ASTVผู้จัดการรายวัน-การย้ายทีมครั้งล่าสุดของ “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย ดาวยิงทีมชาติเจ้าของหมายเลข 14 จาก “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน มาร่วมทัพ “กระต่ายแก้ว” บางกอกกล๊าส เอฟซี ด้วยค่าตัว 3.5 ล้านบาท ภายใต้สัญญา 2 ปีเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลายข่าวที่ฮือฮาที่สุดของตลาดนักเตะฟุตบอลไทยฤดูกาล 2012 และนับเป็นสโมสรที่ 3 สำหรับเจ้าตัวในเมืองไทยต่อจาก เมืองทองฯ ยูไนเต็ด และ บีอีซี เทโรฯ ด้วยผลงานในอดีตรวมมกับประสบการณ์ที่เคยเล่นให้กับสโมสรในยุโรป การย้ายทีมของนักเตะระดับเอลิสต์อย่าง “ลีซอ” จึงน่าจะทำให้สปอตไลท์ฤดูกาล 2012 ฉายจับไปที่ “บีจี” แทบจะในทันทีที่เปิดฤดูกาล รวมไปถึงความมั่นใจในตัวนักเตะที่ โค้ชง้วนเอ่ยปากว่า "ลีซอ" คือ “จิ๊กซอว์”ตัวสุดท้ายที่จะสร้างเกมอันสมบูรณ์แบบให้บางกอกกล๊าส เอฟซี เพื่อลุ้นแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกกันเลยทีเดียว
หลังบางกอกกล๊าส เอฟซี ต้องเสียศูนย์หน้าอย่าง ศรายุทธ ชัยคำดี (โจ้ ห้าหลา) ให้กับ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ในช่วงปิดฤดูกาล 2011 ทำให้มีการคาดเดาถึงผู้เล่นที่จะมาเติมช่องว่างในถิ่น "ลีโอสเตเดี้ยม" และการเปิดตัวชนิดฟ้าแลบของ "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาทำให้แฟนบอล "กระต่ายแก้ว"ต่างยินดีกันถ้วนทั่วเพราะศูนย์หน้าวัย 27 ปีคือนักฟุตบอลระดับ "บิ๊กเนม" ที่หลายคนเชื่อว่าจะมาช่วยสานฝันสู่ถ้วยแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ของชาวบีจี ให้เป็นจริงขึ้นมา
หากย้อนกลับไปในช่วงท้ายฤดกาล 2011 ของไทยพรีเมียร์ลีก ดูเหมือนว่าภาพข่าวของดาวยิงหมายเลข 14 จะเงียบหายไปจากพื้นที่สื่อ นั่นเป็นเพราะอาการบาดเจ็บที่ทำให้เจ้าตัวออกลีลาได้ไม่มากนัก หากแต่สี่นัดสุดท้ายกับการโชว์ฟอร์มขั้นเทพกับต้นสังกัดเก่า บีอีซี เทโรฯ ได้สร้างความประทับใจให้กับ "โค้ชง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ และบอร์ดบริหารของสโมสรเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมีโอกาสอันเหมาะสมสโมสรใหญ่ที่จบไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2011 ด้วยอันดับที่ 5 จึงไม่รีรอที่จะคว้าตัว ธีรเทพ มาเสริมทัพด้วยค่าตัวชนิดที่คนในวงการลูกหนังไทยต่างร้อง "ซี้ด" กันเลยทีเดียว
เมื่อเดินเข้าสู่ต้นสังกัดใหม่ คำถามแรกที่ศูนย์หน้ารายนี้ต้องมอบความมั่นใจให้กับแฟนบอล บอร์ดบริหารสโมสร รวมไปถึงสื่อมวลชนคือสภาพร่างกายที่จะยังรักษาความฟิตได้เหมือนในอดีตหรือไม่ รวมไปถึงความมุ่งมั่นที่ระยะหลังมีกระแสข่าวว่า "ลีซอ" เริ่มติดนิสัย "ซุปฯตาร์" จนอาจนำมาถึงการกระทบกระทั่งกันภายในทีม ซึ่งเรื่องทั้งหมดนี้ นักเตะใหม่แห่งถิ่นกระต่ายแก้ว ได้คลายข้อสงสัยด้วยการในวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่สโมสรว่า
“ในการมาร่วมทีมกับบีจีครั้งนี้ ผมหวังที่จะช่วยทีมประสบความสำเร็จตามเป้าที่วางไว้ ถึงแม้ผมจะยิงประตูไม่ได้ แต่ถ้าช่วยให้ทีมได้รับชัยชนะผมก็พอใจ แต่ตอนนี้ผมจะต้องเรียกความฟิตกลับมาให้ได้เร็วที่สุดก่อน เพราะตอนนี้ยังมีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าและหัวเข่าอยู่เล็กน้อย ส่วนเบอร์เสื้อนั้น ผมจะยังคงสวมเสื้อหมายเลข 14 อันเป็นเอกลักษณ์เหมือนที่ผ่านมาแน่นอน” นอกจากนี้ ลีซอ ยังเผยด้วยว่าก่อนหน้าเซ็นสัญญากับทีมกระต่ายแก้ว มีทีมต่างชาติติดต่อมาเช่นกันโดยเผยว่า “ความจริงก่อนจะเซ็นสัญญากับทางบีจี มีทีมในลีกกาตาร์ติดต่อเข้ามา แต่ทางนั้นเหมือนจะไม่ชัดเจน แต่ถ้ามีโอกาสอีกครั้งที่จะได้เล่นในต่างแดน ผมก็พร้อมที่จะออกไปหาความท้าทายอีกหน พูดกันตามตรงถึงตอนนี้ลีกบ้านเราจะพัฒนาไปไกล แต่ก็ยังไม่เทียบเท่ากับลีกดังๆในเมืองนอก ทั้งเรื่องสปอนเซอร์หรือเรื่องการจัดการแข่งขันที่เป็นระบบ”
ส่วนเรื่องพฤติกรรม "ซุปฯตาร์" ทั้งในและนอกสนามนั้น ลีซอ ได้ให้ความมั่นใจวา “ยอมรับว่าผมเองมีงานอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลอยู่บ้าง แต่ส่วนตัวแล้วผมจัดทุกอย่างในชีวิตอย่างเป็นระบบ อย่างงานถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณานั้นมันก็เป็นรายได้ส่วนหนึ่งเพียงแต่ก็ไม่ได้รับเยอะจนเกินไปและรับรองว่าจะไม่กระทบกระเทือนถึงการแข่งขันอย่างแน่นอน" ขณะที่เรื่องพฤติกรรมหรือ บุคลิกภาพที่เป็นคนเชื่อมันในตนเองสูงเสียจนทำให้มีแฟนบอลบางกลุ่มเกิดอาการหมั่นไส้นั้น ลีซอ ได้ให้ความเห็นว่า “ผมเข้าใจดี มันก็เป็นเรื่องธรรมดา ต้องมีทั้งคนรักคนเกลียดปนกันเราไม่สามารถทำให้ทุกคนมาชอบได้ทั้งหมด สไตล์การเล่นผมเป็นอย่างนี้ อยากให้แฟนบอลดูกันที่ผลงานดีกว่า"
ทางด้าน "โค้ชง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ได้กล่าวถึง "ลีซอ" ในฐานะศูนย์หน้าว่ายังคงเป็นผู้เล่นที่มากด้วยประโยชน์ หากรักษาความฟิตได้ตลอดทั้งฤดูกาลจะเป็นกำลังสำคัญของทีม "การได้ ลีซอ เข้ามาเสริมทัพนับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นนักเตะที่มากด้วยความสามารถ และประสบการณ์แล้ว ยังเป็นนักเตะในระดับบิ๊กเนม ที่น่าจะทำให้เพื่อนร่วมทีมมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น ส่วนสไตล์การเล่นของ ลีซอ นั้นเรียกได้ว่าหลากหลายกว่า "โจ้" (สรายุทธ์ ชัยคำดี) โดยเฉพาะการเข้าบอลที่ดุดันกว่าและความเป็นผู้นำ ส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่าถ้า ลีซอ รักษาความฟิตได้ตลอดฤดูกาลเขาจะเป็นกำลังสำคัญของบางกอกกล๊าสเลยทีเดียว"
ทั้งนี้ ลีซอ ที่ผ่านการตรวจร่างกายได้เข้าแคมป์บางกอกกล๊าส เอฟซี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งการทุ่มซื้อนักเตะในครั้งนี้ของ บีจี ทำให้โค้ชง้วน มั่นใจ ธีรเทพ คือ "จิ๊กซอว์" ตัวสุดท้ายที่ทำให้ภาพของทีมกระต่ายแก้ว สมบูรณ์อย่างเต็มที่ก่อนลงเตะฤดูกาล 2012 เลกแรกในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งโค้ชง้วนตั้งความหวังไว้ว่าหากติดในท้อป 4 ของช่วงครึ่งฤดูกาลได้ ครึ่งฤดูกาลหลัง กองเชียร์ “กระต่ายแก้ว” มีโอกาสที่จะลุ้นแชมป์เช่นกัน
