ASTVผู้จัดการรายวัน - โอลิมปิก ลอนดอน เกมส์ 2012 ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งกำลังจะเปิดฉากขึ้นวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ ถือเป็นงานหนักสำหรับทัพนักกีฬาไทยกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะแต่ละชนิดกีฬา ไม่ว่าจะเป็น ยกน้ำหนัก, เทควันโด และ มวยสากลสมัครเล่น ที่เคยเป็นความหวังอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายเลือด อย่างไรก็ตาม บรรดาฮีโรที่เคยสร้างชื่อให้มาตุภูมิอย่าง สมรักษ์ คำสิงห์, ปวีณา ทองสุก และ บุตรี เผือดผ่อง ต่างออกมาประสานเสียงส่องกล้องมองรุ่นน้องมีลุ้นไม่กลับบ้านมือเปล่า
สำหรับทัพมวยสากลสมัครเล่นของไทยหนนี้ ได้โควตาน้อยกว่าทุกครั้งเพียงแค่ 3 รุ่น คือ แก้ว พงษ์ประยูร 49 กิโลกรัม ฉัตรชัย บุตรดี 52 กิโลกรัม และ สายลม อาดี 60 กิโลกรัม แต่ เรือเอก สมรักษ์ คำสิงห์ เจ้าของเหรียญทอง โอลิมปิก ที่ แอตแลนตา ปี 1996 มองว่าเมื่อยู่บนเวทีแล้วถือว่าโอกาส 50-50
โดยพี่ใหญ่ สมรักษ์ เจ้าของฉายา “ไม่ได้โม้” วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนทีมมวยชุดนี้ ว่า “เมื่อขึ้นสังเวียนชกแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตัวนักมวยจะมีความมุ่งมั่นเป็นพิเศษ สถานการณ์สามารถพลิกได้เขามีความต้องการเอาชนะคู่แข่งให้ได้เพื่อสร้างชื่อเสียงให้ประเทศและเป็นฮีโรของแฟนกีฬาชาวไทย ส่วนข้อด้อยคือมวยชุดนี้อยู่ในความดูแลของสมาคมชุดใหม่ยังขาดประสบการณ์ในเวทีใหญ่ๆ รวมความเข้าใจถึงระบบการตัดสินของกรรมการ แต่เชื่อว่าจะประคองตัวมีเหรียญกลับมาฝากชาวไทยได้แน่”
ส่วนยกน้ำหนักได้โควตาทั้งหมด 7 คน แบ่งเป็นหญิง 4 คน คือ พนิดา คำศรี กับ สิริวิมล ประมงคล รุ่น 48 กิโลกรัม และ พิมศิริ ศิริแก้ว กับ รัตติกาล กุลน้อย รุ่น 58 กิโลกรัม ชาย 3 คน คือ จตุภูมิ ชินวงศ์ รุ่น 77 กิโลกรัม อรรถพล แดงจันทึก รุ่น 69 กิโลกรัม และ พิทยา ตีบนอก รุ่น 85 กิโลกรัม โดยไม่มี ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล เจ้าของเหรียญทอง ปักกิ่ง เกมส์ 2008 ที่อดไปป้องกันแชมป์ถูกหั่นวินาทีสุดท้ายเพราะว่าสถิติไม่ค่อยน่าประทับใจ
ปวีณา ทองสุก เหรียญทอง เอเธนส์ 2004 เผยว่า “ไก่ มองว่าในรุ่น 48 กก.หญิง มีคู่แข่งที่น่ากลัวคือจีนเหมือนเดิม โดย ฟ้า พนิดา ดูแล้วมีโอกาสมากที่สุดในการลุ้นเหรียญ เพราะสภาพร่างกายดีมาก เทคนิคดี และถนัดในท่าสแนชด้วย ส่วน มาย สิริวิมล นั้นเขาถนัดในท่าคลีนแอนด์เจิร์ก มาที่รุ่น 58 กก.หญิงนั้น มีคู่แข่งสำคัญอย่างจีน และ เบลารุส ซึ่งนักยกน้ำหนักในรุ่นนี้ให้จับตาที่ แต้ว พิมศิริ ซึ่งมีสถิติการยกที่ดีทั้งในท่าสแนชที่ 100 กก.และท่าคลีนด์แอนด์เจิร์ก 131 กก.ก็ได้บอกน้องไปว่าให้มีสมาธิและผ่านให้ได้ ถ้าผ่านรับรองมีลุ้นแน่ ขณะที่ ปุ๊กลุ๊ก รัตติกาล นั้น มองว่า ยังเด็กอยู่ มีเวลาบ่มเพาะประสบการณ์และความแข็งแกร่งเชื่อว่า อีก 4 ปีข้างหน้า จะเป็นบุคคลที่น่ากลัวอย่างแน่นอน”
“ทั้งนี้ การที่เราจะลุ้นเหรียญในแต่ละรุ่นนั้น ต้องขึ้นอยู่กับตัวนักกีฬาเองและทีมสต๊าฟโค้ชในการช่วยวางแผนเรียกน้ำหนักครั้งแรกจวบจนถึงการยกตัดสินแชมป์ ซึ่งตนก็ได้แนะนำถึงรุ่นน้องว่าอย่าไปซีเรียสกับผลการแข่งขันให้มาก เพราะเรายกเต็มที่แล้ว ก็ให้ยกเหมือนกับตอนซ้อมที่ผ่านๆ มา” น้องไก่ กล่าวทิ้งท้าย
ปิดท้ายด้วยเทควันโดที่หลายฝ่ายมองว่า ถึงเวลาแล้วกับเหรียญทอง หลังจากบ่มจอมเตะจนคว้ามาแล้วทั้งเหรียญทองแดง เอเธนส์ 2004 จาก เยาวภา บุรพลชัย ตามด้วย บุตรี เผือดผ่อง เหรียญเงินเมื่อ 4 ปีก่อน โดย 3 ความหวังของไทยกับ โอลิมปิก ครั้งนี้ประกอบไปด้วย เป็นเอก การะเกตุ 58 กิโลกรัมชาย ชนาธิป ซ้อนขำ 49 กิโลกรัมหญิงและ รังสิญา นิสัยสม 57 กิโลกรัมหญิง
โดย “น้องสอง” ที่ต้องยุติการรับใช้ชาติ เพราะอาการบาดเจ็บเรื้อรัง กล่าวว่า “ปีนี้นักกีฬาเทควันโดน่าจะทำผลงานน่าประทับใจอีกครั้ง โดยขอให้เอาใจช่วย ไอ เป็นเอก และ น้องเล็ก ชนาธิป เพราะเชื่อว่าจะสามารถคว้าเหรียญติดมือกลับมาได้อีก แต่ไม่ขอการรันตรีว่าเป็นเหรียญใด เพราะการที่จะได้เหรียญกลับมาหรือไม่ได้ไม่ใช่สิ่งสำคัญขอเพียงตั้งใจฝึกซ้อมและพยายามทำผลงานให้เต็มที่เมื่อถึงเวลาลงแข่งเท่านั้น เพราะกีฬามีทั้งแพ้และชนะ ทุกสิ่งสามารถเกิดขึ้นได้”
