เคนนี ดัลกลิช กุนซือชาวสกอตแลนด์ ออกอาการหัวเสียกับผู้ตัดสิน ไมเคิล โอลิเวอร์ ที่ไม่ยอมเป่าให้ ลิเวอร์พูล ได้จุดโทษ ขณะที่ อเล็กซ์ แม็คลีช ผู้จัดการทีมแอสตัน วิลลา บอกว่า เห็นจังหวะปัญหาไม่ชัด
“หงส์แดง” ยังหาชัยชนะไม่เจอในการลงเล่นพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 4 นัดหลังสุด หลังเปิดสนามแอนฟิลด์ ทำได้แค่ไล่ตามตีเสมอ “สิงห์ผงาด” 1-1 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ ทีมดังย่านเมอร์ซีย์ไซด์ยังคงอยู่อันดับ 8 มี 43 คะแนน ขณะที่สโมสรจากย่านมิดแลนด์รั้งอันดับ 15 มี 34 คะแนน
อย่างไรก็ดี แมตช์นี้มีประเด็นปัญหาให้ถกเถียงเรื่องการตัดสินของเชิ้ตดำ ไมเคิล โอลิเวอร์ โดย “คิง เคนนี” ไม่พอใจที่ ลิเวอร์พูล ไม่ได้จุดโทษทั้งในครึ่งแรก ที่ หลุยส์ ซัวเรซ เปิดบอลไปโดนแขนของ เอริก ลิชาจ ในเขตโทษ ก่อนที่ศูนย์หน้าทีมชาติอุรุกวัยจะล้มลงในเขตโทษ หลังถูก อลัน ฮัตตัน เข้ามาแซะจากด้านหลัง จากนั้นในครึ่งหลัง ลิชาจ ก็กางแขนออกมาโดนบอลในขณะที่ เดิร์ก เคาท์ พยายามแตะหนีในเขตโทษฝั่งขวา
ซึ่งหลังจบเกม ดัลกลิช ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าการไม่ได้จุดโทษจะมาจากการตัดสินใจของผู้ตัดสินที่บอกว่าผู้เล่นโชคร้ายเอง ซึ่งเขาเลือกที่จะไม่ให้จุดโทษ แต่กลับมาบอก เดิร์ก เคาท์ ว่า เขาโชคไม่ดีเองอย่างนี้คิดว่ามันสมควรแล้วหรือ จังหวะนั้น เดิร์ก พักบอลด้วยอกแล้วพยายามแตะบอลผ่าน ลิชาจ ที่กำลังเสียเหลี่ยมจึงยกแขนขึ้นมาขวางแล้วบอลก็ไปโดนแขนซึ่งมันควรเป็นจุดโทษ ขณะที่ ซัวเรซ ก็โดนจดชื่อในครึ่งแรกข้อหาพุ่งล้ม และวันรุ่งขึ้นก็เดาได้เลยว่าเขาจะต้องตกเป็นข่าวพาดหัวว่าได้ใบเหลืองฐานพุ่งล้มอีกแล้วแน่ๆ”
ด้าน แม็คลีช กล่าวแย้งว่า “ผมไม่เห็นจังหวะในครึ่งหลังที่เขาพูดถึง ส่วนในครึ่งแรกผู้เล่นของผมชี้แจงว่ามันไม่ใช่จุดโทษแน่ ที่ผ่านมาเราเจ็บปวด เพราะเรื่องจุดโทษมาพอสมควรแล้ว ซึ่งเรายังไม่เคยได้จุดโทษเลยในฤดูกาลนี้ และมันก็ยากที่จะชี้ชัดว่าเป็นจังหวะแฮนด์บอลโดยเจตนาหรือไม่ ซึ่งกรอบเขตโทษเป็นพื้นที่ที่สามารถตัดสินได้หลายอย่างขึ้นอยู่กับมุมมองและดุลยพินิจของผู้ตัดสิน”