ชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาชี้โอกาสที่ประเทศไทยจะได้จัดศึกฟอร์มูลาวันไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน พร้อมทั้งเตรียมเปิดทำเนียบรัฐบาลหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องในวันอังคารที่ 6 มีนาคมนี้
โดย วัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยว่า ชุมพล ศิลปอาชา ได้มีนโยบายและแนวความคิดที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่งชิงแชมป์โลกให้เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี โดยมอบหมายให้ กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นผู้ประสานงานทั้งในส่วนภายในประเทศและต่างประเทศอย่างจริงจังและเร่งด่วน โดยให้รายงานความคืบหน้าถึงผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบในทุกมิติและทุกแง่มุมเป็นระยะ ๆ นั้น
ล่าสุด นายวัชระ ได้กล่าวถึงความคืบหน้าว่า “จากแนวคิดและนโยบายส่งเสริมให้ไทยเป็นเจ้าภาพกีฬาระดับโลกเพื่อยกระดับของประเทศทั้งในส่วนกีฬาและการท่องเที่ยวซึ่งสอดคล้องกันอย่างมากนั้น ในส่วนของกีฬารถสูตรหนึ่งขณะนี้ถือว่ามีความคืบหน้าไปมาก ชนิดที่เรียกว่าพอมองเห็นฝั่งฝันกันเลยทีเดียว โดยล่าสุด นายชุมพล ศิลปอาชา มีนัดหมายที่จะเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องได้เข้ามาพบและหารือในรายละเอียดและแนวทางที่จะเดินหน้าต่อไปในวันอังคารที่ 6 มีนาคมนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล”
“เวลานี้ต้องถือว่าการทำงานของผู้ว่าฯ กนกพันธุ์ มีความคืบหน้าไปมาก โดยในการพบปะครั้งนี้จะมีคีย์แมนคนสำคัญ ๆ ทั้งจากภาคเอกชนซึ่งถือว่าเป็นกำลังหลัก เช่น นายเฉลิม อยู่วิทยา จาก บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด (เรดบูลล์) และผู้บริหาร บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (สิงห์) ตัวแทนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และตัวแทนขององค์กรที่เกี่ยวข้อง อาทิ ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย (ร.ย.ส.ท.) เป็นต้น”
“สำหรับประเด็นหารือจะอยู่ในกรอบของการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เช่น งบประมาณ สถานที่ วันเวลา หรือแม้กระทั่งความพร้อมด้านบุคลากรและการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ จึงต้องถือว่าเป็นก้าวย่างที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ไทยประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพ”
“นี่จะเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยเข้าใกล้ความเป็นจริงมากที่สุด วันนี้เรามีความพร้อมไล่ไปตั้งแต่ระดับนโยบาย คือ นายชุมพล ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เอกชนก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เรามีทีมเรดบูล ซึ่งถือว่าเป็นของคนไทยเราเอง ที่ทางเราก็มีพร้อมและไม่ต้องห่วงว่าเราจะจัดแล้วขาดทุน เพราะใคร ๆ ก็อย่างมาเที่ยวในประเทศไทย เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วง”
“โดยในช่วงปีสองปีแรกนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีแนวคิดที่จะมอบหมายให้การกีฬาแห่งประเทศไทยเริ่มต้นประเดิม “คิกออฟ” เป็นการอุ่นเครื่อง ก่อนการเป็นเจ้าภาพด้วยการจัดให้มีการโชว์หรือการแข่งขันรถยนต์ขึ้นมาก่อน ซึ่งอาจจัดในบริเวณสนามกีฬาหรือบริเวณอื่นๆ ตามความเหมาะสม”
โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังเปิดเผยต่อไปอีกว่าได้รับทราบมาว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แจ้งผ่านมาว่ามีความสนใจและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยในเบื้องต้น “บิ๊กโต้ง” อาจจะเข้าร่วมหารือในวันอังคารนี้ด้วย ซึ่งก็จะทำให้การขับเคลื่อนและแรงสนับสนุนทางนโยบายและงบประมาณน่าจะทำได้ราบรื่นยิ่งกว่าเดิม
โดย วัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยว่า ชุมพล ศิลปอาชา ได้มีนโยบายและแนวความคิดที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่งชิงแชมป์โลกให้เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี โดยมอบหมายให้ กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นผู้ประสานงานทั้งในส่วนภายในประเทศและต่างประเทศอย่างจริงจังและเร่งด่วน โดยให้รายงานความคืบหน้าถึงผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบในทุกมิติและทุกแง่มุมเป็นระยะ ๆ นั้น
ล่าสุด นายวัชระ ได้กล่าวถึงความคืบหน้าว่า “จากแนวคิดและนโยบายส่งเสริมให้ไทยเป็นเจ้าภาพกีฬาระดับโลกเพื่อยกระดับของประเทศทั้งในส่วนกีฬาและการท่องเที่ยวซึ่งสอดคล้องกันอย่างมากนั้น ในส่วนของกีฬารถสูตรหนึ่งขณะนี้ถือว่ามีความคืบหน้าไปมาก ชนิดที่เรียกว่าพอมองเห็นฝั่งฝันกันเลยทีเดียว โดยล่าสุด นายชุมพล ศิลปอาชา มีนัดหมายที่จะเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องได้เข้ามาพบและหารือในรายละเอียดและแนวทางที่จะเดินหน้าต่อไปในวันอังคารที่ 6 มีนาคมนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล”
“เวลานี้ต้องถือว่าการทำงานของผู้ว่าฯ กนกพันธุ์ มีความคืบหน้าไปมาก โดยในการพบปะครั้งนี้จะมีคีย์แมนคนสำคัญ ๆ ทั้งจากภาคเอกชนซึ่งถือว่าเป็นกำลังหลัก เช่น นายเฉลิม อยู่วิทยา จาก บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด (เรดบูลล์) และผู้บริหาร บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (สิงห์) ตัวแทนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และตัวแทนขององค์กรที่เกี่ยวข้อง อาทิ ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย (ร.ย.ส.ท.) เป็นต้น”
“สำหรับประเด็นหารือจะอยู่ในกรอบของการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เช่น งบประมาณ สถานที่ วันเวลา หรือแม้กระทั่งความพร้อมด้านบุคลากรและการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ จึงต้องถือว่าเป็นก้าวย่างที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ไทยประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพ”
“นี่จะเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยเข้าใกล้ความเป็นจริงมากที่สุด วันนี้เรามีความพร้อมไล่ไปตั้งแต่ระดับนโยบาย คือ นายชุมพล ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เอกชนก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เรามีทีมเรดบูล ซึ่งถือว่าเป็นของคนไทยเราเอง ที่ทางเราก็มีพร้อมและไม่ต้องห่วงว่าเราจะจัดแล้วขาดทุน เพราะใคร ๆ ก็อย่างมาเที่ยวในประเทศไทย เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วง”
“โดยในช่วงปีสองปีแรกนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีแนวคิดที่จะมอบหมายให้การกีฬาแห่งประเทศไทยเริ่มต้นประเดิม “คิกออฟ” เป็นการอุ่นเครื่อง ก่อนการเป็นเจ้าภาพด้วยการจัดให้มีการโชว์หรือการแข่งขันรถยนต์ขึ้นมาก่อน ซึ่งอาจจัดในบริเวณสนามกีฬาหรือบริเวณอื่นๆ ตามความเหมาะสม”
โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังเปิดเผยต่อไปอีกว่าได้รับทราบมาว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แจ้งผ่านมาว่ามีความสนใจและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยในเบื้องต้น “บิ๊กโต้ง” อาจจะเข้าร่วมหารือในวันอังคารนี้ด้วย ซึ่งก็จะทำให้การขับเคลื่อนและแรงสนับสนุนทางนโยบายและงบประมาณน่าจะทำได้ราบรื่นยิ่งกว่าเดิม