“กระต่ายแก้ว” บางกอกกลาส เอฟซี และหลายทีมในไทยลีกพร้อมล่ารายชื่อสนับสนุนให้สโมสร วัวชน ยูไนเต็ด ทีมน้องใหม่ในศึกสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก ใช้สนามเหย้าที่จังหวัดสงขลาได้ หลังจากทางสมาคมและบริษัทไทย พรีเมียร์ลีก ไม่อนุมัติข้อเรียกร้อง
เป็นที่ฮือฮาและเรียกเสียงปรบมือได้อย่างเกรียวกราวในงาน Thai Football Professional Expo Experience 2012 ที่จัดขึ้น ณ ลานเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากที่ “ขาวผ่อง” ทวี อัมพรมหา เลขานุการทีมพลังเอ็ม โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี กล่าวถึงเป้าหมายของทีมในฤดูกาลที่จะถึงนี้ โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า “เรียนท่านนายกสมาคมและบ.ไทย พรีเมียร์ลีก ถ้าเป็นไปได้ ปีนี้ผมขอไปเยือนบุรีรัมย์แค่ครั้งเดียวพอ ไม่อยากไปเยือนถึง2 ครั้ง ขอไปเล่นที่สงขลาแทนดีกว่า” ซึ่งคำพูดดังกล่าวมีความหมายถึง ทีมวัวชน ยูไนเต็ด ที่ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยและบริษัทไทย พรีเมียร์ลีก ไม่อนุญาตให้ทีมย้ายไปใช้สนามเหย้าที่จังหวัดสงขลาในการแข่งขันศึกฟุตบอล สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่จะถึงนี้ ตามที่นายนิพนธ์ บุญญามณี ประธานสโมสร เรียกร้องได้
ผู้สื่อข่าว MGR Sport จึงไปสอบถามกับนายนิพนธ์ ถึงกรณีดังกล่าวได้ความว่า “ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณพี่ขาวผ่อง ที่ช่วยพูดและแสดงความเห็นในเรื่องของสนามเหย้าของทีมวัวชน ยูไนเต็ด ตอนอยู่บนเวที ที่จริงก่อนขึ้นเวทีผมก็ได้มีการพูดคุยกับประธานสโมสรของหลายๆทีมในไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งหลายทีมก็สนับสนุนและเห็นด้วยที่จะให้วัวชน ยูไนเต็ด ใช้สนามที่สงขลาเป็นสนามเหย้าในปีที่จะถึงนี้ โดยเฉพาะทางฝั่งทีมบางกอกกลาส เอฟซี ซึ่งเสนอตัวจัดการเรื่องหนังสือและเอกสารลงนามล่ารายชื่อเพื่อยื่นต่อทางทีพีแอลด้วยตนเอง”
“ซึ่งผมก็ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างสูง แต่ถึงยังไงผมก็ยังเกรงใจท่าน ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทย พรีเมียร์ลีกอยู่ จึงยังไม่อยากที่จะดำเนินการดังกล่าว แต่อยากให้ท่านได้นำเรื่องนี้ไปพิจารณาอีกที ซึ่งถ้าวัวชน ยูไนเต็ด ได้เล่นที่สงขลาจริง จะถือเป็นผลดีต่อภาพรวมเป็นอย่างมาก เพราะแฟนบอลที่จะเข้ามาชมในแต่ละแมทช์มีมากถึง 15,000 คนแน่นอน ซึ่งจะส่งผลถึงการพิจารณาคัดเลือกทีมเข้าไปเล่นเอเอฟซี แชมเปียนลีก ของทางเอเอฟซี ที่วัดจากจำนวนคนดู อาจทำให้ประเทศไทยได้โควต้าส่งทีมเพิ่มขึ้น” นายนิพนธ์ร่ายยาว
“ถ้าเป็นไปได้เราอยากจะใช้สนามติณสูลานนท์เป็นสนามเหย้า ซึ่งตอนนี้เรากำลังทำการฟื้นฟูอยู่ คาดว่าน่าจะเสร็จภายในวันที่ 1 เม.ย.นี้ แต่อาจจะไม่ทันลีกเปิด จึงได้มองแผนสำรองไว้ที่สนามจิระนครแทน ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะเป็นตามแผน แต่ถ้าทางสมาคมไม่อนุมัติจริงๆก็คงต้องใช้สนาม ไอ-โมบายเก่า ไปก่อน ซึ่งตอนนี้ก็กำลังปรับปรุงในเรื่องของลู่วิ่ง ไม่รู้ว่าจะเป็นปัญหาอะไรรึเปล่า” ประธานสโมสรแดนใต้เปิดเผย
เป็นที่ฮือฮาและเรียกเสียงปรบมือได้อย่างเกรียวกราวในงาน Thai Football Professional Expo Experience 2012 ที่จัดขึ้น ณ ลานเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากที่ “ขาวผ่อง” ทวี อัมพรมหา เลขานุการทีมพลังเอ็ม โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี กล่าวถึงเป้าหมายของทีมในฤดูกาลที่จะถึงนี้ โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า “เรียนท่านนายกสมาคมและบ.ไทย พรีเมียร์ลีก ถ้าเป็นไปได้ ปีนี้ผมขอไปเยือนบุรีรัมย์แค่ครั้งเดียวพอ ไม่อยากไปเยือนถึง2 ครั้ง ขอไปเล่นที่สงขลาแทนดีกว่า” ซึ่งคำพูดดังกล่าวมีความหมายถึง ทีมวัวชน ยูไนเต็ด ที่ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยและบริษัทไทย พรีเมียร์ลีก ไม่อนุญาตให้ทีมย้ายไปใช้สนามเหย้าที่จังหวัดสงขลาในการแข่งขันศึกฟุตบอล สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่จะถึงนี้ ตามที่นายนิพนธ์ บุญญามณี ประธานสโมสร เรียกร้องได้
ผู้สื่อข่าว MGR Sport จึงไปสอบถามกับนายนิพนธ์ ถึงกรณีดังกล่าวได้ความว่า “ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณพี่ขาวผ่อง ที่ช่วยพูดและแสดงความเห็นในเรื่องของสนามเหย้าของทีมวัวชน ยูไนเต็ด ตอนอยู่บนเวที ที่จริงก่อนขึ้นเวทีผมก็ได้มีการพูดคุยกับประธานสโมสรของหลายๆทีมในไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งหลายทีมก็สนับสนุนและเห็นด้วยที่จะให้วัวชน ยูไนเต็ด ใช้สนามที่สงขลาเป็นสนามเหย้าในปีที่จะถึงนี้ โดยเฉพาะทางฝั่งทีมบางกอกกลาส เอฟซี ซึ่งเสนอตัวจัดการเรื่องหนังสือและเอกสารลงนามล่ารายชื่อเพื่อยื่นต่อทางทีพีแอลด้วยตนเอง”
“ซึ่งผมก็ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างสูง แต่ถึงยังไงผมก็ยังเกรงใจท่าน ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทย พรีเมียร์ลีกอยู่ จึงยังไม่อยากที่จะดำเนินการดังกล่าว แต่อยากให้ท่านได้นำเรื่องนี้ไปพิจารณาอีกที ซึ่งถ้าวัวชน ยูไนเต็ด ได้เล่นที่สงขลาจริง จะถือเป็นผลดีต่อภาพรวมเป็นอย่างมาก เพราะแฟนบอลที่จะเข้ามาชมในแต่ละแมทช์มีมากถึง 15,000 คนแน่นอน ซึ่งจะส่งผลถึงการพิจารณาคัดเลือกทีมเข้าไปเล่นเอเอฟซี แชมเปียนลีก ของทางเอเอฟซี ที่วัดจากจำนวนคนดู อาจทำให้ประเทศไทยได้โควต้าส่งทีมเพิ่มขึ้น” นายนิพนธ์ร่ายยาว
“ถ้าเป็นไปได้เราอยากจะใช้สนามติณสูลานนท์เป็นสนามเหย้า ซึ่งตอนนี้เรากำลังทำการฟื้นฟูอยู่ คาดว่าน่าจะเสร็จภายในวันที่ 1 เม.ย.นี้ แต่อาจจะไม่ทันลีกเปิด จึงได้มองแผนสำรองไว้ที่สนามจิระนครแทน ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะเป็นตามแผน แต่ถ้าทางสมาคมไม่อนุมัติจริงๆก็คงต้องใช้สนาม ไอ-โมบายเก่า ไปก่อน ซึ่งตอนนี้ก็กำลังปรับปรุงในเรื่องของลู่วิ่ง ไม่รู้ว่าจะเป็นปัญหาอะไรรึเปล่า” ประธานสโมสรแดนใต้เปิดเผย