คอลัมน์ "Final Quarter" โดย "ลุงแซม"
นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปีที่ผู้เขียนไม่ได้รับชม "ซูเปอร์โบว์ล" เหตุจากมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของผู้รับสัมปะทานถ่ายทอดสด อย่างที่ทราบกันว่า "จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่" มือไวฮุบเอาลิทธิสิทธิ์อเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) มาจาก "ทรูวิชันส์"
ดูเหมือนสงครามชิงตลาดเคเบิลทีวีในไทยคงร้อนระอุต่อไป เมื่อมีกระแสข่าว "อากู๋" ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม บิ๊กบอสแกรมมี่เปิดคลังทุ่มไม่อั้นเพื่อชิงฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาถ่ายทอดสดผ่านทาง "จีเอ็มเอ็ม สปอร์ต" (GMM Sport) ให้จงได้ เมื่อการแข่งขันก่อเกิด ผู้บริโภคอย่างเราย่อมได้ประโยชน์ คงต้องเลือกว่าค่ายใดตอบโจทย์สนองความต้องการได้มากที่สุด แต่ทั้งนี้มีเสียงจากแฟนๆ ในเว็บบอร์ดของ MGR Sport เรียกร้องให้ช่อง 3 นำเอาความมันในศึกคนชนคนคืนสู่ฟรีทีวี อย่างที่แฟนๆ เคยได้สัมผัสความสุขในรสชาดกีฬาอาชีพที่ได้รับความนิยมสูงสุดของสหรัฐอเมริกาเมื่อหลายปีก่อน งานนี้คงต้องขึ้นอยู่กับเหล่าผู้บริหารก็ว่ากันไป
มาถึงเรื่องที่จะเล่าสู่กันฟังในวันนี้คงหนีไม่พ้น ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 46 เมื่อ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ตอกแค้นใส่ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ 21-17 หลังจากเมื่อสี่ปีก่อน อีลาย แมนนิง เล่นงาน ทอม เบรดี และพลพรรคอย่างเจ็บแสบ จากการได้ชมคลิปวิดีโอหรือไฮไลท์การแข่งขันจากหลายแหล่ง ถือเป็นหนังม้วนเดิมที่ผู้เขียนอยากเก็บไว้ในอ้อมใจ เป็นศึกที่สลับกันรุก-รับสมศักดิ์ศรีคู่ชิงแชมป์ประเทศ ขับเคี่ยวกันเต็มสูบทุกขุมกำลัง น่าเสียดายที่ "แพทส์แมน" ดันมาเจอปัญหา ร็อบ กรอนคาวสกี ปีกในตัวเก่งไม่ฟิตเต็มร้อย (เจ็บข้อเท้าซ้าย) ถึงลงสนามได้ทว่าศักยภาพไม่ถูกปลดปล่อยมาทั้งหมด
จึงไม่น่าแปลกใจที่เราได้เห็นเกมบุก แพทริออตส์ ติดขัดอยู่บ้าง เกมนี้เป้าของ ทอม เบรดี ต้องคีย์ไปที่ เวส เวลเกอร์ ปีกนอกตัวจี๊ด แอรอน เฮอร์นานเดซ ปีกในที่ขึ้นมารับบทบาทสำคัญ โดยมี แดนนี วูดเฮด รันนิงแบ็กสาระพัดประโยชน์เป็นอ๊อปชันรับบอลระยะสั้น งานนี้เลยเข้าทาง ไจแอนท์ส ที่กางโซนตั้งรับกันอย่างเหนียวแน่น อีกทั้งผู้เขียนต้องยกเครดิตให้หัวจิตหัวใจและความเชื่อที่แฝงอยู่ในกายขุนพล "ยักษ์ใหญ่" ขณะที่ทิศทางของเกมทำท่าเอนเอียงเข้าหา แพทริออตส์ จากจังหวะ เฮอร์นานเดซ รับทัชดาวน์ช่วยต้นสังกัดพลิกนำ 17-9
แต่เมื่อเข้าสู่ควอเตอร์ 4 ภาพความทรงจำร้ายๆ ค่อยๆ คืบคลานหา "แพทส์แมน" ซึ่ง อีลาย แสดงให้เห็นว่าเขาคู่ควรแก่การยกย่องมากเพียงใด โดยเฉพาะการปั้นไดรฟ์ 88 หลา บิ๊กเพลย์เกิดขึ้นจังหวะยอดควอเตอร์แบ็กขว้างบอล 38 หลาเข้ามือ มาริโอ แมนนิงแฮม ทั้งที่มี สเตอร์ลิง มัวร์ และ แพทริค ชุง ประกบติดขนาดนั้น นี่ถือเป็น "The Catch" เวอร์ชั่น 2 ต่อจากครั้ง เดวิด ทายรี ใช้หมวกกันน็อคช่วยรับบอลในซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 42 ต่อยอดทำระยะก่อนที่ แมนนิงผู้น้อง ขว้างทัชดาวน์ 13 หลาเข้ามือ แพล็กซิโก เบอร์เรสส์ ก่อนหมดเวลาแค่ 35 วินาที
ซึ่งการเอื้อมไปคว้าบอลพร้อมขาคู่ที่ปักอยู่ริมเส้นในแดนคู่แข่งของ แมนนิงแฮม 8 เพลย์ให้หลัง อีลาย ก็ยัดบอลเข้ามือ อาหมัด แบรดชอว์ หลุดเข้าเอ็นด์โซนทั้งที่ใจอยากหยุดกายไว้บริเวณเส้น 1 หลา เพลย์ดังกล่าวถ้าสังเกตให้ดี บิลล์ บีลิชิก เฮดโค้ชจอมเจ้าเล่ห์ที่ดูแลทีมรับด้วยตนเอง สั่งลูกทีมเปิดทางให้ ไจแอนท์ส ทำแต้มโดยสะดวก เพื่อที่จะได้บอลกลับมาอยู่ในมือ เบรดี เร็วที่สุด เผื่อมีเวลาพลิกสถานการณ์ จังหวะนั้น อีลาย รู้แกวพยายามตะโกนให้รันนิงแบ็กคู่ใจทิ้งตัวกับพื้นแต่โมเมนตัมหลุดเข้าเขตทำคะแนนเสียก่อน จึงเหลือ 57 วินาที ต่อลมหายใจให้ "นักรบกู้ชาติ"
แม้สุดท้าย เบรดี สร้างปาฏิหาริย์ไม่สำเร็จ แต่เราได้เห็นความพยายามเฮือกสุดท้ายขว้างเฮลแมรีจากเส้น 49 หลาแดนตัวเองไปลุ้นในเอ็นด์โซน น่าเสียดายที่จุดนั้นมีเพียง เฮอร์นานเดซ อยู่ในวงล้อม ดีออน แกรนท์, ฌัคแควง วิลเลียมส์ และเคนนี ฟิลลิปส์ บอลจึงกระฉอกหล่นพื้นต่อหน้า กรอนคาวสกี ถ้าสภาพร่างกายสมบูรณ์ ส่วนสูง 6 ฟุต 6 นิ้ว คงช่วยให้ แพทริออตส์ มีลุ้นกว่านี้ ไม่ต้องพ่าย ไจแอนท์ส เป็นหนที่สามติดต่อกัน
เมื่อเสร็จศึกด้วยความปราชัย บีลิชิก, เบรดี และเหล่าแพทส์แมน มีเวลาเลียแผลใจก่อนกลับมาฮึดสู้อีกครั้งในซีซันใหม่ เบรดี ยังมีแววซิวแหวนแชมป์วงที่ 4 เทียบตำนาน เทอร์รี แบรดชอว์ (พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส) และโจ มอนทานา (ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส) ฮีโร่วัยเด็ก เมื่อยังหาคู่แข่งในสายเอเอฟซี (AFC) มาต่อกรด้วยยาก ส่วน ไจแอนท์ส พอฉลองชัยกันเสร็จ คอฟลิน ในวัย 65 ปี มีภารกิจสำคัญในการพาทีมไปปักธงในซูเปอร์โดม ที่นิวออร์ลีนส์ ป้องแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 47 โดยมีบทเรียนการตกรอบดิวิชันนัล เพลย์ออฟ ฤดูกาล 2008/09 เป็นเครื่องเตือนใจ
นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปีที่ผู้เขียนไม่ได้รับชม "ซูเปอร์โบว์ล" เหตุจากมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของผู้รับสัมปะทานถ่ายทอดสด อย่างที่ทราบกันว่า "จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่" มือไวฮุบเอาลิทธิสิทธิ์อเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) มาจาก "ทรูวิชันส์"
ดูเหมือนสงครามชิงตลาดเคเบิลทีวีในไทยคงร้อนระอุต่อไป เมื่อมีกระแสข่าว "อากู๋" ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม บิ๊กบอสแกรมมี่เปิดคลังทุ่มไม่อั้นเพื่อชิงฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาถ่ายทอดสดผ่านทาง "จีเอ็มเอ็ม สปอร์ต" (GMM Sport) ให้จงได้ เมื่อการแข่งขันก่อเกิด ผู้บริโภคอย่างเราย่อมได้ประโยชน์ คงต้องเลือกว่าค่ายใดตอบโจทย์สนองความต้องการได้มากที่สุด แต่ทั้งนี้มีเสียงจากแฟนๆ ในเว็บบอร์ดของ MGR Sport เรียกร้องให้ช่อง 3 นำเอาความมันในศึกคนชนคนคืนสู่ฟรีทีวี อย่างที่แฟนๆ เคยได้สัมผัสความสุขในรสชาดกีฬาอาชีพที่ได้รับความนิยมสูงสุดของสหรัฐอเมริกาเมื่อหลายปีก่อน งานนี้คงต้องขึ้นอยู่กับเหล่าผู้บริหารก็ว่ากันไป
มาถึงเรื่องที่จะเล่าสู่กันฟังในวันนี้คงหนีไม่พ้น ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 46 เมื่อ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ตอกแค้นใส่ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ 21-17 หลังจากเมื่อสี่ปีก่อน อีลาย แมนนิง เล่นงาน ทอม เบรดี และพลพรรคอย่างเจ็บแสบ จากการได้ชมคลิปวิดีโอหรือไฮไลท์การแข่งขันจากหลายแหล่ง ถือเป็นหนังม้วนเดิมที่ผู้เขียนอยากเก็บไว้ในอ้อมใจ เป็นศึกที่สลับกันรุก-รับสมศักดิ์ศรีคู่ชิงแชมป์ประเทศ ขับเคี่ยวกันเต็มสูบทุกขุมกำลัง น่าเสียดายที่ "แพทส์แมน" ดันมาเจอปัญหา ร็อบ กรอนคาวสกี ปีกในตัวเก่งไม่ฟิตเต็มร้อย (เจ็บข้อเท้าซ้าย) ถึงลงสนามได้ทว่าศักยภาพไม่ถูกปลดปล่อยมาทั้งหมด
จึงไม่น่าแปลกใจที่เราได้เห็นเกมบุก แพทริออตส์ ติดขัดอยู่บ้าง เกมนี้เป้าของ ทอม เบรดี ต้องคีย์ไปที่ เวส เวลเกอร์ ปีกนอกตัวจี๊ด แอรอน เฮอร์นานเดซ ปีกในที่ขึ้นมารับบทบาทสำคัญ โดยมี แดนนี วูดเฮด รันนิงแบ็กสาระพัดประโยชน์เป็นอ๊อปชันรับบอลระยะสั้น งานนี้เลยเข้าทาง ไจแอนท์ส ที่กางโซนตั้งรับกันอย่างเหนียวแน่น อีกทั้งผู้เขียนต้องยกเครดิตให้หัวจิตหัวใจและความเชื่อที่แฝงอยู่ในกายขุนพล "ยักษ์ใหญ่" ขณะที่ทิศทางของเกมทำท่าเอนเอียงเข้าหา แพทริออตส์ จากจังหวะ เฮอร์นานเดซ รับทัชดาวน์ช่วยต้นสังกัดพลิกนำ 17-9
แต่เมื่อเข้าสู่ควอเตอร์ 4 ภาพความทรงจำร้ายๆ ค่อยๆ คืบคลานหา "แพทส์แมน" ซึ่ง อีลาย แสดงให้เห็นว่าเขาคู่ควรแก่การยกย่องมากเพียงใด โดยเฉพาะการปั้นไดรฟ์ 88 หลา บิ๊กเพลย์เกิดขึ้นจังหวะยอดควอเตอร์แบ็กขว้างบอล 38 หลาเข้ามือ มาริโอ แมนนิงแฮม ทั้งที่มี สเตอร์ลิง มัวร์ และ แพทริค ชุง ประกบติดขนาดนั้น นี่ถือเป็น "The Catch" เวอร์ชั่น 2 ต่อจากครั้ง เดวิด ทายรี ใช้หมวกกันน็อคช่วยรับบอลในซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 42 ต่อยอดทำระยะก่อนที่ แมนนิงผู้น้อง ขว้างทัชดาวน์ 13 หลาเข้ามือ แพล็กซิโก เบอร์เรสส์ ก่อนหมดเวลาแค่ 35 วินาที
ซึ่งการเอื้อมไปคว้าบอลพร้อมขาคู่ที่ปักอยู่ริมเส้นในแดนคู่แข่งของ แมนนิงแฮม 8 เพลย์ให้หลัง อีลาย ก็ยัดบอลเข้ามือ อาหมัด แบรดชอว์ หลุดเข้าเอ็นด์โซนทั้งที่ใจอยากหยุดกายไว้บริเวณเส้น 1 หลา เพลย์ดังกล่าวถ้าสังเกตให้ดี บิลล์ บีลิชิก เฮดโค้ชจอมเจ้าเล่ห์ที่ดูแลทีมรับด้วยตนเอง สั่งลูกทีมเปิดทางให้ ไจแอนท์ส ทำแต้มโดยสะดวก เพื่อที่จะได้บอลกลับมาอยู่ในมือ เบรดี เร็วที่สุด เผื่อมีเวลาพลิกสถานการณ์ จังหวะนั้น อีลาย รู้แกวพยายามตะโกนให้รันนิงแบ็กคู่ใจทิ้งตัวกับพื้นแต่โมเมนตัมหลุดเข้าเขตทำคะแนนเสียก่อน จึงเหลือ 57 วินาที ต่อลมหายใจให้ "นักรบกู้ชาติ"
แม้สุดท้าย เบรดี สร้างปาฏิหาริย์ไม่สำเร็จ แต่เราได้เห็นความพยายามเฮือกสุดท้ายขว้างเฮลแมรีจากเส้น 49 หลาแดนตัวเองไปลุ้นในเอ็นด์โซน น่าเสียดายที่จุดนั้นมีเพียง เฮอร์นานเดซ อยู่ในวงล้อม ดีออน แกรนท์, ฌัคแควง วิลเลียมส์ และเคนนี ฟิลลิปส์ บอลจึงกระฉอกหล่นพื้นต่อหน้า กรอนคาวสกี ถ้าสภาพร่างกายสมบูรณ์ ส่วนสูง 6 ฟุต 6 นิ้ว คงช่วยให้ แพทริออตส์ มีลุ้นกว่านี้ ไม่ต้องพ่าย ไจแอนท์ส เป็นหนที่สามติดต่อกัน
เมื่อเสร็จศึกด้วยความปราชัย บีลิชิก, เบรดี และเหล่าแพทส์แมน มีเวลาเลียแผลใจก่อนกลับมาฮึดสู้อีกครั้งในซีซันใหม่ เบรดี ยังมีแววซิวแหวนแชมป์วงที่ 4 เทียบตำนาน เทอร์รี แบรดชอว์ (พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส) และโจ มอนทานา (ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส) ฮีโร่วัยเด็ก เมื่อยังหาคู่แข่งในสายเอเอฟซี (AFC) มาต่อกรด้วยยาก ส่วน ไจแอนท์ส พอฉลองชัยกันเสร็จ คอฟลิน ในวัย 65 ปี มีภารกิจสำคัญในการพาทีมไปปักธงในซูเปอร์โดม ที่นิวออร์ลีนส์ ป้องแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 47 โดยมีบทเรียนการตกรอบดิวิชันนัล เพลย์ออฟ ฤดูกาล 2008/09 เป็นเครื่องเตือนใจ
