xs
xsm
sm
md
lg

TPL เด็ดขาดไม่ให้สิทธิ์สงขลา-นครปฐมยังโทษยาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บรรยากาศในการประชุม
บ.ไทยพรีเมียร์ลีก และ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ตัดสินไม่ให้สิทธิ์ทีม "วัวชนแดนใต้" สงขลา เอฟซี เลื่อนชั้นสู่ไทยฯ ลีก ย้ำต้องทำตามกฎ ฝั่ง "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม เอฟซี อุทธรณ์ไม่ผ่าน ยังคงโทษแบนต่อไป ศรีสะเกษ เมืองไทยฯ เตรียมย้ายถิ่นไปอุบลฯ พร้อมเปลี่ยนชื่อทีม

วันที่ 27 มกราคม 2555 ณ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เวลาประมาณ 10.30 น. บ.ไทยพรีเมียร์ลีก และสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ร่วมกันประชุมหัวข้อ สิทธิ์ทีมที่จะได้เข้าเล่นในศึก "สปอนเซอร์ไทย พรีเมียร์ลีก 2012" รวมทั้งข้อพิพาทต่างๆที่เกิดขึ้น โดยแบ่งเป็น 4 หัวข้อสำคัญดังนี้ 1.สโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โอนหุ้นและสิทธิ์ ให้กับ บริษัทสโมสรบุรีรัมย์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำกัด 2. บริษัท บุรีรัมย์ เอฟซี โอนหุ้นและสิทธิ์ ให้กับทีม สงขลา เอฟซี 3. การพิจารณาบทลงโทษสโมสรนครปฐม เอฟซี 4. สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษจำกัด ขอย้ายสนามเหย้า

หลังจากปิดห้องประชุมเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง บ.ไทยพรีเมียร์ลีก และ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย นำโดย 'บังยี' วรวีร์ มะกูดี (นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย) , ดร.วิชิต แย้ม บุญเรือง (ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก) , "บิ๊กเปี๊ยก' องอาจ ก่อสินค้า (เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย) , วิจิตร เกตุแก้ว (สภานายกกิตติมศักดิ์) , วิมล กาญจนะ (อุปนายกสมาคม) , วีระ คำมี (ประธานฝ่ายกฎหมายของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย) ร่วมกันแถลงข่าวถึงข้อสรุป ของการประชุม

นายวีระ คำมี ประธานฝ่ายกฎหมายของสมาคมฟุตบอลฯ ออกมาแถลงเรื่องสิทธิในการโอนหุ้นและสิทธ์ ของ 3 ทีมปัญหา บุรีรัมย์ พีอีเอ , บุรีรัมย์ เอฟซี , และสงขลา เอฟซี ว่า "ในส่วนของบุรีรัมย์ พีอีเอ ที่จะขอโอน สิทธิ์ และเปลี่ยนชื่อทีม จากทาง สโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนั้น ไม่มีปัญหาอะไร สามารถทำได้ แต่จำเป็นต้องมีหนังสือยินยอมจากทาง "องค์กรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค"ก่อน ซึ่งตอนนี้ยังไม่มี ถึงแม้ทางสโมสรการไฟฟ้าฯจะยินยอมแล้วก็ตาม "

ทางด้านของ บุรีรัมย์ เอฟซี และ สงขลา เอฟซี นั้น นายวีระ กล่าวว่า "สิทธิในการเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในไทยฯลีกของ สงขลา เอฟซี ในฤดูกาลหน้านั้นไม่สามารถทำได้ เนื่องจากสิทธิ์ดังกล่าวเป็นของ บุรีรัมย์ เอฟซี ซึ่งเป็นทีมในลีกภูมิภาค ไม่สามารถโยกย้ายถิ่นฐานไปเล่นที่อื่น หรือเปลี่ยนชื่อทีมได้ นอกจากว่าทางสงขลา เอฟซี จะซื้อหุ้นจากทาง บุรีรัมย์ เอฟซี ทั้งหมดแล้วเข้ามาทำทีมแทน แต่ชื่อทีมยังคงต้องเป็น บุรีรัมย์ เอฟซี และ ต้องเล่นในจังหวัด บุรีรัมย์ เท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นอื่นได้" ซึ่งข้อสรุปดังกล่าวทำให้พื้นที่ว่างในการขึ้นชั้นไปเล่นในศึกไทยพรีเมียร์ ลีก ที่เหลืออีก 1 ทีม อาจตกเป็นของ "ปตท. ระยอง" ทีมที่ได้อันดับ 4 ในศึกดิวิชัน 1 แทน หาก "ลาวาเพลิง" ยังหาคนมาทำทีมต่อไม่ได้

ส่วนกรณี สโมสร ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ที่จะขอย้ายสนามเหย้าของตัวเองไปเล่นที่จังหวัด อุบลราชธานี พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อทีมเป็น อีสาน ยูไนเต็ด นั้น "บิ๊กเปี๊ยก' องอาจ ก่อสินค้า กล่าวว่า "สามารถทำได้เนื่องจากเป็นทีมในนามบริษัท ไม่ใช่ทีมภูมิภาค แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องให้ทาง บ.ไทยพรีเมียร์ ลีก เข้าไปตรวจสอบก่อนอยู่ดีว่าสนามที่จะใช้นั้นผ่านมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องทำให้เสร็จก่อนวันที่ 15 ก.พ. นี้"

ทางฝั่ง "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม เอฟซี อดีตทีมในดิวิชัน 1 ที่ยื่นอุทธรณ์ขอลดหย่อนโทษให้เหลือ 1 ปี หลังโดนแบนตัดสิทธิ์ห้ามส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันของทางสมาคมฯทุกรายการ เป็นเวลา 2 ปี จากเหตุการณ์การวุ่นวายในศึกเพลย์ออฟหาทีมเลื่อนชั้นขึ้นไทยพรีเมียร์ ลีก นัดที่พบกับ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี เมื่อวันเสาร์ที่ 25 ธ.ค. 2553 นั้น ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยังคงบทลงโทษตามเดิม ไม่มีการลดหย่อน อีกทั้ง "หมูป่าเขี้ยวตัน" ยังค้างค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 150,000 บาท จากเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่อีกด้วย





กำลังโหลดความคิดเห็น