เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2555 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 3 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล ได้มีการจัดการประชุมนโยบาย "คณะกรรมการดำเนินงานสนับสนุนกีฬาจากรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน" ครั้งที่ 1/2555 นำโดย นายชุมพล ศิลปอาชา (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) , "บิ๊กจา" พลตรีจารึก อารีราชการัณย์ (เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย) , และ "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ (นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย) เป็นโต้โผใหญ่ในการประชุม
โครงการ "สนับสนุนสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยจากรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน" หรือชื่อเดิม "หนึ่งกีฬา หนึ่งรัฐวิสาหกิจ" ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อให้องค์กรรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนได้มีโอกาสเข้าร่วมสนับสนุนและช่วยเหลือสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเกมส์ เอเชียนเกมส์ ซีเกมส์ และมหกรรมกีฬาอื่นๆ ตามที่ทาง กกท. กำหนด โดยจะมีมาตรการลดหย่อนภาษี, สิทธิ์ในการเข้าเป็นกรรมการบริหาร และ สิทธิประโยชน์อื่นๆระหว่างสมาคมกับภาครัฐวิสาหกิจหรือเอกชน เป็นการตอบแทน
เนื้อหาหลักของการประชุมในครั้งนี้เน้นไปที่โครงสร้างและการจัดการบริหารขั้นต้นเป็นส่วนใหญ่ โดยนายชุมพล ศิลปอาชา ในฐานะประธานกรรมการออกมาให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นว่า "การประชุมครั้งนี้นับเป็นการประชุมครั้งแรกหลังจากที่ผมเข้ามารับช่วงต่อ หลังจากโครงการดังกล่าวหยุดชะงักมาเป็นเวลานาน ตอนนี้ได้โครงสร้างคร่าวๆแล้ว โดยเราจะนำเอาภาคเอกชนเข้ามาร่วมด้วยหลังจากที่ของเดิมจะมีแค่ภาครัฐวิสาหกิจอย่างเดียว โดยการดำเนินการดังกล่าวจะมอบหมายให้ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ เป็นประธานติดต่อขอความช่วยเหลือจากองค์การต่างๆ โดยไปศึกษารูปแบบ แล้วนำมาพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป"
ทางฝั่งของ"บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ พ่อแรงใหญ่ในโครงการนี้ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "โครงการนี้ เป็นโครงการที่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อวงการกีฬาไทย เพราะเงินที่แต่ละสมาคมจะได้รับจากภาครัฐนั้นมันน้อยมาก จึงต้องหาทางนำเอาองค์กรต่างๆทั้งภาครัฐวิสาหกิจและเอกชน เข้ามาร่วมสนับสนุน ดูอย่างสมาคมเทควันโด ที่ทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ และมีการพัฒนาที่รวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด นั่นก็เพราะมีเงินทุนในการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง"
ส่วนในเรื่องการจัดการนั้น ตนมั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะสำเร็จ "จากนี้เราจะนัดเจรจากับภาคต่างๆอย่างจริงจัง เราจะใช้วิธีเข้าพบเป็นรายบุคคลเลย โดยอาจจะนัดทานอาหารกันนอกรอบ หรือทำกิจกรรมอย่างอื่น แต่จะไม่มีการส่งหนังสือ ร่างเอกสารผ่านบอร์ดบริหาร แล้วค่อยทำเรื่องรอรับอีกแล้ว เพราะมันใช้เวลานานกว่าเกินไปกว่าจะเสร็จ และเราต้องทำให้องค์การต่างๆมั่นใจว่าจำนวนเงินที่ร่วมสนับสนุนนั้นถูกนำไปใช้ประโยชน์จริงๆ สามารถตรวจสอบได้" นายกฯเทควันโด กล่าว
ในเรื่องจำนวนและสัดส่วนนั้นอาจจะไม่เป็น "1 รัฐฯ ต่อ 1 สมาคม" เหมือนที่คิดไว้ตอนแรก เพราะตอนนี้ สมาคมกีฬาในไทย มีมากกว่า 60 สมาคม แต่จำนวนของรัฐวิสาหกิจ ที่มีเงินพอที่จะช่วยเหลือมีไม่ถึง 20 แห่ง