"ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ ยิงเอาชนะ อาร์มี ยูไนเต็ด ไปได้แบบดุเดือด 2-0 ในศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา พร้อมโคจรพบกับ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ในรอบชิงชนะเลิศวันที่ 11 ม.ค. นี้ หลัง "กิเลนผยอง" เฮคว้าชัยเหนือสงขลา เอฟซี ในช่วงดวลจุดโทษท้ายเกม
ฟุตบอลไทยคม เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ
บุรีรัมย์ พีอีเอ 2-0 อาร์มี ยูไนเต็ด
ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก ศึกฟุตบอลไทยคม เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ วันเสาร์ที่ 7 มกราคม 2554 เป็นการพบกันระหว่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ พีอีเอ และ “สุภาพบุรุษวงจักร” อาร์มี ยูไนเต็ด สองทีมดังแห่งศึกไทยพรีเมียร์ลีก ผู้ชนะวันนี้จะเข้าไปเจอกับผู้ชนะระหว่าง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด หรือ สงขลา เอฟซี ในวันที่ 11 มกราคมนี้ ที่สนามศุภชลาศัย
เริ่มเกมได้แค่ 3 นาที บุรีรัมย์ ได้จุดโทษจังหวะโอฮานซา โดยเบียดล้มจังหวะเทกตัวโหม่งจากลูกเปิดของรังสรรค์ และเป็นทางสุเชาว์ ชิปบอลเข้าประตูไปอย่างเหนือชั้นให้ทีมนำ 1-0 ท่ามกลางเสียงโห่จากแฟนบอลของอาร์มี ที่มองว่าพรไพรัช โพยกระโทก ผู้ตัดสินในเกมเป่าเป็นจุดโทษแบบค้านสายตา ต่อมานาทีที่ 9 อาร์มีได้โอกาสโต้กลับ โทนี แทงให้ธาตรี เปิดบอลจากกราบซ้ายให้เลอันโดร วิ่งมาชาร์จ แต่ศิวรักษ์ วิ่งมาคว้าได้ทัน
อาร์มีเดินเกมบุกเข้าใส่แม้โดนนำก่อน นาที 15 จักรพงษ์ แทงจากกราบขวาให้เลอันโดร ควบบอลเข้าเขตโทษก่อนโดนแนวรับบุรีรัมย์ เบียดล้มลงไป แต่ผู้ตัดสินปล่อยเกมไหลต่อเนื่องไม่ให้เป็นจุดโทษ และนาที 23 บุรีรัมย์ก็ได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 รังสรรค์ เปิดบอลจากมุมธงฝั่งขวาให้อาชีมปง โหม่งบอลซุกตาข่ายชนิดที่โคชิ ไม่สามารถเซฟช่วยทีมได้
ท้ายครึ่งแรก อาร์มีได้ลุ้นอีกเฮือกจังหวะฟรีคิกระยะ 30 หลา และเป็นธาตรี สีหา กองหน้ากัปตันทีม รับหน้าที่สังหารด้วยตัวเอง แต่บอลเหินข้ามคานออกไป ทำให้จบครึ่งแรก บุรีรัมย์ พีอีเอ ขึ้นนำ อาร์มี ยูไนเต็ด ก่อน 2-0 ซึ่งบรรดาแข้งของอาร์มีต่างวิ่งเข้าไปขอคำชี้แจงจากพรไพรัช ผู้ตัดสินของเกมที่ทำหน้าที่ตัดสินแบบค้านสายตาหลายจังหวะ สลับกับแฟนบอลที่ตะโกนต่อว่าผู้ตัดสินบนอัฒจรรย์เป็นระยะๆ จนเกือบมีเหตุบานปลาย แต่เจ้าหน้าที่ก็คุมสถานการณ์ไว้ได้
ครึ่งหลัง บุรีรัมย์เปลี่ยนตัวส่ง บูบา แอบโบ กองกลางของทีมลงไปแทน ยุทธจักร ก้อนจันทร์ ซึ่งรูปเกมนั้นทั้งคู่ไม่มีโอกาสทำประตูมากนัก แต่นาที 54 อาร์มี ได้ลุ้นตีไข่แตกจากลูกฟรีคิกอีกครั้ง แต่ธาตรีก็ยังซัดบอลโด่งข้ามคานเหมือนเดิม นาที 65 บุรีรัมย์ ได้ฟรีคิกริมเส้นฝั่งซ้าย สุเชาว์ วางยาวให้โอฮานซาโหม่งแต่โคชิ ชกบอลออกหลังไป
ผ่านไปนาที 70 ทั้งสองทีมเปิดเกมบุกเข้าใส่กันอย่างดุเดือด และอาร์มี ก็เกือบยิงประตูได้อีกครั้งนาที 75 จังหวะ ไกรสรณ์ ศรียันต์ แข้งสำรองของทีม รับบอลทะลุช่องจากเพื่อนก่อนซัดด้วยขวาเต็มข้อ แต่ยังผ่านมือศิวรักษ์ไปไม่ได้ ต่อมานาที 79 เลอันโดร เลี้ยงบอลฉีกแนวรับแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ก่อนสับไกบอลกลิ้งออกเสาแรกไปแบบไม่ได้ลุ้น
อาร์มี โหมบุกหนักในช่วงท้ายเกม แต่ไม่สามารถยิงประตูไล่ตามได้ จบเกม บุรีรัมย์ พีอีเอ เอาชนะ อาร์มี ยูไนเต็ด ไปได้ 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะเข้าไปเจอกับ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ในวันที่ 11 มกราคมนี้ หลังลูกทีมของ ร็อบบี ฟาวเลอร์ ยิงจุดโทษเอาชนะ สงขลา เอฟซี 4-3 จากผลเสมอกัน 2-2 ตลอด 120 นาทีเต็ม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
บุรีรัมย์ พีอีเอ : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน,ธีราทร บุญมาทัน,จักรพันธุ์ แก้วพรม,อภิเชษฐ์ พุฒตาล (กัปตันทีม),ยุทธจักร์ ก้อนจันทร์,โอบามา โจเซฟ,เอ็ควัลลา เฮอร์มัน,รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค,สุเชาว์ นุชนุ่ม,แฟรงค์ โอฮานซา,แฟรงค์ อาชีมปง
อาร์มี ยูไนเต็ด : โคชิ จุน,ดาวุฒิ ดินเขต,อเลสซานโดร อัลเวส,ศิวะเมต ธนูศร,จักรพงษ์ สมบูรณ์,วีระพงษ์ มูลคำแสน,โทนี เดอ ปินโญ,นิพนธ์ คำทอง,มงคง ทศไกร,ธาตรี สีหา (กัปตันทีม),เลอันโดร ดอส ซานโตส
