นักกอล์ฟน้อยคนที่จะไม่รู้จัก ฌอน โฟลีย์ วันนี้เรามากะเทาะเปลือกให้ได้เห็นตัวตนอันแท้จริงของโปรกอล์ฟคนนี้ ว่าเขามีดีอะไรที่ทำให้คนทั่วไปยอมรับในความเป็นสุดยอดครูกอล์ฟโลกของเขา ต่อไปนี้เป็นบางแง่มุมที่ขอนำเสนอเท่าที่โอกาสจะอำนวย
-เมื่อนักกอล์ฟหนุ่มฝีมือจัดจ้าน ริกกี้ ฟาวเลอร์ ถูกตักเตือนซ้ำที่ชาร์ลอตต์ เรื่องใส่หมวกกลับด้าน หลังจากที่ถูกเตือนครั้งแรกที่ออกัสตามาแล้ว เรื่องนี้ฌอนแสดงความไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่า เกมกอล์ฟกำลังต้องการผู้เล่นใหม่ๆ เข้ามาอย่างมาก แต่เมื่อเราทำให้พวกเขาเสียใจเพราะวิธีที่พวกเขาแต่งกาย พวกเขาอาจหันกลับไปแข่งรถวิบากต่อก็ได้ เขาเห็นว่า กอล์ฟไม่อยู่ในฐานะที่จะเป็นผู้ตัดสินเรื่องทำนองนี้
-ฌอนมองว่า เรื่องหนึ่งที่เขาไม่อยากได้ยินนักกอล์ฟบ่นเมื่อจบรอบการเล่นว่า วันนี้ผมดวงไม่ดีเลย หรือวันนี้ไม่ใช่วันของผม เพราะเหมือนจะมีเรื่องของการขาดความรับผิดชอบอยู่ในคำบ่นนั้น จริงอยู่มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะรู้สึกในบางโอกาสว่าตนเป็นผู้เคราะห์ร้าย แต่คุณจะไม่สามารถเล่นกอล์ฟได้ถ้าคุณรู้สึกว่ามีอำนาจที่มองไม่เห็น กำลังคิดอุบายเล่นงานคุณอยู่
-ความผิดใหญ่หลวงที่ฌอนได้กระทำต่อโปรทัวร์ เป็นตราบาปที่เขาไม่เคยลืมคือเมื่อปี 2008 พาร์เคอร์ แมคลาคลิน มาทำหลังจากที่ได้ชัยชนะไม่นานนัก ฌอนคิดว่า กริปมือซ้ายของเขาสตรองเกินไป จึงเสนอให้เปลี่ยนเป็นหลางๆมากขึ้น แลเมื่อพาร์เคอร์ทำตาม มันได้เปลี่ยนวิธีที่เขาพลิกข้อมือปล่อยพลังอย่างถอนรากถอนโคน พาร์เคอร์ตกลงไปสู่ความตกต่ำอย่างถลำลึก และต้องเสียการ์ดทัวร์ของเขาไป ฌอนต้องเสนอให้เขากลับไปจับกริปแบบเก่า มาถึงตอนนี้ฌอนก็ตระหนักว่า “เราสามารถทำให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการได้ด้วยการปรับเปลี่ยนที่แง่มุมอื่นแทนได้
-แปลกที่ความเชื่อในเรื่องตัวตนของฌอนเป็นความเชื่อในแนวเดียวกับพุทธรรม จะเห็นได้จากสองเรื่องหลังนี้
-ฌอน เล่าว่า บางครั้งเขารู้สึกอายที่ได้ตอบโต้คำวิจารณ์ของสื่อมวลชนไป “ผมทำงานหนักตลอดมาเพื่อกลบฝังบุคลิกผู้หนึ่งที่ไม่ไว้ใจใคร ชอบปกป้องตัวเอง และมีความอ่อนไหวมากเกินไป ที่ผมเคยเป็นเมื่ออายุยังน้อย บุคคลผู้นั้นใส่ใจมากเกินไปว่าคนอื่นพูดและคิดอย่างไร ผมถูกครอบโดยสังคม ที่ความสำเร็จนั้นถูกวัดด้วยบ้านหลังงาม และรถยนต์เมอร์เซเคส ผมแคร์มากกับสิ่งต่างๆเหล่านั้น จนถึงจุดที่ผมเกือบจะถูกมันทำให้หายใจไม่ออก ปต่ก็ตระหนักได้ที่ละน้อยว่ามาตรวัดความสำเร็จเหล่านี้ไม่มีเหตุผล ทุกวันนี้ผมทำงานอยู่บนระนาบที่สูงขึ้น แต่เจ้าเด็กนิสัยเสียที่ครั้งหนึ่งผมเคยเป็น เจ้าเด็กอารมณ์อ่อนไหว ผู้แคร์มากเกินไปว่าคนอื่นคิดอย่างไร ก็ยังคงผงกหัวขึ้นมาเมื่อมีคำวิจารณ์ ผมนั้นไม่แคร์แต่เขาแคร์ และพอผมคิดว่าผมฝังกลบเขาได้แล้ว เขาก็มาปรากฏตัวอีก”
-“พ่อบอกผมเสมอว่า” ฌอนเล่า “ให้มีชีวิตในทุกวัน เหมือนกับรู้ว่าจะต้องตายในเย็นวันพรุ่งนี้ มิใช่ตายอย่างเจ็บปวดทรมาน เพียงแต่หยุดการมีตัวตน ผมจะทำอย่างไรดีกับเวลาที่เหลืออยู่? ผมควรจะเป็นกังวลกับการที่นักเขียนบางคน จงใจจะเข่นฆ่าผมไหม? ไม่เลย! ผมจะใช้วันนั้นอยู่กับพ่อแม่ ภรรยา และลูกชายตัวน้อย ผมอาจดื่มเบียร์บ้าง ผมจะอยู่กับสิ่งที่ให้ความสุขแก่ผม”
และนี่คือคัวตนของฌอน โฟลีย์ นักกอล์ฟได้แง่คิดอะไรจากครูกอล์ฟฝรั่งคนนี้บ้างไหมครับ!