คอลัมน์ “สุดฟากสนาม” โดย “ธีรพัฒน์ อัครเศรณี”
ออกสตาร์ทไปแล้วนะครับสำหรับฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ที่โปแลนด์ และยูเครน ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ปรากฏว่า พลิกล็อกกันไปวินาศสันตะโร ทั้งเจ้าภาพที่เปิดสนามทำได้แค่เสมอกรีซ ส่วน ฮอลแลนด์ “กังหันสีส้ม” เล่นแพ้เดนมาร์ก ดื้อๆ เสียอย่างนั้น นี่แค่เริ่มไปเพียงไม่กี่วันเท่านั้น
ใครที่ติดตามดูฟุตบอลยูโรเที่ยวนี้ นอกจากได้ชมบอลดีๆ แล้ว ยังจะได้รับของแถม คือ ได้ออกกำลังกายไปด้วย ตัวผมเองก็เช่นเดียวกันหัวค่ำ ดู เฟรนช์ โอเพ่น ผ่านทางจานแดงของทรูฯ บนห้องนอน พอดึกขึ้นมาหน่อยใกล้ห้าทุ่มต้องวิ่งลงมาข้างล่างดูบอลยูโร ทางกล่องที่แกรมมี่ เขาส่งมาให้ลองรับชม เสร็จต้องขึ้นไปอาบน้ำข้างบน เพื่อกลับมารอชมฟุตบอลคู่ที่สอง แล้วกลับขึ้นไปนอนอีก ขึ้นๆ ลงๆ อยู่อย่างนี้ นอกจากไม่สะดวกสบาย แล้วยังได้การบ้านไปคิดก่อนนอนด้วยว่า มีประเทศไหนในโลกหล้าที่มันเป็นอย่างนี้กันบ้าง ประเทศที่เอกชนสามารถบล็อกสัญญาณฟรีทีวีของรัฐได้ (ฮา)
หนำซ้ำถึงยุคนี้แล้วยังจะมีมนุษย์กลุ่มใดที่สามารถออกคำสั่งแกมบังคับเอกชนเจ้าหนึ่งให้ต้องไปซื้อของกับอีกเจ้าหนึ่ง ซึ่งมีลิขสิทธิ์ถือครองอยู่เจ้าเดียวเสียด้วย ช่างสวนทางกับกฎหมายเสรีทางการค้าสากลโลกเขาเสียจริงๆ ก็สนุกสนานกันไปตามวิธีคิด วิธีปฏิบัติสไตล์ไทยๆ บ้านเรากันไป
แต่โปรดระวังว่าการแก้ปัญหาแบบเอาใจคนบางกลุ่มเช่นนี้ จะกลายเป็นบรรทัดฐาน (ต้องเข้าใจความจริงว่า ไม่มีธุรกิจเพย์ทีวีเจ้าใดที่สามารถซื้อลิขสิทธิ์กีฬาได้ครบทุกรายการ) หากในอนาคตทางเอกชนอย่าง ทรูฯ ได้ลิขสิทธิ์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เสร็จแล้วไปตกลงกับทางฟรีทีวีออกอากาศ แล้วบล็อกสัญญาณผู้ชมทาง 3, 5, 7, 9, 11, TPBS บนกล่องเก็บเงินของแกรมมี่บ้าง จะเกิดอะไรขึ้น ?
ต่อไป อาร์เอส ได้สัญญาณฟุตบอลโลก ขอบล็อกสัญญาณฟรีทีวี บนกล่องสมาชิกของทรูฯ และแกรมมี่ อีก มิต้องให้เอกชนวิ่งโร่ไปเจรจากันไปมา แถมเจรจากันแบบไม่มีหลักเกณฑ์อะไรกำหนดด้วย เช่นว่าให้ซื้อ-ขายกันบนราคากี่เปอร์เซ็นต์ของลิขสิทธิ์ที่ซื้อมาทั้งหมด แล้วจะตกลงกันได้อย่างไร?
แก้ปัญหาแบบนี้ต่อไปจะยุ่งยิ่งกว่า “ลิงแก้แห” เข้าใจครับว่า นี่คือ เรื่องใหม่ในบ้านในเมืองเรา แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก ทำไมไม่ลองหยิบยกกฎระเบียบ หรือแบบอย่างชาติที่เจริญแล้วเขามาเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติเล่าครับ ว่าเขาทำกันอย่างไร
ประเด็นสำคัญ ก็คือ “ไม่ควรให้ใครมามีสิทธิมาบล็อกสัญญาณฟรีทีวีซึ่งเป็นสมบัติของชาติและประชาชนส่วนรวมได้ ไม่ว่าจะอยู่บนระบบใดหรือกล่องสัญญาณของเอกชนรายใดทั้งสิ้น”
ประเด็นรองๆ ที่เหลือ เช่นว่าจะผิดลิขสิทธิ์หรืออะไรต่างๆ คือ คำกล่าวอ้างเพื่อประโยชน์ของเอกชนแต่ละรายที่ได้ไปตกลงกับหน่วยงานคู่ค้าเอาไว้เองทั้งนั้น อีกพวกก็คืออ้างเพื่อสิทธิของลูกค้าเพย์ทีวีบางกลุ่มที่อยากดูฟรีบ้าง
วันนี้เจ้าหนึ่งบล็อกได้ วันหน้าอีกเจ้าบล็อกคืน วันต่อไปอีกเจ้ามาบล็อกอีก มรึงเห็นพวกกรู (ประชาชน) เป็นอะไรกันเนี่ย!!!
ออกสตาร์ทไปแล้วนะครับสำหรับฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ที่โปแลนด์ และยูเครน ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ปรากฏว่า พลิกล็อกกันไปวินาศสันตะโร ทั้งเจ้าภาพที่เปิดสนามทำได้แค่เสมอกรีซ ส่วน ฮอลแลนด์ “กังหันสีส้ม” เล่นแพ้เดนมาร์ก ดื้อๆ เสียอย่างนั้น นี่แค่เริ่มไปเพียงไม่กี่วันเท่านั้น
ใครที่ติดตามดูฟุตบอลยูโรเที่ยวนี้ นอกจากได้ชมบอลดีๆ แล้ว ยังจะได้รับของแถม คือ ได้ออกกำลังกายไปด้วย ตัวผมเองก็เช่นเดียวกันหัวค่ำ ดู เฟรนช์ โอเพ่น ผ่านทางจานแดงของทรูฯ บนห้องนอน พอดึกขึ้นมาหน่อยใกล้ห้าทุ่มต้องวิ่งลงมาข้างล่างดูบอลยูโร ทางกล่องที่แกรมมี่ เขาส่งมาให้ลองรับชม เสร็จต้องขึ้นไปอาบน้ำข้างบน เพื่อกลับมารอชมฟุตบอลคู่ที่สอง แล้วกลับขึ้นไปนอนอีก ขึ้นๆ ลงๆ อยู่อย่างนี้ นอกจากไม่สะดวกสบาย แล้วยังได้การบ้านไปคิดก่อนนอนด้วยว่า มีประเทศไหนในโลกหล้าที่มันเป็นอย่างนี้กันบ้าง ประเทศที่เอกชนสามารถบล็อกสัญญาณฟรีทีวีของรัฐได้ (ฮา)
หนำซ้ำถึงยุคนี้แล้วยังจะมีมนุษย์กลุ่มใดที่สามารถออกคำสั่งแกมบังคับเอกชนเจ้าหนึ่งให้ต้องไปซื้อของกับอีกเจ้าหนึ่ง ซึ่งมีลิขสิทธิ์ถือครองอยู่เจ้าเดียวเสียด้วย ช่างสวนทางกับกฎหมายเสรีทางการค้าสากลโลกเขาเสียจริงๆ ก็สนุกสนานกันไปตามวิธีคิด วิธีปฏิบัติสไตล์ไทยๆ บ้านเรากันไป
แต่โปรดระวังว่าการแก้ปัญหาแบบเอาใจคนบางกลุ่มเช่นนี้ จะกลายเป็นบรรทัดฐาน (ต้องเข้าใจความจริงว่า ไม่มีธุรกิจเพย์ทีวีเจ้าใดที่สามารถซื้อลิขสิทธิ์กีฬาได้ครบทุกรายการ) หากในอนาคตทางเอกชนอย่าง ทรูฯ ได้ลิขสิทธิ์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เสร็จแล้วไปตกลงกับทางฟรีทีวีออกอากาศ แล้วบล็อกสัญญาณผู้ชมทาง 3, 5, 7, 9, 11, TPBS บนกล่องเก็บเงินของแกรมมี่บ้าง จะเกิดอะไรขึ้น ?
ต่อไป อาร์เอส ได้สัญญาณฟุตบอลโลก ขอบล็อกสัญญาณฟรีทีวี บนกล่องสมาชิกของทรูฯ และแกรมมี่ อีก มิต้องให้เอกชนวิ่งโร่ไปเจรจากันไปมา แถมเจรจากันแบบไม่มีหลักเกณฑ์อะไรกำหนดด้วย เช่นว่าให้ซื้อ-ขายกันบนราคากี่เปอร์เซ็นต์ของลิขสิทธิ์ที่ซื้อมาทั้งหมด แล้วจะตกลงกันได้อย่างไร?
แก้ปัญหาแบบนี้ต่อไปจะยุ่งยิ่งกว่า “ลิงแก้แห” เข้าใจครับว่า นี่คือ เรื่องใหม่ในบ้านในเมืองเรา แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก ทำไมไม่ลองหยิบยกกฎระเบียบ หรือแบบอย่างชาติที่เจริญแล้วเขามาเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติเล่าครับ ว่าเขาทำกันอย่างไร
ประเด็นสำคัญ ก็คือ “ไม่ควรให้ใครมามีสิทธิมาบล็อกสัญญาณฟรีทีวีซึ่งเป็นสมบัติของชาติและประชาชนส่วนรวมได้ ไม่ว่าจะอยู่บนระบบใดหรือกล่องสัญญาณของเอกชนรายใดทั้งสิ้น”
ประเด็นรองๆ ที่เหลือ เช่นว่าจะผิดลิขสิทธิ์หรืออะไรต่างๆ คือ คำกล่าวอ้างเพื่อประโยชน์ของเอกชนแต่ละรายที่ได้ไปตกลงกับหน่วยงานคู่ค้าเอาไว้เองทั้งนั้น อีกพวกก็คืออ้างเพื่อสิทธิของลูกค้าเพย์ทีวีบางกลุ่มที่อยากดูฟรีบ้าง
วันนี้เจ้าหนึ่งบล็อกได้ วันหน้าอีกเจ้าบล็อกคืน วันต่อไปอีกเจ้ามาบล็อกอีก มรึงเห็นพวกกรู (ประชาชน) เป็นอะไรกันเนี่ย!!!
