“นอร์แมน” ผิดหวังโปรออสซีผลงานเมเจอร์ขี้เหร่

เกรก นอร์แมน อดีตโปรระดับตำนานชาวออสซี ผิดหวังกับผลงานของนักกอล์ฟรุ่นน้องร่วมชาติที่หลายปีที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จในรายการระดับเมเจอร์ แต่ยอมรับสาเหตุอาจเป็นเพราะความเติบโตของวงการสวิง จนมีนักกอล์ฟเก่งๆ จากทั่วโลกทำให้การแข่งขันยากลำบากมากขึ้น

เจฟฟ์ โอกิลวี คว้าแชมป์ยูเอส โอเพน เมื่อปี 2006 เป็นเมเจอร์ล่าสุดที่นักกอล์ฟชาวออสซีทำได้และยังเป็นเมเจอร์เดียวใน 17 ปีหลังสุดของประเทศอีกด้วย ก่อนหน้านั้น ผู้เล่นจากแดนจิงโจ้คว้าแชมป์เมเจอร์ 6 รายการจาก นอร์แมน 2 รายการ รวมถึง เดวิด เกรแฮม, เวย์น เกรดีย์, เอียน เบเกอร์-ฟินช์ และ สตีฟ เอลคิงตัน อีกคนละรายการ

ตอนที่ “ฉลามขาว” กำลังเข้าสู่ช่วงปลายของการเล่นกอล์ฟอาชีพ ก็มีโปรรุ่นน้องตามมาอย่าง โรเบิร์ต อัลเลนบี และ สจวร์ต อัพเพิลบี รุ่นถัดมาก็มี อดัม สกอตต์ อารอน แบดเดลีย์ และ เจสัน เดย์ แต่ทั้งหมดทำผลงานต่ำกว่าความคาดหวังของอดีตโปรมือ 1 ของโลก

“ผมผิดหวังที่ผู้เล่นชาวออสซีไม่ยอมรับความท้าทายนี้และชนะให้มากขึ้น ไม่ใช่แค่ส่งผลต่อกอล์ฟในออสเตรเลียเท่านั้น แต่รวมถึงตัวผู้เล่นด้วย ผลงานที่เกิดขึ้นยอมรับไม่ได้ เมื่อพิจารณาจากพรสวรรค์และความสามารถของผู้เล่นเหล่านี้” นอร์แมน กล่าว

อดีตโปรวัย 57 ปี ซึ่งคว้าแชมป์ทั่วโลกรวมกว่า 80 รายการ ไม่เห็นสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมนักกอล์ฟชาวออสซี จึงไม่ประสบความสำเร็จในระดับเมเจอร์ แต่คาดว่า อาจเป็นเพราะความเติบโตของวงการกอล์ฟยุคปัจจุบันทำให้การแข่งขันมีความยาก

“ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ เพราะผู้เล่นหลายคนมีฝีมือดีพอที่จะทำได้แบบสม่ำเสมอ แต่ลองคิดอีกมุมหนึ่งมันมีผู้เล่นฝีมือดีหลายคนจากทั่วโลกและเมเจอร์ก็มีแค่ 4 รายการต่อปี ดังนั้นผู้ชนะจึงมีแค่ 4 คนเท่ากัน การคว้าแชมป์จึงยากขึ้น ตัวอย่างเห็นได้จาก ไทเกอร์ วูดส์ ที่มันยากขึ้นสำหรับเขาในการคว้าแชมป์ เพราะอายุมากขึ้น และคนอายุกว่าได้แชมป์” นอร์แมน กล่าวทิ้งท้าย