ยอมเจ็บไม่ยอมเจ๊ง “บาห์เรนจีพี” ดื้อซิ่ง

ASTVผู้จัดการรายวัน - เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ศึกรถสูตรหนึ่งรายการ “บาห์เรน กรังด์ปรีซ์ 2012” จะเปิดฉากดวลความเร็วตามปฏิทินแข่งที่วางเอาไว้ระหว่างวันที่ 20-22 เม.ย.นี้ ซึ่งในขณะที่ 24 นักขับจาก 12 ทีมแข่งในศึกเอฟวัน กำลังมุ่งสมาธิไปที่การแข่งขันบนแทร็ก มีคำถามมากมายเกิดขึ้นกับสถานการณ์ความปลอดภัยทั้งในและนอกสนาม หลังกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลยังยืนยันว่า จะเดินหน้าประท้วงรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนต่อไป โดยเฉพาะช่วงเวลา 3 วัน ของการแข่งขันที่ซาเกียร์ อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต

จากสถานการณ์ที่ยังมีกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลเดินขบวนเคลื่อนไหวในกรุงมานามาอย่างต่อเนื่อง และมีรายงานยอดผู้เสียชีวิตแล้วถึง 35 ราย ทำให้สมาคมทีมแข่งเอฟวัน (เอฟไอทีเอ) ออกแถลงการณ์ไปยังเอฟไอเอและฝ่ายสิทธิประโยชน์ของเบอร์นี เอคเคิลสโตน ให้พิจารณายกเลิกการแข่งขันที่บาห์เรนเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน เพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย ทว่าจากการหารือล่าสุดของทั้ง 3 ฝ่ายหลังจบศึกไชนีส กรังด์ปรีซ์ ที่นครเซี่ยงไฮ้ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เอฟไอเอและเอคเคิลสโตนยังคงยืนกรานที่จะให้การแข่งขันในสุดสัปดาห์นี้ดำเนินต่อไป

โดย ฌอง ท็อดด์ ประธานเอฟไอเอ ยืนยันว่า “เอฟวันจะต้องดำเนินต่อไป เอฟไอเอคือองค์กรกีฬา เราจึงเน้นที่กีฬาไม่ใช่การเมือง” ขณะที่ เบอร์นี เอคเคิลสโตน ผู้จัดจอมเขี้ยวซึ่งมีการประเมินว่าจะสูญเสียรายได้เข้ากระเป๋าจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 3,000 ล้านบาท) หากศึกบาห์เรน จีพี ต้องถูกยกเลิกก็ออกมายืนยัน “จากข้อมูลการลงไปสำรวจพื้นที่จริง เรามั่นใจว่าจะไม่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น เพราะสถานการณ์ในเวลานี้ค่อนข้างที่จะเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว”

ขณะที่บรรดานักขับที่แม้จะต้องนำรถแข่งคู่ใจลงแข่งขันในสุดสัปดาห์นี้ แต่จากบทสัมภาษณ์ของนักแข่งดังหลายๆ คนก็แสดงให้เห็นว่าแต่ละคนไม่ได้เป็นปลื้มกับการต้องไปแข่งที่บาห์เรนในสถานการณ์เช่นนี้สักเท่าไร่ โดย เจนสัน บัตตัน จากค่ายแม็คลาเรน เผยก่อนเดินทางถึงบาห์เรน ว่า “ผมไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเหตุการณ์ที่นั่นเป็นอย่างไร แต่ก็หวังว่าการตัดสินใจของฝ่ายจัดจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง” เช่นเดียวกับ เซบาสเตียน เวทเทล แชมป์โลกจากเรดบูลล์ เรซซิง ที่มองว่า “ในฐานะนักขับคุณจำเป็นต้องทำตามหน้าที่ของตัวเอง ฉะนั้น เมื่อเอฟไอเอ การันตีความปลอดภัยผมก็ไม่มีทางที่จะปฏิเสธลงแข่งขันในสุดสัปดาห์นี้”

อย่างไรก็ดี ปัญหาสำคัญที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งในบาห์เรน และทั่วโลก ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกการแข่งขันในสุดสัปดาห์นี้ คือ สถานการณ์ความปลอดภัยของทุกฝ่าย โดยเฉพาะเมื่อมีรายงานว่า มีกลุ่มผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งกำลังวางแผนที่จะก่อความไม่สงบในช่วง 3 วันของการแข่งขันเอฟวัน บริเวณรอบซาเกียร์ เซอร์กิต ซึ่งหากมีการปะทะกันจริงๆก็อาจถึงขั้นนองเลือดเหมือนเหตุการณ์ในปี 2011

นอกจากนี้ ยาซิม ฮูซาอิน อดีตผู้นำทางการเมืองของบาห์เรน ซึ่งเป็นเสมือนแกนนำในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ได้ออกมาให้ความเห็นว่า กีฬาอย่างฟอร์มูลา วัน กับการเมืองในบาห์เรนเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่แยกกันไม่ออกไปแล้ว “เอฟวันในบาห์เรน เกี่ยวข้องกับการเมืองโดยตรง เพราะมันคือการแข่งขันที่ได้รับความสนับสนุนจากรัฐบาล ฉะนั้นหากจะบอกว่าการแข่งขันเอฟวัน จะทำให้สถานการณ์ในประเทศดีขึ้น คงไม่ใช่คำพูดที่ถูกต้องอย่างแน่นอน สิ่งสำคัญที่สุดในสุดสัปดาห์นี้สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐ คือ พวกเขาจะต้องหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงกับประชาชนโดดเด็ดขาด”

สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นระหว่างศึกบาห์เรน จีพีหรือไม่ สถานการณ์หลังจากนี้ ถือเป็นเรื่องภายในประเทศที่จะต้องมีการแก้ปัญหากันต่อไป ขณะที่ในฝั่งของเอฟวัน ผู้จัดเขี้ยวลากดินระดับเอคเคิลสโตน ที่แม้จะเจ็บปวดกับการฝืนกระแสโลกจัดซิ่งเอฟที่บาห์เรน แต่คงไม่มีทางที่ยอมเจ๊งกับการเสี่ยงที่จะเสียรายได้ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งจากการที่อาร์เจนตินา และสหรัฐอเมริกา จ่อตบเท้าเป็นเจ้าภาพเอฟวันในปีหน้า บางที “บาห์เรน จีพี” อาจเป็น 1 ใน 2 สนาม ที่กำลังจะถูกถอดออกจากปฏิทินแข่งปี 2013 ก็เป็นได้