เคนนี ดัลกลิช ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล สุ่มเสี่ยงถูกลงโทษจากทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) เมื่อล่าสุดออกมาตั้งข้อสงสัยกับการทำหน้าที่ของบรรดาเชิ้ตดำที่ดูเหมือนตัดสินตรงข้ามกับทีมตนเองหลายครั้งจนเป็นเหตุให้ “หงส์แดง” ฟอร์มย่ำแย่ในช่วงที่ผ่านมาชนะเกมลีกนัดเดียวจาก 9 นัดหลังสุด
โดยกุนซือชาวสกอตเจาะจงไปที่เกม 3 นัดหลังสุด ซึ่งมองว่า กรรมการตัดสินเอียงเข้าข้างคู่แข่งอย่างชัดเจน เกมนัดล่าสุดที่เสมอกับ แอสตัน วิลลา 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา เดิร์ก เคาท์ ถูกทำฟาวล์ แต่ไม่ได้จุดโทษ ขณะที่ลูกยิงของ หลุยส์ ซัวเรซ ในเกมแพ้ต่อ วีแกน ไม่เป็นประตู เนื่องจากถูกมองว่ากองหน้าชาวอุรุกวัยทำแฮนด์บอลก่อน ส่วนเกมบุกแพ้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ก็ไม่ได้จุดโทษจากจังหวะที่ แดนนี ซิมป์สัน กองหลังเจ้าถิ่นทำแฮนด์บอล
“การตัดสินใน 3 นัดหลังสุดชัดเจนว่าตรงข้ามกับเรา มันผิดพลาดอย่างให้อภัยไม่ได้ ผมไม่อยากยกประเด็นนี้กับสมาคมผู้ตัดสิน ผมเคยยกมาแล้วและขึ้นอยู่กับพวกเขาที่ต้องกังวลกับเรื่องนี้ ถ้าหากเหตุการณ์แบบนั้น (ไม่ให้จุดโทษกับ เคาท์) เกิดขึ้น แต่กรรมการไม่ให้ มันเป็นการตัดสินที่ผิดอย่างชัดเจน เรารู้สึกแบบนั้นใน 3 เกมหลังสุด แต่มันเป็นปัญหาของพวกเขาไม่ใช่ของผม” ดัลกลิช กล่าว
โค้ชวัย 61 ปี แสดงความเห็นอีกว่า บางครั้งกรรมการก็ควรออกมาชี้แจงเหตุผลของการตัดสินใจในจังหวะสำคัญซึ่งมีผลต่อเกม และเชื่อว่า ผู้จัดการทีมคนอื่นก็ต้องการแบบนี้ “โชคร้ายสำหรับเราที่ 3 เกมหลังสุดเจอการตัดสินที่ผิดพลาดแต่ไม่เคยได้รับคำอธิบายว่าทำไม ทั้งที่น่าจะเป็นประโยชน์และทำให้เกิดความโปร่งใส่ถ้าหากพวกเขาอธิบายเหตุผลของการตัดสิน หรือแม้แต่ออกมายอมรับว่าตัดสินผิดพลาด แต่พวกเขาก็ไม่เคยพูดอะไร”
“เราไม่ได้ทำอะไรถูกไปหมด พวกเขาก็เช่นกัน แต่การที่เราให้เกียรติซึ่งกันและกันจะช่วยสถานการณ์แบบนี้ได้มาก มิเช่นนั้นผู้คนก็จะคิดว่ามีการสมคบคิดเกิดขึ้น ซึ่งเราไม่เชื่อว่าจะมีเรื่องแบบนั้น แต่พวกเขาจำเป็นต้องออกมาอธิบาย มิเช่นนั้นก็จะเกิดข้อครหากันได้” ดัลกลิช กล่าว
ทั้งนี้ ลิเวอร์พูล หลังจากจบเกมกับ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส คืนวันนี้ (10 เม.ย.) ก็เตรียมลงเตะเกมเอฟเอ คัพ รอบตัดเชือก กับ เอฟเวอร์ตัน ในคืนวันเสาร์ที่ 14 เม.ย.
