คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
โอลิมปิก เริ่มต้นมาได้ 2-3 วันแล้วนะครับ นักกีฬาไทยก็เริ่มลงสนามแสดงผลงานกันไปหลายต่อหลายราย บ้างก็ทำได้ดีดังที่หวัง บ้างก็น่าเสียดาย แต่รวมๆ แล้วก็ถือว่าทุกคนทุ่มเทเต็มที่สมกับที่แฟนๆ ส่งแรงใจไปเชียร์
ส่วนของมวยสากลสมัครเล่น ก็มีการจับสลากประกบคู่ไปตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ ซึ่งจากสายการแข่งขันที่ออกมาขุนพลเสื้อกล้ามไทยก็ถือว่าโชคดีและโชคร้ายคละๆ กันไป
รุ่น 49 กิโลกรัม แก้ว พงษ์ประยูร อยู่สายล่าง ขณะที่ โจว จื้อ หมิงเจ้าของเหรียญทอง ปักกิ่ง เกมส์ 2008 ตัวเต็งอันดับ 1 ของรุ่นนี้อยู่สายบนถือเป็นโชคดี รอบแรก แก้ว จะต้องเจอกับนักมวยจากแอลจีเรีย ซึ่งคนนี้ผ่านเข้ามาในฐานะแชมป์รายการคัดเลือกที่คาซาบลังก้า แต่เคยแพ้เรามาแล้วในการชกอุ่นเครื่องที่จัดขึ้นเมื่อก่อนไป โอลิมปิก เรียกว่ามีโอกาสสูงที่จะไปได้ แต่สายล่างก็ยังมีนักมวยหินๆ อีกมาก โดยเฉพาะ ชิน จอง ฮุน จากเกาหลีใต้ ปัจจุบันได้รับการจัดเป็นอันดับ 1 ในรุ่นนี้ อาจจจะพบกันในรอบ 8 คนสุดท้าย
รุ่น 52 กิโลกรัมรอบแรก ฉัตรชัย บุตรดี จะพบกับนักมวยจากตุรกี ซึ่งผ่านรอบคัดเลือกโซนยุโรปมาด้วยการได้รองแชมป์แพ้นักมวยจากฝรั่งเศส แต่ดูแล้วดีกรีไม่สูงส่งมาก ฉัตรชัย มีโอกาสดีที่จะผ่านไปได้ ซึ่งรอบต่อไปก็มีคิวบารออยู่และถ้าผ่านไปอีกถึงรอบ 8 คนสุดท้าย ก็อาจจะได้เจอกับ แอนดรูว์ เซลบี้ จากสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นมือวางอันดับ 1 ของรุ่นนี้ เรียกว่าหนักตลอดรายทางครับ
รุ่น 60 กิโลกรัม สายลม อาดี เจอของแข็งตั้งแต่รอบแรก ซึ่งประเดิมสังเวียนไปแล้วเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา แฟนมวยที่ติดตามชมก็คงเห็นภาพการชกไปแล้วว่า สายลม ทำได้ดีมาก ขยันต่อย และต่อยได้จะแจ้งกว่า รวมทั้งมีหมัดชุดแบบที่กรรมการ (น่าจะ) ถูกใจ ซึ่งเราไม่ค่อยเห็นจากนักมวยไทยซักเท่าไหร่ในช่วงที่ผ่านมา อันนี้แสดงว่าทีมผู้ฝึกสอนได้ปรับเชิงมวยให้กับทีมนักชกไทยและ สายลม ก็ทำดี ออกนำไปก่อน 5-4 หมัดยกแรก แถมต่อยเอานักชกคาซักสถานจมูกแตกเลือดไหลทะลักตลอด
ยกสอง สายลม ก็ยังทำได้ดีและดักต่อยได้สวยๆ หลายหมัด โดยที่นักมวยคาซักสถานก็พยายามเดินหลังจากรู้ตัวว่าคะแนนเป็นรองพอจบยกสองคะแนนคาซักสถานชนะ 4-3 แบบนี้แฟนมวยก็คงเริ่มหนาวๆ ร้อนๆ กันแล้ว เพราะดูตามสายตาแล้วแต้มไม่นำก็ไม่น่าตาม ก็กลายเป็นต้องมาชิงดำกันยก 3
ยกสุดท้าย สายลม ดักจังหวะต่อยลำตัวเป็นชุด 3-4 หมัด ขณะที่คาซักสถานพยายามเดินแต่ก็ต่อยวืดไปมา หรือติดการ์ดเป็นส่วนใหญ่ จบยกที่ 3 สายลม มั่นใจมาก รวมทั้งเชื่อว่าแฟนมวยชาวไทยส่วนใหญ่ก็มั่นใจเช่นกัน ขณะที่นักชกคาซักสถานเดินซึมกลับเข้ามุม แต่ช่วงการประกาศผลปรากฏว่าช้ามากจนผิดสังเกตและออกมายกสุดท้ายเสมอกัน 4-4 รวม 3 ยกเสมอกัน 12 หมัดต่อ 12 หมัด ต้องวัดคะแนนดิบปรากฏว่าไทยแพ้แบบงงกันทั้งโลก
ผมเขียนต้นฉบับบทความนี้ก่อนที่นักมวยอีก 2 คนจะขึ้นชก เมื่อผลคู่ สายลม ออกมารูปนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าทีมงานไทยยังต้องทำการบ้านในการฟื้นสัมพันธ์กับ ไอบ้า อีกมากและด่านหินสำหรับการคว้าเหรียญ โอลิมปิก ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ไอบ้า นี่เอง
โอลิมปิก เริ่มต้นมาได้ 2-3 วันแล้วนะครับ นักกีฬาไทยก็เริ่มลงสนามแสดงผลงานกันไปหลายต่อหลายราย บ้างก็ทำได้ดีดังที่หวัง บ้างก็น่าเสียดาย แต่รวมๆ แล้วก็ถือว่าทุกคนทุ่มเทเต็มที่สมกับที่แฟนๆ ส่งแรงใจไปเชียร์
ส่วนของมวยสากลสมัครเล่น ก็มีการจับสลากประกบคู่ไปตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ ซึ่งจากสายการแข่งขันที่ออกมาขุนพลเสื้อกล้ามไทยก็ถือว่าโชคดีและโชคร้ายคละๆ กันไป
รุ่น 49 กิโลกรัม แก้ว พงษ์ประยูร อยู่สายล่าง ขณะที่ โจว จื้อ หมิงเจ้าของเหรียญทอง ปักกิ่ง เกมส์ 2008 ตัวเต็งอันดับ 1 ของรุ่นนี้อยู่สายบนถือเป็นโชคดี รอบแรก แก้ว จะต้องเจอกับนักมวยจากแอลจีเรีย ซึ่งคนนี้ผ่านเข้ามาในฐานะแชมป์รายการคัดเลือกที่คาซาบลังก้า แต่เคยแพ้เรามาแล้วในการชกอุ่นเครื่องที่จัดขึ้นเมื่อก่อนไป โอลิมปิก เรียกว่ามีโอกาสสูงที่จะไปได้ แต่สายล่างก็ยังมีนักมวยหินๆ อีกมาก โดยเฉพาะ ชิน จอง ฮุน จากเกาหลีใต้ ปัจจุบันได้รับการจัดเป็นอันดับ 1 ในรุ่นนี้ อาจจจะพบกันในรอบ 8 คนสุดท้าย
รุ่น 52 กิโลกรัมรอบแรก ฉัตรชัย บุตรดี จะพบกับนักมวยจากตุรกี ซึ่งผ่านรอบคัดเลือกโซนยุโรปมาด้วยการได้รองแชมป์แพ้นักมวยจากฝรั่งเศส แต่ดูแล้วดีกรีไม่สูงส่งมาก ฉัตรชัย มีโอกาสดีที่จะผ่านไปได้ ซึ่งรอบต่อไปก็มีคิวบารออยู่และถ้าผ่านไปอีกถึงรอบ 8 คนสุดท้าย ก็อาจจะได้เจอกับ แอนดรูว์ เซลบี้ จากสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นมือวางอันดับ 1 ของรุ่นนี้ เรียกว่าหนักตลอดรายทางครับ
รุ่น 60 กิโลกรัม สายลม อาดี เจอของแข็งตั้งแต่รอบแรก ซึ่งประเดิมสังเวียนไปแล้วเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา แฟนมวยที่ติดตามชมก็คงเห็นภาพการชกไปแล้วว่า สายลม ทำได้ดีมาก ขยันต่อย และต่อยได้จะแจ้งกว่า รวมทั้งมีหมัดชุดแบบที่กรรมการ (น่าจะ) ถูกใจ ซึ่งเราไม่ค่อยเห็นจากนักมวยไทยซักเท่าไหร่ในช่วงที่ผ่านมา อันนี้แสดงว่าทีมผู้ฝึกสอนได้ปรับเชิงมวยให้กับทีมนักชกไทยและ สายลม ก็ทำดี ออกนำไปก่อน 5-4 หมัดยกแรก แถมต่อยเอานักชกคาซักสถานจมูกแตกเลือดไหลทะลักตลอด
ยกสอง สายลม ก็ยังทำได้ดีและดักต่อยได้สวยๆ หลายหมัด โดยที่นักมวยคาซักสถานก็พยายามเดินหลังจากรู้ตัวว่าคะแนนเป็นรองพอจบยกสองคะแนนคาซักสถานชนะ 4-3 แบบนี้แฟนมวยก็คงเริ่มหนาวๆ ร้อนๆ กันแล้ว เพราะดูตามสายตาแล้วแต้มไม่นำก็ไม่น่าตาม ก็กลายเป็นต้องมาชิงดำกันยก 3
ยกสุดท้าย สายลม ดักจังหวะต่อยลำตัวเป็นชุด 3-4 หมัด ขณะที่คาซักสถานพยายามเดินแต่ก็ต่อยวืดไปมา หรือติดการ์ดเป็นส่วนใหญ่ จบยกที่ 3 สายลม มั่นใจมาก รวมทั้งเชื่อว่าแฟนมวยชาวไทยส่วนใหญ่ก็มั่นใจเช่นกัน ขณะที่นักชกคาซักสถานเดินซึมกลับเข้ามุม แต่ช่วงการประกาศผลปรากฏว่าช้ามากจนผิดสังเกตและออกมายกสุดท้ายเสมอกัน 4-4 รวม 3 ยกเสมอกัน 12 หมัดต่อ 12 หมัด ต้องวัดคะแนนดิบปรากฏว่าไทยแพ้แบบงงกันทั้งโลก
ผมเขียนต้นฉบับบทความนี้ก่อนที่นักมวยอีก 2 คนจะขึ้นชก เมื่อผลคู่ สายลม ออกมารูปนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าทีมงานไทยยังต้องทำการบ้านในการฟื้นสัมพันธ์กับ ไอบ้า อีกมากและด่านหินสำหรับการคว้าเหรียญ โอลิมปิก ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ไอบ้า นี่เอง
