"ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี กร้าวจองที่นั่งรองแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกเบียดกับ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า พร้อมลุ้นให้ บุรีรัมย์ พีอีเอ ดับเบิลแชมป์ เพื่อคว้าสิทธิ์ลุย เอเอฟซี แชมป์เปียนลีกส์ รอบเพลย์ออฟ พร้อมเผยมีหลายทีมดังไทยพรีเมียร์ลีกติดต่อซื้อตัวนักเตะในทีมหลายราย
เมื่อเวลา 13.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม 2554 ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เป็นประธานแถลงข่าวมีทเดอะเพรสไทยพรีเมียร์ลีก ประจำวันที่ 17-18 ธันวาคม 2554 ณ สมาคมนักข่าว-ช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย
ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี - บางกอกกล๊าส เอฟซี
เริ่มกันที่ "โค้ชโอ่ง" ดุสิต เฉลิมแสน กุนซือศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี ทีมอันดับ 17 มี 23 คะแนน กล่าวถึงความพร้อมก่อนเกมเปิดบ้านรับ "บีจี" ว่า "ต้องยอมรับว่าเป็นเกมที่หนักพอควรเพราะตอนนี้ทีมตกชั้นไปครึ่งตัวแล้ว แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ อาจมีเซอร์ไพรส์ในอีก 6 นัดที่เหลือ โดยทีมต้องการ 3 แต้มในทุกนัดเท่านั้น เชื่อว่าในทางปฏิบัติอาจเป็นไปได้ยากแต่จะสู้ให้ถึงที่สุด สำหรับตัวผู้เล่นในแมตช์เมื่อวานยอมรับว่าผิดหวังแต่ก็จะไม่โทษใคร หากจะโทษต้องโทษที่ตัวเองมากกว่าในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอน"
"ดังนั้นทางเลือกสุดท้ายห้ามแพ้หรือเสมอเด็ดขาดเพราะจะทำให้เดินยากขึ้น การเจอ "บีจี" นับว่าเป็นทีมที่มีความหลากหลายทำให้เราต้องเล่นอย่างรัดกุมแม้คู่ต่อสู้จะมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกุนซือก็ตาม อย่างไรก็ตามยังยืนยันว่าจะทำหน้าที่จนจบฤดูกาลไม่ว่าทีมจะตกชั้นหรือไม่ส่วนฤดูกาลหน้าขึ้นอยู่ที่บอร์ดสโมสรฯ"
ด้าน "เสี่ยเหน่ง" ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ผจก.ทีมบางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมอันดับ 4 มี 46 คะแนน กล่าวในฐานะกุนซือขัดตาทัพว่า "สโมสรฯ มีภาวะกดดันทั้งทางด้านแฟนบอลและสปอนเซอร์ แม้ทีมอยู่อันดับ 4 แต่ก็ยังวางใจไม่ได้โอกาสเพราะทีมอื่นมีแต้มไล่สูสี ที่สำคัญตอนนี้แรงกดดันอยู่ที่ตำแหน่งโค้ชคนใหม่ ในการเตรียมความพร้อมนัดต่อไปคงต้องรอให้ "โค้ชง้วน" กลับมาจากการอบรมโปรเฟสชั่นแนล ไลเซนส์ ที่สิงคโปร์"
"สำหรับนักเตะคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักเพราะคลุกคลีกันมานานและมีความเป็นมืออาชีพ การเยือนศรีราชาฯ ต่างต้องการ 3 แต้มด้วยกันทั้งนั้น น่าจะเป็นเกมที่สนุกพร้อมเปิดเกมรุกแลกกัน ส่วนปีหน้าจะมีการผลักดันผู้เล่นเยาวชนของทีมลงสนามมากขึ้น เพราะเรื่องอายุก็เป็นอีกหนึ่งอุปสรรคแห่งความสำเร็จ"
พร้อมกันนี้ ศุภชัย คมศิลป์ กัปตันทีม "กระต่ายแก้ว" เผยถึงการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกุนซือว่า "อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ไม่ถึงกับเสียศูนย์เพราะนักเตะในทีมมีความพร้อมเสมอ"
บีอีซี เทโรศาสน - ชลบุรี เอฟซี
สำหรับความพร้อมของ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน ทีมอันดับ 5 มี 44 คะแนน ได้ส่ง มงคล ผลสมหวัง เลขานุการทีม กล่าวถึงความพร้อมว่า "จากที่ผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีความมั่นใจในเกมเปิดบ้านรับ ชลบุรี เอฟซี อีกทั้งได้ผู้เล่นที่หายจากอาการบาดเจ็บกลับคืนสนาม มีเพียง สุภชัย ภูผา เท่านั้นที่ถูกแบน เชื่อว่า 3 แต้มต้องอยู่ที่เราแน่นอนเพื่อรักษาอันดับท็อปไฟว์จนจบฤดูกาล 2011"
ขณะเดียวกัน "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ศูนย์หน้าของทีมกล่าวถึงความพอใจหลังหายจากอาการบาดเจ็บว่า "ดีใจที่สามารถเรียกฟอร์มกับมาได้แม้จะยังไม่เต็มร้อย คาดว่าในปีหน้าจะฟิตและสามารถช่วยทีมได้มากกว่านี้เพื่อมีสิทธิ์ลุ้นแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก"
ทาง จีรศักดิ์ โจมทอง ผู้อำนวยการประชาสัมพันธ์ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 2 มี 59 คะแนน เผยถึงความพร้อมว่า "นัดนี้ขาดผู้เล่นตัวหลักอย่าง ณัฐพงษ์ สมณะ, อดุล หละโสะ และ เจษฏากร เหมแดง เนื่องจากอาการบาดเจ็บ ส่วน เชอร์รี่ ก็ยังเจ็บเหมือนเดิม ทั้งนี้หลังจากที่ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด แพ้ก็รู้สึกฮึกเหิมใจที่จะเบียดชิงตำแหน่งรองแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกและลุ้นให้บุรีรัมย์ พีอีเอ ดับเบิลแชมป์เพราะ ชลบุรีฯ ตั้งเป้าหมายไว้ที่การเล่นถ้วยเอเชีย"
"ส่วนกระแสข่าวที่บุรีรัมย์ พีอีเอ ต้องการซื้อตัวชลทิตย์ จันทคาม ต้องขอยอมรับว่ามีหลายทีมในไทยพรีเมียร์ลีกที่ต้องการซื้อนักเตะจากทีมเราอีกหลายคน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ "โค้งเฮง" วิทยา เลาหกุล ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจคนเดียวเท่านั้น อีกทั้งปีหน้าจะมีสตาฟฟ์โค้ชจากญี่ปุ่นร่วมทีมอีก 2-3 คน"
ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี - เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด
โดย สัญชัย อดุลสิทธิกุล ที่ปรึกษาทีม "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ทีมอันดับ 11 มี 38 คะแนน กล่าวถึงความพร้อมว่า "จากที่เราชนะใน 6 นัดหลังที่ผ่านมาทำให้มั่นใจนัดพบ เมืองทองฯ ที่เป็นทีมชั้นนำและเอาชนะยากมาก แต่ ราชนาวี ก็สามารถทำได้สำเร็จซึ่ง ศรีสะเกษฯ ก็หวังอย่างนั้นเช่นกัน ทั้งนี้ทีมต้องเจอศึกหนักหลายเกมด้วยการพบ เมืองทองฯ, ชลบุรี เอฟซี และ บุรีรัมย์ฯ ต้องมีทีมใดทีมหนึ่งที่พ่ายแพ้กลับไป อีกทั้งสโมสรฯ ได้ตั้งเป้าหมายไว้คือการไม่ตกชั้น และจบด้วยเลขตัวเดียว ส่วนโค้ชในปีหน้ายังคงเป็นรอยเตอร์เช่นเดิม"
ปิดท้ายที่ ตัวแทนจาก "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3 มี 56 คะแนน ได้ส่ง กานต์ จันรัตน์ เลขาฯ ของทีม เผยถึงความพร้อมว่า "นัดเมื่อวานยอมรับว่าปิดเกมไม่ได้เอง อย่างไรก็ตามทีมต้องเดินหน้าต่อไปโดยแก้ไขจากจุดบกพร่องที่ผ่านมา ซึ่งฟุตบอลไม่ได้วัดกันที่อันดับตารางคะแนนเท่านั้น ทั้งนี้ยังเชื่อมั่นในศักยภาพของนักเตะในทีมแต่อาจจะมีปัญหาเรื่องการล้าจากการเดินทางและติดทีมชาติ แต่ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด"
ขณะเดียวกัน อานนท์ สังข์สระน้อย กองหน้าเมืองย่าโมของทีม "กิเลนผยอง" ยอมรับเสียใจกับนัดที่พ่ายคาบ้านให้กับ ราชนาวี เนื่องจากความกดดันทำให้ช่วงท้ายเกมเสียประตูง่ายไป "ไม่พอใจกับผลงาน อาจเป็นเพราะได้ลงสนามน้อยเกินไปจึงทำให้ความมั่นใจขาดหายไป อย่างไรก็ตามเชื่อว่าทีมสามารถจบที่อันดับ 2 ไทยพรีเมียร์ลีกได้แน่นอน และยืนยันว่ายังไม่มีสโมสรจากโคราชติดต่อมาที่ตนทั้งสิ้น"
โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม 2554
เวลา 18.00 น. อาร์มี่ ยูไนเต็ด - บุรีรัมย์ พีอีเอ ณ กองทัพบก ถ่ายทอดสดทาง ทรูสปอร์ต 2 (102)
เวลา 18.00 น. ทีโอที เอสซี - ทีทีเอ็ม พิจิตร เอฟซี ณ ทีโอที สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง สเปเชียล สปอร์ต (161)
เวลา 18.00 น. ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี - บางกอกกล๊าส เอฟซี ณ ซูซูกิ สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง เอ็นบีที 11
เวลา 18.00 น. พัทยา ยูไนเต็ด - เชียงราย ยูไนเต็ด ณ สนามเทศบาลตำบลหนองปรือ ถ่ายทอดสดทาง สยามกีฬาทีวี
วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2554
เวลา 18.00 น. ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี - เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ณ ศรีนครลำดวน ถ่ายทอดทาง เอสเคทีวี
เวลา 18.00 น. เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี - การท่าเรือไทย เอฟซี ณ อบจ.สมุทรสงคราม ถ่ายทอดสดทาง ที-สปอร์ต
เวลา 18.00 น. ราชนาวี - โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี ณ ราชนาวี สัตหีบ ถ่ายทอดสดทาง เอ็นบีที 11
เวลา 18.00 น. บีอีซี เทโรศาสน - ชลบุรี เอฟซี ณ เทพหัสดิน ถ่ายทอดสดทางช่อง ทรู สปอร์ต 2 (102)
เวลา 18.00 น. อินทรีเพื่อนตำรวจ - ขอนแก่น เอฟซี ณ สนามกีฬากลาง จ.สุพรรณบุรี ถ่ายทอดสดทางช่อง สเปเชียล สปอร์ต (161)