“พญาเสือ” ไทเกอร์ วูดส์ โปรคนดังชาวอเมริกัน ตั้งเป้าคว้าแชมป์พีจีเอ ทัวร์ รายการที่ 74 ในชีวิตจากศึก “เอทีแอนด์ที เนชั่นแนล” ที่สนามคองเกรสชันแนล คันทรี คลับ ในเมืองเบทเธสดา มลรัฐแมรีแลนด์ ประเทศบ้านเกิด ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย.-1 ก.ค.นี้ เพื่อขยับเข้าใกล้สถิติสูงสุด 82 รายการของ แซม สนีด มั่นใจถ้าการพัตต์ไร้ปัญหาก็มีโอกาสประสบความสำเร็จตามเป้าหมายดังกล่าวแน่นอน
วูดส์ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการ เอทีแอนด์ที เนชั่นแนล ซึ่งระดมเงินเข้าสู่กองทุนการกุศลของตัวเอง โดยเขาร่วมประชันวงสวิงรายการนี้ด้วยเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีนับแต่คว้าแชมป์เมื่อปี 2009
ทัวร์นาเมนต์ล่าสุดที่อดีตโปรมือ 1 ของโลกลงแข่งคือกอล์ฟเมเจอร์ ยูเอส โอเพน 2012 เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่แล้ว เขามีโอกาสคว้าแชมป์เมเจอร์รายการที่ 15 ในชีวิต หลังจากขึ้นเป็นผู้นำร่วมรอบที่สอง แต่ฟอร์มหลุดในสองวันสุดท้ายจนจบที่ 21 ร่วม สกอร์รวมตามหลังผู้ชนะอย่าง เวบบ์ ซิมป์สัน นักกอล์ฟรุ่นน้องร่วมชาติจำนวน 6 สโตรก
ล่าสุด ก่อนหน้าลงแข่งรายการเอทีแอนด์ที เนชั่นแนล วูดส์ กล่าวถึงฟอร์มการเล่นของตนเองที่สนามดิ โอลิมปิก คลับ ว่า “โดยรวมแล้ว ผมพอใจกับวิธีการตีลูกของผม แต่การชิพหรือพัตต์ไม่ค่อยดีในสัปดาห์นั้น ทั้งที่ในเดอะ เมโมเรียล ทัวร์นาเมนท์ ผมทำได้ดี (วูดส์ คว้าแชมป์เดอะเมโมเรียล ก่อนเดินทางไปเล่นยูเอส โอเพน) ผมมีโอกาสพัตต์หลายครั้งจากระยะ 8-10 ฟุตแล้วลง แต่ระยะอื่นทำไม่ได้ ผมเล่นด้วยความระมัดระวังไม่บุก แผนการเล่นใช้ได้ผลในสองวันแรก แต่ผมจำเป็นต้องตีลูกให้ใกล้กว่าที่ทำในสัปดาห์นั้น”
ถ้าโปรพ่อหม้ายลูกสองชนะรายการ เอทีแอนที เนชั่นแนล ในสัปดาห์นี้ก็จะเป็นแชมป์พีจีเอ ทัวร์ ที่ 74 ในชีวิต แซงหน้าสถิติที่เขานำร่วมอยู่กับ แจ็ค นิคลอส จำนวน 73 รายการ แต่ยังเป็นรองสถิติสูงสุดของ แซม สนีด ที่คว้าแชมป์ตลอดชีวิตถึง 82 รายการ
วูดส์ กล่าวถึงความสำเร็จของ สนีด ว่า “สมัยนั้นตอนที่ สนีด คว้าแชมป์ได้ถึงจำนวนดังกล่าวไม่มีใครเห็นคุณค่าสิ่งที่เขาทำ ยิ่งไปกว่านั้นตลอดชีวิต เขาต้องแข่งขันกับนักกอล์ฟอย่าง เบน โฮแกน และ ไบรอน เนลสัน ซึ่งเอาชนะไม่ได้ง่ายๆ แต่ สนีด ก็ทำได้”
ทั้งนี้ สนีด คว้าแชมป์พีจีเอ ทัวร์ รายการสุดท้ายตอนอายุ 52 ปี และเสียชีวิตด้วยวัย 89 ปีเมื่อประมาณ 1 ทศวรรษที่แล้ว
ขณะเดียวกัน ไทเกอร์ ก็กำลังไล่ล่าสถิติชนะเมเจอร์สูงสุด 18 รายการของ นิคลอส ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสูงสุด โดยเขาเปรียบเทียบความสำคัญระหว่างรายการเมเจอร์กับรายการทั่วๆ ไป กับผลงานของเพื่อนสนิทอย่าง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ยอดนักเทนนิสชาวสวิสฯ ที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมสูงสุด 16 รายการแซงหน้าสถิติเดิมของ พีท แซมพราส ขณะที่ จิมมี คอนเนอร์ เป็นนักหวดที่คว้าแชมป์เอทีพี ทัวร์ มากที่สุด 109 รายการ
“ผมคิดว่า มันแบบเดียวกันว่าทำไมสถิติของพีท แซมพราสถึงยิ่งใหญ่กว่า จิมมี คอนเนอร์ รายการเมเจอร์มีความสำคัญกว่าอย่างเห็นได้ชัดและเราก็พยายามกับมันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้” โปรวัย 36 ปีกล่าวทิ้งท้าย