เดอะ การ์เดียน สื่อชื่อดังประเทศอังกฤษ รายงานว่า อัตราค่าเหนื่อยของนักเตะในพรีเมียร์ลีก อังกฤษทั้ง 20 ทีม สูงถึง 1.6 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท) สูงสุดในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ก่อตั้งพรีเมียร์ลีกมา 20 ปี ทั้งนี้ มียอดรายจ่ายมากกว่ารายรับ ทำให้ทุกฝ่ายต้องหันไปจับตามอง 2 ทีมมหาเศรษฐี อย่าง เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่จำเป็นจะต้องปรับการใช้จ่ายอย่างเร่งด่วน เพื่อรองรับกฎแฟร์เพลย์ทางการเงิน ของ ยูฟา ที่จะบังคับใช้เร็วๆ นี้
จากการเปิดเผยของ ดีลอยท์ บริษัททางการเงิน อัตราค่าเหนื่อยนักเตะในฤดูกาลนี้ (2011-2012) เพิ่มขึ้นจากฤดูกาล 2010-2011 ถึง 200 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็น 70 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว นั่นก็หมายความว่า ทุกๆ 1 ปอนด์ ที่เข้าสโมสร 70 เปอร์เซ็นต์ จะจ่ายให้แก่นักเตะ โดยทาง ดีลอยท์ แนะนำให้สโมสร ลดค่าเหนื่อยลง 60 เปอร์เซ็นต์ หมายคงามว่า ทุกๆ 1 เปอร์เซ็นต์ จะสามารถสร้างกำไรให้แก่สโมสรได้ถึง 20-25 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
อลัน สวิตเซอร์ แห่งบริษัท ดีลอยท์ ได้เปิดเผยรายชื่อสโมสรที่จะต้องเร่งปรับโดยด่วน โดยเป็นที่แน่นอนว่า ต้องเป็น เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี 2 ทีมใช้จ่ายฟุ่มเฟือยประจำศึกพรีเมียร์ลีก โดยกล่าวว่า “เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี เป็นสโมสรที่มีสถิติขาดทุนมากที่สุด ดังนั้น ทั้งสองสโมสรจำเป็นที่จะต้องเร่งแก้ไขโดยด่วนที่สุด และเพื่อให้ยุติธรรมแก่ทั้งคู่ เราต้องชื่นชมพวกเขาที่พยายามทำตามสิ่งที่พวกเราแนะนำ”