“แข้งนอก” ทีเด็ดล่าแชมป์ไทยลีก

ASTVผู้จัดการรายวัน-ถือเป็นการเรียกน้ำย่อยอย่างออกรสออกชาติ สำหรับฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา เมื่อ ชลบุรี เอฟซี หยุดภารกิจ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่กวาดถ้วยเป็นว่าเล่นนับตั้งแต่ทริปเปิลแชมป์ในประเทศเมื่อปีที่แล้ว พลิกจากตามหลัง 2 ลูกตีเสมอและเอาชนะจุดโทษ 4-3 ก่อนที่ศึก สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2012 จะเป็นฉากอย่างเป็นทางการวันเสาร์ที่ 17 มี.ค.นี้ คอลูกหนังน่าจะได้เห็นการยกระดับสรรพกำลังของแต่ละทีมโดยเฉพาะ "บิ๊กไฟว์" เรื่องที่น่าจับตามองคงหนีไม่พ้นตัวต่างชาติที่ถูกเลือกสรรอย่างพิถีพิถัน หลังมีการปรับลดโควตามาเป็น 3+1 (ลงทะเบียนได้ 7 คน ส่งชื่อได้นัดละ 5 คน ลงเล่นได้ 3 คนบวกกับชาวเอเชียอีก 1 คน) ซึ่ง MGR Sport ขออุ่นเครื่องด้วยการเลือกว่าใครคือแข้งนอกหน้าใหม่ที่จะเป็นกุญแจสำคัญไขประตูสู่แชมป์ของแต่ละทีม

อัสการ์ ยาดิเกรอฟ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
แม้ห้องเครื่องทีมชาติอุซเบกิสถานจะมีอายุถึง 32 ปี แต่ก็พกประสบการณ์มาเต็มเปี่ยม ซึ่งได้พิสูจน์แล้วในแมตช์แรกของ เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ที่ยิงโค้งงามหยดพา “ปราสาทสายฟ้า” ดับ คาชิวะ เรย์โซล แชมป์เจ-ลีก ญี่ปุ่น รวมทั้งช่วยให้แดนกลางนิ่งขึ้นจากการผ่านบอลและหาพื้นที่ให้เพื่อนเล่นง่าย

ด้าน เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรแห่งแดนอีสานใต้กล่าวเสริมว่า “ปีนี้โควตาเอเชียจะเป็นตัวทีเด็ดที่ทำให้ บุรีรัมย์ ได้เปรียบทีมอื่นเพราะเราเซ็นสัญญาเฉพาะของจริงเข้ามา ซึ่ง อัสการ์ แม้ว่าจะอายุเยอะแล้ว แต่เมื่อปีก่อนเขาก็ลงเล่นให้กับ บุนยอดกอร์ แชมป์อุซเบฯ เกือบทุกนัด อีกทั้งยังมีฝีเท้าไม่ธรรมดาด้วย”

อันแดร์สัน โดส ซานโตส (ชลบุรี)
สิ่งที่ทำให้ “ฉลามชล” ไปไม่ถึงดวงดาวในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่การขาดตัวทดแทนซึ่งมีคุณภาพทัดเทียมกับตัวจริงในยามประสบปัญหาบาดเจ็บ ทำให้มีการดึงแข้งนอกที่สอบผ่านในไทยลีกมาร่วมทัพหลายราย หนึ่งในนั้นคือ ปราการหลังชาวบราซิลที่เป็นเสาหลักในแนวรับให้ บุรีรัมย์ พีอีเอ ช่วง 2 ปีหลังสุด

“โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล กุนซือเดอะ ชาร์ค พูดถึงการคว้าตัวรายนี้ว่า “เขามีความเร็ว แข็งแกร่ง เล่นได้ทั้งเซนเตอร์ฮาล์ฟและมิดฟิลด์ตัวรับ ผมเชื่อว่าเขาจะเข้ามาเติมความแข็งแกร่งในเกมรับให้กับทีมสำหรับทั้ง 4 รายการในฤดูกาลนี้ได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในลีกที่เราต้องการคว้าแชมป์”

มาริโอ ยูรอฟสกี (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
หลังวืดถ้วยแชมป์ทั้ง 3 ใบเมื่อซีซันก่อน ปีนี้ “กิเลนผยอง” จึงจัดหนักเพื่อทวงความยิ่งใหญ่กลับคืนมา โดยหนึ่งในนั้นมีชื่อของมิดฟิลด์ตัวรุกซ้ายธรรมชาติ ดีกรีทีมชาติมาซิโดเนีย ชุดปัจจุบัน ซึ่งทำสัญญากันถึง 3 ปี และแน่นอนว่าด้วยวัยเพียง 26 ปีน่าจะช่วยเพิ่มความสดและมิติในแนวรุกให้หลากหลายยิ่งขึ้นแน่

โดย รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการกีฬาของ เมืองทองฯ บรรยายสรรพคุณว่า “นี่เป็นการเซ็นสัญญาที่เซอร์ไพรส์วงการลีกยุโรป เนื่องจาก มาริโอ มีข่าวกับหลายทีมทั้งจาก เจ-ลีก, เค-ลีก และไชน่าลีก รวมถึง แวร์เดอร์ เบรเมน ทีมดังในศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี แต่สุดท้ายเขาก็ได้ย้ายมาร่วมงานกับเรา”

เอเลียส แฟร์เรรา (บางกอกกล๊าส)
“กระต่ายแก้ว” อยู่ในสถานะม้ามืดที่พร้อมสอดแทรกลุ้นแชมป์กับ บุรีรัมย์, ชลบุรี และ เมืองทองฯ ซึ่งหากไม่นับ “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย ที่เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในแดนหน้า อดีตดาวเตะชูเวนตูเดในลีกบราซิลวัย 22 ปีรายนี้น่าจะเป็นคีย์แมนของทีมได้ไม่ยาก ซึ่ง สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ กุนซือบีจีกล่าวว่า “เขาเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่เล่นได้หลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น เซนเตอร์ฮาล์ฟ, แบ็กขวารวมไปถึงตำแหน่งหลักของเขาอย่างมิดฟิลด์ตัวรับ ซึ่งที่ผ่านมาเขาสามารถทำผลงานและเข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้เป็นอย่างดี”

เคลย์ตัน ซิลวา (บีอีซี เทโรศาสน)
ปีนี้ “มังกรไฟ” เทงบทำทีมสูงถึง 100 ล้านบาท เพื่อหวังปลุกยักษ์หลับให้กลับมาผงาดอีกครั้ง ซึ่งแม้จะเสีย “ลีซอ” ไป แต่เจ้าของฉายา “โรนัลโด 2” ก็ถูกดึงมาอุดช่องโหว่ได้อย่างเหมาะเจาะ ด้าน โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ ผู้จัดการทั่วไปคนใหม่เผยว่า “ก่อนหน้านี้เขาได้รับข้อเสนอจาก 2-3 ทีมในเวียดนาม แต่ก็เลือก เทโรฯ เพราะเชื่อว่าเราจะประสบความสำเร็จได้ แน่นอนว่าด้วยทักษะส่วนตัวและประสบการณ์ในไทยลีกกับ โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี จะทำให้เขาเป็นทางเลือกที่ดีในแดนหน้าของทีม”