ASTVผู้จัดการายวัน - มวยสากลสมัครเล่นถือเป็นกีฬาความหวังอันดับหนึ่งของทัพนักกีฬาไทยในมหกรรมโอลิมปิกเกมส์ มาทุกยุคทุกสมัย โดยนับจากศึกแอตแลนตาเกมส์ปี 1996 ที่สหรัฐอเมริกา ถึงปักกิ่งเกมส์ 2008 ที่ประเทศจีน ขุนพลเสื้อกล้ามไทย มีเหรียญทองติดมือมาถึง 4 ครั้งติดต่อกัน ทว่า จากปัญหามากมายภายในสมาคม ทำให้เป็นที่คาดว่า ลอนดอนเกมส์ 2012 ที่จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 27 ก.ค.นี้ อาจเป็นปีแห่งความผิดหวังของทีมมวยไทย อย่างไรก็ดี 3 กำปั้นตัวแทนจากแดนสยาม ยังคงเชื่อว่าเมื่อถึงเวลาสถานการณ์น่าจะสร้างวีรบุรุษขึ้นมาอีกครั้ง
จากปัญหาความขัดแย้งต่อเนื่อง ระหว่างอดีตกลุ่มบริหารสมาคมมวยสากลสมัครเล่นไทย กับสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่น (ไอบา) ตั้งแต่จบศึกโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่ประเทศจีน เป็นต้นมา ประกอบกับการเลือกตั้งผู้บริหารสมาคมชุดใหม่ที่ล่าช้า ส่งผลให้การเตรียมทีมเสื้อกล้ามไทยเป็นไปอย่างทุลักทุเล โดยมีกำปั้นชายไทยเพียง 3 คน อันประกอบไปด้วย แก้ว พงษ์ประยูร, ฉัตรชัย บุตรดี และ สายลม อาดี เท่านั้นที่ได้ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่การแข่งขันลอนดอนเกมส์ 2012 ซึ่งถือเป็นจำนวนนักมวยที่น้อยที่สุดของไทยในมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาตินับตั้งแต่ปี 1968
ขณะเดียวกัน การเตรียมความพร้อมของทีมมวยชุดนี้ ต้องถือว่าน่าเป็นห่วงสำหรับโอกาสการลุ้นคว้าเหรียญทองในโอลิมปิก เป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน โดย “โค้ชธง” พ.ต.ธง ทวีคูณ หัวหน้าผู้ฝึกสอนยอมรับผ่าน MGR SPORT ว่า “สิ่งที่หนักใจในการเตรียมทีม คือ การที่เราไม่ได้มีทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องเลย ซึ่งนักมวยอาจเสียเปรียบคู่แข่งเรื่องของประสบการณ์ เนื่องจากเก็บตัวซ้อมอยู่ในเมืองไทยอย่างเดียว ซึ่งแม้ว่าผมเองจะได้มีการเตรียมความพร้อมในการทำการบ้านด้วยการศึกษาข้อมูลการชกของคู่แข่งที่ขึ้นชกในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ อยู่อย่างต่อเนื่องผ่านทางอินเทอร์เน็ต แต่นั่นย่อมไม่เหมือนกับการสวมนวมขึ้นเวทีอย่างแน่นอน”
อย่างไรก็ดี โค้ชธง ยังคงเชื่อว่า แม้ทีมนักชกไทยจะมีเพียงแค่ 3 คน แต่ก็เป็น 3 คนที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ “ผมมองว่า ทุกคนมีโอกาสทั้งหมด จริงอยู่ที่เราไปครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่มีนักชกติดทีมไปน้อยที่สุด แต่ทั้ง แก้ว, ฉัตรชัย และ สายลม ล้วนเป็นมวยคุณภาพ หากเราชกได้ตามแผน และไม่มีปัญหาในเรื่องของการตัดสินของกรรมการโอกาสได้เฮมีแน่นอน โดย แก้ว จุดเด่นอยู่ที่ความแข็งแรง กระดูกมวยดี และเป็นคนที่ขยันซ้อม ส่วน ฉัตรชัย สเต็บเท้าดี และทำได้เยี่ยมกับการชกในพื้นที่แคบ ขณะที่ สายลม ก็ปรับปรุงจุดอ่อนของตัวเองที่ปกติจะธรรมชาติชอบต่อยสั้น มาต่อยยาวได้มากขึ้น ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดี”
ด้าน “คนโตตัวเล็ก” แก้ว พงษ์ประยูร ซึ่งถือเป็นพี่ใหญ่ประจำทีมกำปั้นไทยชุดนี้เผยว่า “นี่อาจจะเป็นการชกในโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรก และครั้งเดียวของผม ฉะนั้น ไม่ว่าที่ผ่านมาหลายคนจะปรามาส ว่า นี่คือ ยุคตกต่ำของสมาคมมวยฯ แต่ผมเอง โค้ช และน้องๆ ในทีมไม่เคยคิดเช่นนั้น เรายังตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อมกันอย่างหนัก และยังเชื่อมั่นว่า ด้วยสถานการณ์ที่ยากลำบาก มันคือแรงกระตุ้นชั้นดี ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ในลอนดอนเกมส์ ซึ่งพวกเราทั้ง 3 คนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และนำเหรียญรางวัลกลับไปฝากพ่อแม่พี่น้องชาวไทยให้ได้”
ส่วน ฉัตรชัย บุตรดี หนุ่มจากจังหวัดสระแก้ว ที่หวังนำเหรียญรางวัลมาเป็นของขวัญสำหรับลูกน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลกในช่วงหลังจบศึกลอนดอนเกมส์ เผยถึงกรณีการตัดสินของกรรมการ ที่ฝั่งของสตาฟฟ์โค้ชเป็นกังวล ว่า อาจมีปัญหาในเรื่องของความโปร่งใสว่า “ผมเองไม่ห่วงเรื่องการตัดสินของกรรมการ เพราะการแข่งขันระดับโอลิมปิก คือ การแข่งขันระดับโลก ที่มีมาตรฐานของกรรมการในระดับที่เชื่อมั่นได้ ไม่เหมือนกับทัวร์นาเมนต์อื่นๆ ที่ทีมมวยของเราถูกเล่นงาน โดยในครั้งนี้ผมเองขอสู้เต็มที่แม้ว่าจะมีคู่แข่งหินๆ อย่าง คิวบา, รัสเซีย และ เวลส์ ขวางหน้าอยู่ก็ตามที”
ปิดท้ายที่ สายลม อาดี หนึ่งเดียวในทีมชุดนี้ที่ผ่านประสบการณ์ในโอลิมปิกเกมส์มาแล้วเมื่อ 4 ปีก่อน มองถึงจุดด้อยในเรื่องของการไม่มีทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องในมุมมองที่แตกต่างออกไปว่า “การไม่ได้มีทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่อง หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเสียเปรียบ แต่หากมองอีกมุมหนึ่งผมคิดว่า คู่แข่งเองก็ไม่มีโอกาสเห็นฟอร์มของเราเช่นกัน ซึ่งจุดนี้อาจเป็นจุดได้เปรียบของเราในการไล่ล่าเหรียญทองมาคล้องคอในลอนดอนเกมส์ 2012 ครั้งนี้ ก็เป็นได้”
สำหรับทีมขุนพลเสื้อกล้ามไทยมีคิวเดินทางไปเก็บตัวยังเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ตามโปรแกรมของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ ก่อนที่ศึกดวลกำปั้นในโอลิมปิกเกมส์ 2012 จะมีขึ้นที่เอ็กเซล เซ็นเตอร์ ในกรุงลอนดอน ระหว่างวันที่ 28 ก.ค.-12 ส.ค.นี้
