คอลัมน์ "สุดฟากสนาม" โดย "นกฟินิกซ์"
แม้ความรู้สึกจะบอกกับตนเองว่า ร่างกายยังไม่พร้อมลงแข่งรายการใดทั้งสิ้น แต่ท้ายที่สุดแล้วอังเดร ก็ปล่อยให้ แบรด ลากสังขารที่อ่อนเปลี้ยขึ้นเครื่องบินโดยมีจุดหมายอยู่ที่กรุงโรม ซึ่งท้ายที่สุดแล้วอังเดร พ่ายให้กับ แพทริค ราฟเตอร์ นักเทนนิสดาวรุ่งที่เขาเคยโค่นมาแล้วในการแข่งขันที่ อินเดียน เวลล์ส แต่หนนี้กลับต้องมาพ่ายและทำให้เจ้าตัวนั้นตกรอบที่สามของการแข่งขัน
หลังทัวร์นาเมนท์ที่โรมจบลง อังเดร พยายามหาเหตุผลมาอธิบายให้แบรด หยุดลากสังขารที่ไม่ค่อยพร้อมของตนเข้าร่วมการแข่งขันที่เหลืออยู่ หากโค้ชที่มองเห็นแล้วว่าฟอร์มของชายหนุ่มกำลังจะกลับคืนมาไม่ฟังเสียงใดๆทั้งสิ้น หลังจบจาการแข่งขันที่โรม ทัวร์นาเมนท์ต่อไปอยู่ที่เยอรมนี ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นของเมือง “ดุสเซนดอร์ฟ” อังเดร ยังคงต้องลงซ้อมและแข่งขันพร้อมกับอาการปวดที่หัวไหล่อย่างหนัก และเป็นเหตุให้ต้องถอนตัวจากการแข่งขันหลังเล่นเซตแรกไปได้เพียงแค่ 7 เกมในทัวร์นาเมนท์ดังกล่าว
แต่ดูเหมือนอาการบาดเจ็บดังกล่าวจะไม่ได้ทำให้โค้ชอย่าง แบรด ถอดใจ ขณะที่อังเดร นั้นไม่พูดกับโค้ชของตนเองเลยตลอด 12 ชั่วโมงที่เครื่องบินมุ่งหน้าสู่สนามบินที่ซานฟรานซิสโก และทันทีที่เครื่องบินแตะรันเวย์ ประโยคแรกที่ อังเดร หันไปพูดกับโค้ชที่เขาไว้วางใจที่สุดคือ “ผมต้องการให้คุณถอนชื่อผมจากการแข่งขันเฟรนช์โอเพ่น” ทว่าแบรด ไม่คิดจะทำตาม เขาหันไปพูดกับอังเดร ในวัย 29 ปีว่า “ไม่ อังเดร ผมจะไม่ถอนคุณออกจากการแข่งขันและคุณก็ไม่ต้องกลับบ้านที่เวกัสด้วย เวลานี้สิ่งเดียวที่ต้องทำคือมาบ้านผมที่ซานฟรานฯ เราจะฟื้นฟูร่างกายคุณกัน”
เหตุการณ์ดำเนินไปคล้ายกับที่อังเดร ถูก แบรด ลากตัวไปยังโรม และ ดุสเซนดอร์ฟ ท้ายที่สุดนักเทนนิสหนุ่มนั่งอยู่บนรถของ แบรด ขณะกำลังมุ่งหน้าไปยังบ้านพักระหว่างทางเขาถกเถียงถึงเรื่องอาการบาดเจ็บ และแสดงความไม่มั่นใจที่จะต้องลงสู่คอร์ตดินในเฟรนช์ โอเพ่นโดยกล่าวว่า “มันไม่ได้ผลหรอกแบรด คุณจะเสียเวลาเปล่า อาการบาดเจ็บของผมยังไม่ดีขึ้นเลย” ขณะที่แบรด ตอบสั้นๆว่า “เชื่อผมสิรับรองว่ามันจะได้ผล”
หลังจากนั้น แบรด จัดการให้อังเดรได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ที่บ้านพักของเขาในซานฟรานฯ พร้อมกับทำการทรีทเมนท์กล้ามเนื้อในส่วนที่บาดเจ็บสองครั้งต่อวัน การบำบัดอย่างเร่งรีบนี้เริ่มต้นในวันจันทร์ และประสบผลสำเร็จในวันศุกร์ ซึ่งทำให้แขนอันอ่อนล้าของอังเดร นั้นกลับมาใช้งานได้อีกครั้งหนึ่ง
แม้ความรู้สึกจะบอกกับตนเองว่า ร่างกายยังไม่พร้อมลงแข่งรายการใดทั้งสิ้น แต่ท้ายที่สุดแล้วอังเดร ก็ปล่อยให้ แบรด ลากสังขารที่อ่อนเปลี้ยขึ้นเครื่องบินโดยมีจุดหมายอยู่ที่กรุงโรม ซึ่งท้ายที่สุดแล้วอังเดร พ่ายให้กับ แพทริค ราฟเตอร์ นักเทนนิสดาวรุ่งที่เขาเคยโค่นมาแล้วในการแข่งขันที่ อินเดียน เวลล์ส แต่หนนี้กลับต้องมาพ่ายและทำให้เจ้าตัวนั้นตกรอบที่สามของการแข่งขัน
หลังทัวร์นาเมนท์ที่โรมจบลง อังเดร พยายามหาเหตุผลมาอธิบายให้แบรด หยุดลากสังขารที่ไม่ค่อยพร้อมของตนเข้าร่วมการแข่งขันที่เหลืออยู่ หากโค้ชที่มองเห็นแล้วว่าฟอร์มของชายหนุ่มกำลังจะกลับคืนมาไม่ฟังเสียงใดๆทั้งสิ้น หลังจบจาการแข่งขันที่โรม ทัวร์นาเมนท์ต่อไปอยู่ที่เยอรมนี ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นของเมือง “ดุสเซนดอร์ฟ” อังเดร ยังคงต้องลงซ้อมและแข่งขันพร้อมกับอาการปวดที่หัวไหล่อย่างหนัก และเป็นเหตุให้ต้องถอนตัวจากการแข่งขันหลังเล่นเซตแรกไปได้เพียงแค่ 7 เกมในทัวร์นาเมนท์ดังกล่าว
แต่ดูเหมือนอาการบาดเจ็บดังกล่าวจะไม่ได้ทำให้โค้ชอย่าง แบรด ถอดใจ ขณะที่อังเดร นั้นไม่พูดกับโค้ชของตนเองเลยตลอด 12 ชั่วโมงที่เครื่องบินมุ่งหน้าสู่สนามบินที่ซานฟรานซิสโก และทันทีที่เครื่องบินแตะรันเวย์ ประโยคแรกที่ อังเดร หันไปพูดกับโค้ชที่เขาไว้วางใจที่สุดคือ “ผมต้องการให้คุณถอนชื่อผมจากการแข่งขันเฟรนช์โอเพ่น” ทว่าแบรด ไม่คิดจะทำตาม เขาหันไปพูดกับอังเดร ในวัย 29 ปีว่า “ไม่ อังเดร ผมจะไม่ถอนคุณออกจากการแข่งขันและคุณก็ไม่ต้องกลับบ้านที่เวกัสด้วย เวลานี้สิ่งเดียวที่ต้องทำคือมาบ้านผมที่ซานฟรานฯ เราจะฟื้นฟูร่างกายคุณกัน”
เหตุการณ์ดำเนินไปคล้ายกับที่อังเดร ถูก แบรด ลากตัวไปยังโรม และ ดุสเซนดอร์ฟ ท้ายที่สุดนักเทนนิสหนุ่มนั่งอยู่บนรถของ แบรด ขณะกำลังมุ่งหน้าไปยังบ้านพักระหว่างทางเขาถกเถียงถึงเรื่องอาการบาดเจ็บ และแสดงความไม่มั่นใจที่จะต้องลงสู่คอร์ตดินในเฟรนช์ โอเพ่นโดยกล่าวว่า “มันไม่ได้ผลหรอกแบรด คุณจะเสียเวลาเปล่า อาการบาดเจ็บของผมยังไม่ดีขึ้นเลย” ขณะที่แบรด ตอบสั้นๆว่า “เชื่อผมสิรับรองว่ามันจะได้ผล”
หลังจากนั้น แบรด จัดการให้อังเดรได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ที่บ้านพักของเขาในซานฟรานฯ พร้อมกับทำการทรีทเมนท์กล้ามเนื้อในส่วนที่บาดเจ็บสองครั้งต่อวัน การบำบัดอย่างเร่งรีบนี้เริ่มต้นในวันจันทร์ และประสบผลสำเร็จในวันศุกร์ ซึ่งทำให้แขนอันอ่อนล้าของอังเดร นั้นกลับมาใช้งานได้อีกครั้งหนึ่ง