการหากแก้วทำได้สำเร็จ นั่นหมายถึงแก้วมีโอกาสผ่านไปถึงรอบสี่คนสุดท้ายซึ่งการันตีเหรียญทองแดงได้เลยทีเดียวโดยแก้ว ได้กล่าวถึงโอกาสของตนเองกับผู้สื่อข่าวว่า "ส่วนตัวแล้วผมหวังจะไปให้ถึงเหรียญรางวัลอย่างแน่นอน แต่เวลานี้ขอทำผลงานแบบไฟท์ ต่อ ไฟท์ไปก่อนจะได้ไม่กดดันตนเองแต่ให้สัญญากับพี่น้องชาวไทยว่าจะต้องทำจนสุดความสามารถอย่างแน่นอน
ทางด้านฉัตรชัย บุตรดี ในรุ่น 52 กก.ที่มีคิวขึ้นชกกับ นักมวยคิวบา รามิเรซ คาร์ราซาน่า โรไบซีย์ ในวันศุกร์ที่ 3 สิงหาคมนั้นเรียกได้ว่าเป็นสายที่หนักพอตัว เพราะนักมวยคิวบา นั้นนอกจากมีอายุเพียง 18 ปี หากแต่เป็นเลือดใหม่ของคิวบา และทำผลงานในระดับเยาวชนมาไม่น้อย โดยการแข่งขันในรอบแรกนั้น รามิเรซ เอาชนะนักมวยจากญี่ปุ่นไปแบบขาดลอย ทั้งนี้ ฉัตรชัย และ รามิเรซ ต่างเป็นมวยซ้ายทั้งคู่แต่ ฉัตรชัย ให้สัมภาษณ์ว่าไม่รู้สึกหนักใจอะไร เมื่อขึ้นเวทีจะสู้อย่างสุดความสามารถ" หากฉัตรชัย ผ่านรามิเรซ ไปได้งานที่หนักกว่านักมวยจากคิวบา ที่ยืนรออยู่นั้นคาดว่าจะเป็นนักมวยเจ้าถิ่น แอนดรูว์ เซลบีย์ ดีกรีมวยยอดเยี่ยมของสหราชอาณาจักรในปี 2011 แน่นอนว่าถ้า ฉัตรชัย ผ่านกระดูกขัดมันทั้งสองรายไปได้ รอบสี่คนสุดท้ายที่การันตี เหรียญรางวัลรออยู่เบื้องหน้าแน่นอน
