ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผอ.ศูนย์สุขภาพจิตที่ 15 ชี้ จนท.สาธารณสุขปัตตานีขวัญหนี หวั่นกระทบคุณภาพชีวิตประชาชน สส.เผยโยงคดี 4 ศพ และยาเสพติด ขณะ “นิพนธ์” เตือนรัฐบาลอย่าสร้างเงื่อนไขใหม่ในชายแดนภาคใต้ ส่งสัญญาณเตือนความรุนแรง
วันนี้ (11 ก.พ.) พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 15 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ระเบิดที่หน้าสำนักงานสาธารณสุข จ.ปัตตานี ขณะนี้ยังหาคำตอบว่าทำไมต้องคาร์บอมบ์ที่หน้าสำนักงานสาธารณสุข ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นเป้าของความรุนแรง เป็นหน่วยงานที่ประชาชนไว้วางใจ ทำให้ขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกระดับลดลง ต้องมีการระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะจะเป็นใครก็ตามอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้คือเป้าของความรุนแรงทั้งหมด
“เมื่อขวัญและกำลังใจสาธารณสุขลดลง เกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินเพิ่มขึ้น จะไม่กล้าออกบริการประชาชนในหมู่บ้าน สุดท้ายผลเสียจะตกแก่ประชาชนในชนบท ทั้งทางตรงและทางอ้อม สุดท้ายคุณภาพชีวิตประชาชนต่ำลง โรคภัยไข้เจ็บมีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น” พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา กล่าว
นายพีรยศ ราฮิมมูลา สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า เป้าหมายของกลุ่มก่อความรุนแรงไม่ได้อยู่ที่สำนักงานสาธารณสุข แต่เมื่อไม่สามารถเข้าไปวางพื้นที่เป้าหมายได้ต้องหาที่ตรงไหนก็ได้ เมื่อมีโอกาสและจังหวะก่อความรุนแรงขึ้น จะโยงกับขบวนการค้ายาเสพติดที่เจ้าหน้าที่จับกุมอดีตกำนันและพวกและคดี 4 ศพที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานีด้วย สถานการณ์แนวโน้มเพิ่มขึ้น
ขณะที่ นายนิพนธ์ บุญญามณี สส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า เหตุการณ์ชายแดนภาคใต้ส่งสัญญาณแนวโน้มรุนแรงขึ้น จากเหตุการณ์คาร์บอมบ์หน้าสำนักงานสาธารณสุข จ.ปัตตานี จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเกือบ 10 คน ขอให้รัฐบาลอย่าสร้างเงื่อนใหม่ให้เกิดขึ้นแล้ว เงื่อนไขเก่าพยายามสะสางให้เสร็จรวดเร็ว โดยเฉพาะคดีเจ้าหน้าที่รัฐยิง 4 ศพ และบาดเจ็บ 4 คนที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำจากเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องตรงไปตรงมาและเป็นธรรม หากปล่อยไว้เนินนาน จะเข้าทางฝ่ายตรงกันข้ามทันที
นายเจ๊ะอาหมิง โต๊ะตาหยง สส.นราธิวาส พรรค ปชป.เปิดเผยว่า เหตุรุนแรงในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ จะเกิดขึ้นทุกเวลาเมื่อมีช่องว่างและโอกาส แต่จะเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตราบใดที่รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนในนโยบาย
วันนี้ (11 ก.พ.) พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 15 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ระเบิดที่หน้าสำนักงานสาธารณสุข จ.ปัตตานี ขณะนี้ยังหาคำตอบว่าทำไมต้องคาร์บอมบ์ที่หน้าสำนักงานสาธารณสุข ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นเป้าของความรุนแรง เป็นหน่วยงานที่ประชาชนไว้วางใจ ทำให้ขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกระดับลดลง ต้องมีการระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะจะเป็นใครก็ตามอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้คือเป้าของความรุนแรงทั้งหมด
“เมื่อขวัญและกำลังใจสาธารณสุขลดลง เกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินเพิ่มขึ้น จะไม่กล้าออกบริการประชาชนในหมู่บ้าน สุดท้ายผลเสียจะตกแก่ประชาชนในชนบท ทั้งทางตรงและทางอ้อม สุดท้ายคุณภาพชีวิตประชาชนต่ำลง โรคภัยไข้เจ็บมีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น” พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา กล่าว
นายพีรยศ ราฮิมมูลา สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า เป้าหมายของกลุ่มก่อความรุนแรงไม่ได้อยู่ที่สำนักงานสาธารณสุข แต่เมื่อไม่สามารถเข้าไปวางพื้นที่เป้าหมายได้ต้องหาที่ตรงไหนก็ได้ เมื่อมีโอกาสและจังหวะก่อความรุนแรงขึ้น จะโยงกับขบวนการค้ายาเสพติดที่เจ้าหน้าที่จับกุมอดีตกำนันและพวกและคดี 4 ศพที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานีด้วย สถานการณ์แนวโน้มเพิ่มขึ้น
ขณะที่ นายนิพนธ์ บุญญามณี สส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า เหตุการณ์ชายแดนภาคใต้ส่งสัญญาณแนวโน้มรุนแรงขึ้น จากเหตุการณ์คาร์บอมบ์หน้าสำนักงานสาธารณสุข จ.ปัตตานี จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเกือบ 10 คน ขอให้รัฐบาลอย่าสร้างเงื่อนใหม่ให้เกิดขึ้นแล้ว เงื่อนไขเก่าพยายามสะสางให้เสร็จรวดเร็ว โดยเฉพาะคดีเจ้าหน้าที่รัฐยิง 4 ศพ และบาดเจ็บ 4 คนที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำจากเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องตรงไปตรงมาและเป็นธรรม หากปล่อยไว้เนินนาน จะเข้าทางฝ่ายตรงกันข้ามทันที
นายเจ๊ะอาหมิง โต๊ะตาหยง สส.นราธิวาส พรรค ปชป.เปิดเผยว่า เหตุรุนแรงในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ จะเกิดขึ้นทุกเวลาเมื่อมีช่องว่างและโอกาส แต่จะเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตราบใดที่รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนในนโยบาย