คอลัมน์ "สุดฟากสนาม" โดย "นกฟินิกซ์"
ความประหม่าและแรงกดดันในรอบชิงชนะเลิศแกรนด์สแลม เฟรนช์โอเพ่น ทำให้ อังเดร อากัสซี่ ออกอาการลนลานอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าคู่แข่งในเซนเตอร์คอร์ต ที่โรลังด์ การ์รอส นั้นจะเป็นนักเทนนิสรุ่นหลังที่เทียบชื่อชั้น ประสบการณ์แล้วยังห่างจากเขามาก ที่สำคัญ เมดเวเดฟ คือนักเทนนิสหนุ่มผู้เคยคิดจะแขวนแร็กเก็ตด้วยวัยเพียง 24 ปีหากแต่อังเดร ในฐานะรุ่นพี่ได้ยับยั้งเอาไว้พร้อมกับแนะนำเกมที่ควรปรับปรุงเพื่อก้าวให้ถึงจุดสูงสุดในอาชีพ ซึ่งเมดเวเดฟ ทำได้สำเร็จ และ ส่งผลให้เจ้าตัวได้มาพบกับอังเดร บนสนามแข่งชนิดคาดไม่ถึง
หลังจากการแข่งขันต้องถูกเลื่อนเวลาเนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจจากฝนที่โปรยปรายลงมา และทำให้หลายคนมองว่าเป็นโอกาสอันดีที่ อังเดร จะกลับมาเรียกความมั่นใจคืนหลังจากเซตแรกนั้นถูกเมดเวเดฟเอาชนะไปได้ก่อน เมื่อทั้งคู่เดินลงสู่สนาม อังเดร หันไปมองที่สกอร์บอร์ด เขาขึ้นนำเมดเวเดฟ อยู่ 1-0 เกมหากในเกมที่กำลังจะเริ่มต้นหลังจากฝนหยุดตกเป็นเกมเสิร์ฟของ เมดเวเดฟ และดูเหมือนว่านักเทนนิสจากยูเครน จะรักษาจังหวะของตนเองได้ดีด้วยการรักษาเกมเสิร์ฟ และ เบรคเกมของ อังเดรได้ก่อนสุดท้ายเก็บชัยชนะในเซตที่สองไปด้วยสกอร์ 6-2 ถึงแต้มนี้ดูเหมือนว่า เส้นทางสู่แชมป์ของ อังเดร เริ่มจะลางเลือน
การแข่งขันในเซตที่สามเริ่มต้นขึ้น ทั้งคู่ต่างรักษาเกมเสิร์ฟอย่างเหนียวแน่น และดูเหมือนจังหวะของอังเดรจะกลับมาเมื่อเขาเป็นฝ่ายเบรคเสิร์ฟ เมดเวเดฟ ได้ก่อนแต่คู่ต่อสู้จากยูเครน ก็สามารถเบรคกลับคืนได้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมาเสมอกันที่ 4-4 เกม และดูเหมือนเหตุการณ์จะเลวร้ายลงเรื่อยๆ เพราะอีกเพียงหกแต้ม เมดเวเดฟ จะคว้าแชมป์แกรนด์สแลม ครั้งแรกในชีวิตไปครอง แต่แล้วจุดเปลี่ยนของเกมก็เกิดขึ้นเมื่อ อังเดร รักษาเกมเสิร์ฟของตนเองได้สำเร็จ ขณะที่ผู้ชมรอบสนามต่างส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ Allez, Agassi Allez! (สู้ๆ อังเดร สู้ๆ)
เมื่อเริ่มต้นการแข่งขันในเกมเสิร์ฟที่ เมดเวเดฟ มีโอกาสจะคว้าแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น แต่ดูเหมือนโมเมนตัมของการแข่งขันได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่ออังเดร ขึ้นนำในเกมเสิร์ฟของ เมดเวเดฟ 0-40 ก่อนจะปิดเซตที่สามด้วยชัยชนะ หลังจากเบรคเสิร์ฟคู่แข่งได้สำเร็จ อังเดร ไล่ตามขึ้นมาเป็น 1-2 เซต และ เซตที่ 4 คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะบอกได้ว่า เขาจะคว้าแชมป์ บนคอร์ตดินได้หรือไม่
แน่นอนว่าการต่อสู้ในเซตที่สี่ คือการสู้แบบไม่มีอะไรจะเสีย สิ่งที่วนเวียนอยู่ในความคิดของ อังเดร กลายเป็นความว่างเปล่า สมาธิของเขาเพ่งไปที่เกมการแข่งขันและดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นใจเมื่อเเก็บชัยชนะในเซตที่สี่มาครองได้สำเร็จ และการต่อสู้ดำเนินมาถึงเซตที่ 5 อันเป็นเซตตัดสิน อังเดรขึ้นนำ 5-3 เกมเขามีได้แมทช์พอยท์ก่อนถึงสองครั้ง และเจ้าตัวพรำบอกกับตนเองว่าต้องเก็บชัยชนะนี้ให้ได้ มิเช่นนั้นความพ่ายแพ้ต่อเมดเวเดฟ จะกลายเป็นเรื่องหลอกหลอนไปตลอดชีวิต
หากแต่อังเดร ไม่มีโอกาสเก็บ สองแมทช์พอยท์ได้ เจ้าตัวถึงกับตะโกนบอกกับตนเองว่า “ Now Now” (ต้องทำให้ได้ ต้องทำให้ได้เดี๋ยวนี้) เมื่อเข้าไปนั่งพักระหว่างเกม อังเดร หันไปมอง แบรด เขาคิดว่าโค้ชคู่ใจน่าจะแสดงทีท่าให้กำลังใจกันบ้าง หากแต่ สิ่งที่แบรด ทำคือยกมือขึ้นมาชู 4 นิ้ว เป็นการส่งสัญญานบอกกับอังเดร ว่าอีก 4 แต้มก็จะสามารถคว้าแกรนด์สแลมเฟรนช์ โอเพ่นมาครองได้แล้ว
ความประหม่าและแรงกดดันในรอบชิงชนะเลิศแกรนด์สแลม เฟรนช์โอเพ่น ทำให้ อังเดร อากัสซี่ ออกอาการลนลานอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าคู่แข่งในเซนเตอร์คอร์ต ที่โรลังด์ การ์รอส นั้นจะเป็นนักเทนนิสรุ่นหลังที่เทียบชื่อชั้น ประสบการณ์แล้วยังห่างจากเขามาก ที่สำคัญ เมดเวเดฟ คือนักเทนนิสหนุ่มผู้เคยคิดจะแขวนแร็กเก็ตด้วยวัยเพียง 24 ปีหากแต่อังเดร ในฐานะรุ่นพี่ได้ยับยั้งเอาไว้พร้อมกับแนะนำเกมที่ควรปรับปรุงเพื่อก้าวให้ถึงจุดสูงสุดในอาชีพ ซึ่งเมดเวเดฟ ทำได้สำเร็จ และ ส่งผลให้เจ้าตัวได้มาพบกับอังเดร บนสนามแข่งชนิดคาดไม่ถึง
หลังจากการแข่งขันต้องถูกเลื่อนเวลาเนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจจากฝนที่โปรยปรายลงมา และทำให้หลายคนมองว่าเป็นโอกาสอันดีที่ อังเดร จะกลับมาเรียกความมั่นใจคืนหลังจากเซตแรกนั้นถูกเมดเวเดฟเอาชนะไปได้ก่อน เมื่อทั้งคู่เดินลงสู่สนาม อังเดร หันไปมองที่สกอร์บอร์ด เขาขึ้นนำเมดเวเดฟ อยู่ 1-0 เกมหากในเกมที่กำลังจะเริ่มต้นหลังจากฝนหยุดตกเป็นเกมเสิร์ฟของ เมดเวเดฟ และดูเหมือนว่านักเทนนิสจากยูเครน จะรักษาจังหวะของตนเองได้ดีด้วยการรักษาเกมเสิร์ฟ และ เบรคเกมของ อังเดรได้ก่อนสุดท้ายเก็บชัยชนะในเซตที่สองไปด้วยสกอร์ 6-2 ถึงแต้มนี้ดูเหมือนว่า เส้นทางสู่แชมป์ของ อังเดร เริ่มจะลางเลือน
การแข่งขันในเซตที่สามเริ่มต้นขึ้น ทั้งคู่ต่างรักษาเกมเสิร์ฟอย่างเหนียวแน่น และดูเหมือนจังหวะของอังเดรจะกลับมาเมื่อเขาเป็นฝ่ายเบรคเสิร์ฟ เมดเวเดฟ ได้ก่อนแต่คู่ต่อสู้จากยูเครน ก็สามารถเบรคกลับคืนได้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมาเสมอกันที่ 4-4 เกม และดูเหมือนเหตุการณ์จะเลวร้ายลงเรื่อยๆ เพราะอีกเพียงหกแต้ม เมดเวเดฟ จะคว้าแชมป์แกรนด์สแลม ครั้งแรกในชีวิตไปครอง แต่แล้วจุดเปลี่ยนของเกมก็เกิดขึ้นเมื่อ อังเดร รักษาเกมเสิร์ฟของตนเองได้สำเร็จ ขณะที่ผู้ชมรอบสนามต่างส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ Allez, Agassi Allez! (สู้ๆ อังเดร สู้ๆ)
เมื่อเริ่มต้นการแข่งขันในเกมเสิร์ฟที่ เมดเวเดฟ มีโอกาสจะคว้าแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น แต่ดูเหมือนโมเมนตัมของการแข่งขันได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่ออังเดร ขึ้นนำในเกมเสิร์ฟของ เมดเวเดฟ 0-40 ก่อนจะปิดเซตที่สามด้วยชัยชนะ หลังจากเบรคเสิร์ฟคู่แข่งได้สำเร็จ อังเดร ไล่ตามขึ้นมาเป็น 1-2 เซต และ เซตที่ 4 คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะบอกได้ว่า เขาจะคว้าแชมป์ บนคอร์ตดินได้หรือไม่
แน่นอนว่าการต่อสู้ในเซตที่สี่ คือการสู้แบบไม่มีอะไรจะเสีย สิ่งที่วนเวียนอยู่ในความคิดของ อังเดร กลายเป็นความว่างเปล่า สมาธิของเขาเพ่งไปที่เกมการแข่งขันและดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นใจเมื่อเเก็บชัยชนะในเซตที่สี่มาครองได้สำเร็จ และการต่อสู้ดำเนินมาถึงเซตที่ 5 อันเป็นเซตตัดสิน อังเดรขึ้นนำ 5-3 เกมเขามีได้แมทช์พอยท์ก่อนถึงสองครั้ง และเจ้าตัวพรำบอกกับตนเองว่าต้องเก็บชัยชนะนี้ให้ได้ มิเช่นนั้นความพ่ายแพ้ต่อเมดเวเดฟ จะกลายเป็นเรื่องหลอกหลอนไปตลอดชีวิต
หากแต่อังเดร ไม่มีโอกาสเก็บ สองแมทช์พอยท์ได้ เจ้าตัวถึงกับตะโกนบอกกับตนเองว่า “ Now Now” (ต้องทำให้ได้ ต้องทำให้ได้เดี๋ยวนี้) เมื่อเข้าไปนั่งพักระหว่างเกม อังเดร หันไปมอง แบรด เขาคิดว่าโค้ชคู่ใจน่าจะแสดงทีท่าให้กำลังใจกันบ้าง หากแต่ สิ่งที่แบรด ทำคือยกมือขึ้นมาชู 4 นิ้ว เป็นการส่งสัญญานบอกกับอังเดร ว่าอีก 4 แต้มก็จะสามารถคว้าแกรนด์สแลมเฟรนช์ โอเพ่นมาครองได้แล้ว