xs
xsm
sm
md
lg

แบ็คอัพ “รอรีย์” ที่ชื่อ “แบนนอน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไมเคิล แบนนอน โค้ชวงสวิง (ซ้าย) และ เจอร์รี แม็คอิลรอย พ่อบังเกิดเกล้า
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - รอรีย์ แม็คอิลรอย กลายเป็นนักกอล์ฟหมายเลข 1 ของโลกคนใหม่ หลังจากคว้าแชมป์พีจีเอ ทัวร์ รายการ เดอะ ฮอนด้า คลาสสิก ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา และด้วยอายุเพียง 22 ปีกับ 305 วันก็เป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดอันดับ 2 ที่ครองบัลลังก์สูงสุดวงการสวิงโลกรองจากไทเกอร์ วูดส์ โดยนับแต่เทิร์นโปรปี 2007 เป็นต้นมา นักกอล์ฟหนุ่มจากเบลฟาสท์รายนี้คว้าแชมป์ระดับอาชีพแล้ว 4 รายการ ซึ่งรวมถึงเมเจอร์ ยูเอส โอเพน 2011 ความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วของแม็คอิลรอย ส่วนหนึ่งอาจต้องยกความดีความชอบให้ไมเคิล แบนนอนโค้ชวงสวิงที่ทำงานร่วมกันมานาน ผู้ซึ่งสามารถดึงพรสวรรค์ของโปรผมหยิกออกมาได้อย่างเต็มศักยภาพ

แบนนอน ไม่ใช่โค้ชวงสวิงมีชื่อเสียงโด่งดังที่คนทั่วไปรู้จักกันเหมือนอย่างบุทช์ ฮาร์มอน แฮงค์ ฮานีย์ หรือฌอน โฟลีย์ ซึ่งทั้งสามคนมีลูกศิษย์ลูกหาเป็นโปรชั้นแนวหน้าหลายคนรวมถึงไทเกอร์ วูดส์ แต่ผลงานที่เกิดขึ้นกับแม็คอิลรอย ก็แสดงให้เห็นว่าโค้ชวัย 53 ปีฝีมือไม่ธรรมดา แบนนอนเริ่มเป็นโค้ชให้ แม็คอิลรอย ตั้งแต่ตอนอายุ 8 ขวบ เขาเคยเป็นโปรอยู่ที่สนามฮอลลีวูด กอล์ฟ คลับ ในไอร์แลนด์เหนือ จนได้รู้จักกับ เจอร์รี พ่อของ แม็คอิลรอย ซึ่งเป็นบาร์เทนเดอร์อยู่ที่สนาม เจอร์รีนำลูกชายมาที่สนามกอล์ฟบ่อยๆจนเกิดความชอบกีฬาชนิดนี้ หลังจากเห็นแววเก่งจึงฝากฝังเจ้าหนูรอรีย์ให้เป็นศิษย์ของเพื่อนนักกอล์ฟ

สมัยยังเล่นกอล์ฟอาชีพ แบนนอน เคยทำผลงานดีที่สุดคว้ารองแชมป์รายการไอริช พีจีเอ แชมเปียนชิป เมื่อปี 1998 โดยแพ้ต่อพาเดร็ก แฮร์ริงตัน อดีตแชมป์เมเจอร์ 3 รายการ

สำหรับการทำงานร่วมกับ แม็คอิลรอย ตลอดระยะเวลาเกือบ 15 ปี แบนนอนเคยเปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า โปรจอมตีไกลมีวงสวิงที่ดีอยู่แล้วตั้งแต่เด็กจากการเลียนแบบพ่อและนักกอล์ฟดังๆ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมากนัก เพียงแต่ดูเรื่องท่าทางและจัดให้มันเข้ารูปเข้ารอย ช่วงที่ผ่านมาถ้าหากเกิดข้อบกพร่องเล็กๆน้อยๆ ก็จะรอถึงระยะเวลาหนึ่งค่อยแก้ไข แต่พื้นฐานของวงสวิงยังเหมือนเดิม

แบนนอน มักตามไปสอนลูกศิษย์ระหว่างทัวร์นาเมนท์ที่แข่งขันในทวีปยุโรปเสมอ แต่เมื่อ แม็คอิลรอย เดินทางไปแข่งขันที่อื่นตามประเทศต่างๆทั่วโลก็จะติดต่อกันทางอีเมล ถ้าหากเห็นการเล่นที่ผิดพลาดของโปรวัย 22 ปีจากการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ก็จะส่งอีเมลให้คำแนะนำหรือวิดีโอการสวิงไม้ของลูกศิษย์ในอดีตเพื่อเตือนความจำ

ตัวอย่างเช่น ในการแข่งขันกอล์ฟรายการ พีจีเอ แกรนด์สแลม ออฟ แชมเปียนส์ ที่เกาะเบอร์มิวดา เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งเอาผู้ชนะเมเจอร์ทั้ง 4 รายการในปีนั้นมาดวลกัน แม็คอิลรอย จบอันดับ 3 ของรายการ และ แบนนอน สังเกตเห็นว่าลูกศิษย์ถ่างแขนมากเกินไปตอนสวิงไม้จึงให้คำแนะนำ หลังจากนั้นในช่วงท้ายฤดูกาล โปรแฟนหนุ่มของ คาโรไลน์ วอซเนียคกี นักเทนนิสสาวชาวเดนมาร์ก กลับมาเล่นดีอีกครั้งกระทั่งคว้าแชมป์รายการ ฮ่องกง โอเพน

ผลงานที่น่าประทับใจของ แม็คอิลรอย เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทั้งการคว้าแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิตและจบปีด้วยการรั้งมือ 2 ของโลกทำให้ แบนนอน ได้รับรางวัลโค้ชแห่งปีจาก สมาคมนักกอล์ฟอาชีพยุโรป (the PGA ot Europe) โดยโค้ชชาวไอริชกล่าวตอนได้รับรางวัลว่า รอรีย์ ประสบความสำเร็จเพราะมีคนที่ไว้ใจอยู่รอบข้างคอยให้การสนับสนุน และขยันซ้อมพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ขณะที่เขาเองต้องพัฒนาทักษะการเป็นโค้ชเช่นกันเพื่อจะช่วยให้ลูกศิษย์เก่งขึ้น

ช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งสองคนได้ทำงานกันเพื่อปรับปรุงวงสวิงของ แม็คอิลรอย ให้ดีขึ้น ตอนแรกคาดหวังจะวงสวิงค่อยๆลงตัวพอดีทันการแข่งขันรายการเดอะ มาสเตอร์ส กอล์ฟเมเจอร์แรกของปีช่วงต้นเดือนเมษายน ซึ่งปีที่แล้วโปรวัย 22 ปีตกม้าตายวันฟอร์มหลุดวันสุดท้าย แต่ผลงานที่ดีเยี่ยมนับแต่เริ่มต้นฤดูกาล 2012 ซึ่งไม่จบเกิน 5 อันดับแรกตลอดจากการแข่งขัน 4 รายการในปีนี้ รวมถึงการคว้าแชมป์เดอะ ฮอนด้า คลาสสิก จึงน่าสนใจว่าการแข่งขันบนสนามออกัสตา แม็คอิลรอย จะสามารถแก้ตัวใหม่จากความผิดหวังเมื่อปีที่แล้วได้หรือไม่

เรื่องโดย วุฒิวรรณ วิศาลวรรณ์
รอรีย์ แม็คอิลรอย คว้าแชมป์เดอะ ฮอนด้า คลาสสิก พร้อมขึ้นมือ 1 โลก
แม็คอิลรอย เป้าหมายต่อไปแก้ตัวในเดอะ มาสเตอร์ส
อนาคตสดใสรออยู่ข้างหน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น