คอลัมน์ "สุดฟากสนาม" โดย "นกฟินิกซ์"
ความพ่ายแพ้คือสิ่งที่อังเดร อากัสซี่ เกลียดและกลัวมากที่สุด แต่เมื่อถึงเวลาต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริงเขาไม่รีรอที่จะตัดสินใจ หลังความอดทนสุดท้ายกับชีวิตคู่ที่เต็มไปด้วยการใส่หน้ากากเข้าหากันหมดลง พร้อมกับการเดินออกจากบ้าน ที่อังเดร ไม่เคยคิดว่าเป็นบ้าน ขับรถฝ่าสายฝนค่อนคืนมุ่งหน้าสู่ ลาสเวกัส สถานที่ที่เขารู้สึกว่าปลอดภัยที่สุด และภายหลังทบทวนความรู้สึกอยู่สองวันเต็มๆโดยที่ไม่มีการติดต่อกลับไปยังภรรยาสาว อังเดร ตัดสินใจต่อสายหา บรู๊ค ซึ่งคำตอบจากปลายทางทำให้เขารู้สึกอึดอัดและงงงันเข้าไปอีก
บรู๊ค ชีลด์ “เราต่างต้องการเวลาเพื่อทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตคู่ อันที่จริงแล้วช่วงเวลานี้เราห่างกันสักพักจะดีกว่าเพราะอย่างน้อยเราทั้งคู่จะได้มองให้ลึกเข้าไปถึงในใจของตนเอง และฉันขอเวลาสักสามสัปดาห์”
อังเดร “ผมไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการ และทำไมต้องใช้เวลาถึงสามสัปดาห์”
บรู๊ค ชีลด์ “ ….”
เป็นบทสนทนาที่ เหมือนบรู๊ค ชีลด์ จะต้องการอยู่ฝ่ายเดียว และขณะเดียวกันได้เพิ่มความอึดอัดให้กับอีกฝ่ายเป็นอย่างยิ่งเพราะอังเดร ไม่ต้องการสูญเสียชีวิตครอบครัวที่เขาสร้างขึ้นมาไป หลังพูดคุยโทรศัพท์กับ บรู๊ค นักเทนนิสหนุ่มกลับมาคุยกับตนเอง เป็นการพูดคุยกับความรู้สึกนึกคิด ก่อนที่เจ้าตัวจะระบายทั้งหมดลงในกระดาษ และ แฟกซ์ กลับไปยังบ้านของบรู๊ค ระหว่างที่กระดาษกำลังเคลื่อนผ่าน ภาพในอดีต ที่ชายหนุ่มเคยแฟกซ์ หากหญิงสาวคนเดียวกันนี้ที่แอฟริกาใต้ ก็ปรากฎชัดในความทรงจำ หากแต่เวลานั้นการรอคอยคำตอบคือช่วงเวลาแห่งความสุข ทว่าครั้งนี้ไม่มีคำตอบจากปลายทาง
เมื่อความอดทนสิ้นสุดลง อังเดร ตัดสินใจโทรศัพท์หาภรรยาสาวเพื่อรักษาสายใยเส้นสุดท้ายระหว่างเขาและเธอเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะยิ่งเลวร้านลงเมื่อบรู๊ค ต้องการให้ผู้ที่กำลังจะเป็นอดีตสามีทบทวนถึงการใช้ชีวิตคู่ การปรับตัวเข้าหากันซึ่งจะต้องใช้ความเข้าใจและลดความเป็นตัวของตัวเองลงมา
สิ่งที่บรู๊ค ชีลด์ พยายามอธิบายให้คนที่เธอเคยรักมากที่สุดฟังนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด และ อังเดรดูจะเข้าใจดีหากแต่ความรู้สึกภายในที่ไม่ต้องการจะสูญเสียชีวิตครอบครัวทำให้เจ้าตัวพยายามทุกอย่างเพื่อรั้ง บรู๊ค เอาไว้รวมไปถึงการระบายความรู้สึกอึดอัด ที่ต้องใช้ชีวิตในรูปแบบไม่คุ้นเคย ผลงานในสนามที่กระทบต่อจิตใจ และท้ายที่สุดคือความรักที่มีต่อหญิงสาวที่อยู่ปลายสาย
หากแต่ดูเหมือนทุกอย่างจะสายเกินไป และ บรู๊ค เองก็มีโลกส่วนตัวของเธอเช่นกัน สุดท้ายแล้วชีวิตคู่ที่ ใช้เวลาร่วมกันมาเกือบห้าปีก็พังทลายลง หลังวางสายจากหญิงที่กำลังจะกลายเป็นอดีตภรรยา รุ่งขึ้นอีกวัน อังเดร โทรศัพท์หาเพอร์รี่ย์ พร้อมกับบอกความต้องการสั้นๆว่า “สวัสดีเพอร์รี่ย์ ฉันมีเรื่องให้ช่วยอยากให้นายทำเรื่องหย่าให้หน่อยเอาแบบเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” หลังจากนั้นชีวิตคู่ระหว่าง อังเดร และ บรู๊ค ก็จบลงพร้อมกับที่แหวนแต่งงานที่อังเดร ฝากให้เพื่อนสนิทช่วยนำไปขายก่อนจะเอาเงินจำนวนนั้นมาสมทบทุนเข้าสถาบันเทนนิสในนามของ บรู๊ค ชีลด์
ความพ่ายแพ้คือสิ่งที่อังเดร อากัสซี่ เกลียดและกลัวมากที่สุด แต่เมื่อถึงเวลาต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริงเขาไม่รีรอที่จะตัดสินใจ หลังความอดทนสุดท้ายกับชีวิตคู่ที่เต็มไปด้วยการใส่หน้ากากเข้าหากันหมดลง พร้อมกับการเดินออกจากบ้าน ที่อังเดร ไม่เคยคิดว่าเป็นบ้าน ขับรถฝ่าสายฝนค่อนคืนมุ่งหน้าสู่ ลาสเวกัส สถานที่ที่เขารู้สึกว่าปลอดภัยที่สุด และภายหลังทบทวนความรู้สึกอยู่สองวันเต็มๆโดยที่ไม่มีการติดต่อกลับไปยังภรรยาสาว อังเดร ตัดสินใจต่อสายหา บรู๊ค ซึ่งคำตอบจากปลายทางทำให้เขารู้สึกอึดอัดและงงงันเข้าไปอีก
บรู๊ค ชีลด์ “เราต่างต้องการเวลาเพื่อทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตคู่ อันที่จริงแล้วช่วงเวลานี้เราห่างกันสักพักจะดีกว่าเพราะอย่างน้อยเราทั้งคู่จะได้มองให้ลึกเข้าไปถึงในใจของตนเอง และฉันขอเวลาสักสามสัปดาห์”
อังเดร “ผมไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการ และทำไมต้องใช้เวลาถึงสามสัปดาห์”
บรู๊ค ชีลด์ “ ….”
เป็นบทสนทนาที่ เหมือนบรู๊ค ชีลด์ จะต้องการอยู่ฝ่ายเดียว และขณะเดียวกันได้เพิ่มความอึดอัดให้กับอีกฝ่ายเป็นอย่างยิ่งเพราะอังเดร ไม่ต้องการสูญเสียชีวิตครอบครัวที่เขาสร้างขึ้นมาไป หลังพูดคุยโทรศัพท์กับ บรู๊ค นักเทนนิสหนุ่มกลับมาคุยกับตนเอง เป็นการพูดคุยกับความรู้สึกนึกคิด ก่อนที่เจ้าตัวจะระบายทั้งหมดลงในกระดาษ และ แฟกซ์ กลับไปยังบ้านของบรู๊ค ระหว่างที่กระดาษกำลังเคลื่อนผ่าน ภาพในอดีต ที่ชายหนุ่มเคยแฟกซ์ หากหญิงสาวคนเดียวกันนี้ที่แอฟริกาใต้ ก็ปรากฎชัดในความทรงจำ หากแต่เวลานั้นการรอคอยคำตอบคือช่วงเวลาแห่งความสุข ทว่าครั้งนี้ไม่มีคำตอบจากปลายทาง
เมื่อความอดทนสิ้นสุดลง อังเดร ตัดสินใจโทรศัพท์หาภรรยาสาวเพื่อรักษาสายใยเส้นสุดท้ายระหว่างเขาและเธอเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะยิ่งเลวร้านลงเมื่อบรู๊ค ต้องการให้ผู้ที่กำลังจะเป็นอดีตสามีทบทวนถึงการใช้ชีวิตคู่ การปรับตัวเข้าหากันซึ่งจะต้องใช้ความเข้าใจและลดความเป็นตัวของตัวเองลงมา
สิ่งที่บรู๊ค ชีลด์ พยายามอธิบายให้คนที่เธอเคยรักมากที่สุดฟังนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด และ อังเดรดูจะเข้าใจดีหากแต่ความรู้สึกภายในที่ไม่ต้องการจะสูญเสียชีวิตครอบครัวทำให้เจ้าตัวพยายามทุกอย่างเพื่อรั้ง บรู๊ค เอาไว้รวมไปถึงการระบายความรู้สึกอึดอัด ที่ต้องใช้ชีวิตในรูปแบบไม่คุ้นเคย ผลงานในสนามที่กระทบต่อจิตใจ และท้ายที่สุดคือความรักที่มีต่อหญิงสาวที่อยู่ปลายสาย
หากแต่ดูเหมือนทุกอย่างจะสายเกินไป และ บรู๊ค เองก็มีโลกส่วนตัวของเธอเช่นกัน สุดท้ายแล้วชีวิตคู่ที่ ใช้เวลาร่วมกันมาเกือบห้าปีก็พังทลายลง หลังวางสายจากหญิงที่กำลังจะกลายเป็นอดีตภรรยา รุ่งขึ้นอีกวัน อังเดร โทรศัพท์หาเพอร์รี่ย์ พร้อมกับบอกความต้องการสั้นๆว่า “สวัสดีเพอร์รี่ย์ ฉันมีเรื่องให้ช่วยอยากให้นายทำเรื่องหย่าให้หน่อยเอาแบบเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” หลังจากนั้นชีวิตคู่ระหว่าง อังเดร และ บรู๊ค ก็จบลงพร้อมกับที่แหวนแต่งงานที่อังเดร ฝากให้เพื่อนสนิทช่วยนำไปขายก่อนจะเอาเงินจำนวนนั้นมาสมทบทุนเข้าสถาบันเทนนิสในนามของ บรู๊ค ชีลด์
