กลุ่มวัวชนบางกอก เดินทางเข้าพบ องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับสโมสรสงขลา เอฟซี ที่ถูกตัดสินไม่ให้ขึ้นชั้นไปเล่นไทยพรีเมียร์ลีก จี้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ตอบคำถาม 7 ข้อ
ภายหลังที่สงขลา เอฟซี ถูกตัดสินจากสภากรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ไม่ให้ขึ้นชั้นมาเล่นในศึกไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012 แม้ว่าจะซื้อหุ้น 100 เปอร์เซ็นต์ จาก บุรีรัมย์ เอฟซี ที่ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นไปเล่นลีกสูงสุดแต่ว่ามีการรวมทีมกับบุรีรัมย์ พีอีเอ จึงทำให้ นายนิพนธ์ บุญญามณี ประธานสโมสรสงขลา เอฟซี ได้ยื่นยื่นหนังสืออุทธรณ์เพื่อเรียกร้องสิทธิ์ในการเล่นลีกสูงสุดแทนบุรีรัมย์ เอฟซี
ล่าสุด แฟนบอล "วัวชนแดนใต้" ที่นำมาโดย "ต๋อง เชียร์ไทย" นายชัยวัฒน์ แก้วผลึก รองประธานชมรมเชียร์ไทย และเป็นหัวหน้ากลุ่ม "วัวชนบางกอก" (กลุ่มแฟนบอลสงขลา เอฟซี ที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล) ได้เดินทางไปยังสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่อยื่นหนังสือแถลงการณ์ต่อสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยมี "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ วินฟรีด เชเฟอร์ โค้ชทีมชาติไทย เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือแถลงการณ์จากกลุ่ม "วัวชนบางกอก" ส่วนใจความสำคัญของหนังสือแถลงการณ์มีดังนี้
"บุรีรัมย์ เอฟซี ซี่งเป็นผู้ได้สิทธิ์เล่นฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012 และเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า บริษัทสโมสรฟุตบอลสงขลา เอฟซี ได้ถือหุ้นดังกล่าว 100 เปอร์เซ็นต์ และถือว่าเป็นผู้บริหารสโมสร และตามหลักประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์สามารถเปลี่ยนแปลงที่อยู่หรือภูมิลำเนาตลอดจนผู้ถือหุ้นได้ นี่คือสาเหตุที่กฎของบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก บังคับให้ทุกทีมที่จะเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ซี่งต่างจากลีกภูมิภาคที่จัดโดยสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ไม่ได้กำหนดให้เป็นนิติบุคคล"
"เมื่อบุรีรัมย์ เอฟซี เล่นในดิวิชั่น 1 หรือไทยพรีเมียร์ลีกก็ต้องใช้กฎกติการของบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ไม่ใช้กฎกติกาของลีกภูมิภาค ซึ่งเป็นคนละลีกกัน ดังนั้นสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯใช้กติกาอันใดที่ไม่ให้บุรีรัมย์ เอฟซี แต่บริหารงานโดยสงขลา เอฟซี ย้ายไปใช้สนามเหย้าที่จังหวัดสงขลา"
พร้อมกันนี้ในหนังสือแถลงการณ์ของกลุ่ม "วัวชนบางกอก" ยังได้ขอให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ตอบคำถาม 7 ข้อ พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลให้ชัดเจน ดังนี้
1.เหตุใดที่สโมสรบุรีรัมย์ เอฟซี จึงไม่สามารถย้ายไปใช้สนามเหย้าที่จังหวัดสงขลาได้ แต่ในขณะที่สโมสรอื่นสามารถทำเรื่องย้ายไปใช้สนามในจังหวัดอื่นได้
2.ทำไมจึงนำกฎของฟุตบอลลีกภูมิภาคมาใช้กับฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก
3.บริษัทไทยพรีเมียร์ลีกกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คนละนิติบุคคลกันใช่หรือไม่
4.ฟุตบอลลีกภูมิภาคใช้กฎของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯใช่หรือไม่
5.ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกใช้กฎของบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกใช่หรือไม่
6.ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกบังคับให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่ฟุตบอลลีกภูมิภาคไม่ได้บังคับให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใช่หรือไม่
7.สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯต้องมีการใช้มาตรฐานเดียว อย่าใช้ 2 มาตรฐานในการตัดสิน
ด้าน "บิ๊กเปี๊ยก" ซึ่งเป็นตัวแทนฟังคำชี้แจงและรับหนังสือแถลงการณ์จากกลุ่ม "วัวชนบางกอก" ตอบอย่างชัดเจนว่า "ในเรื่องดังกล่าวนี้จะยื่นเรื่องไปเข้าประชุมสภากรรมการ และจะมีการตอบคำถามทั้ง 7 ข้อ ตามที่แฟนบอลสงขลาได้เรียกร้องมา"
อนึ่ง "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพิ่งออกมาเปิดเผยว่าเตรียมนัดนายเนวิน ชิดชอบ เจ้าของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ นิพนธ์ บุญญามณี ประธานสโมสรสงขลา เอฟซี เข้าหารือถึงกรณีการโอนสิทธิ์ทำทีมเพื่อสู้ศึกสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2012 ภายในสัปดาห์นี้