ร็อบบี ฟาวเลอร์ กุนซือและหัวหอกของ เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด ผิดหวังที่พ่ายคาสนามยามาฮ่า สเตเดียม เป็นนัดที่ 2 ติดต่อกันในรอบ 12 วัน พร้อมทั้งเตรียมหันไปล่าแชมป์ไทยคม เอฟเอ คัพ แทน ด้าน ชลบุรี เผยซ้อมเข้ม นูรูล ศรียานเก็ม ศูนย์หน้าดาวรุ่งวัย 19 ปีก่อนเปลี่ยนตัวลงมาแล้วได้ผลด้วยการพังประตูชัย ชี้ยังไม่ชัวร์กับตำแหน่งรองแชมป์โดยขอเล่นเต็มที่เพื่อคว้าชัยชนะในนัดสุดท้ายกับ บางกอกกล๊าส
ฟุตบอลสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 คู่บิ๊กแมตช์ฉลองวันคริสต์มาส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา “ฉลามชล” บุกมาเอาชนะ “กิเลนผยอง” ที่สนามยามาฮ่า สเตเดียม เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีหลังสุดด้วยสกอร์ 2-1 โดยที่เจ้าถิ่นขึ้นนำก่อนจาก ดานโญ เซียกา ในนาทีที่ 30 ก่อนที่ สุรีย์ สุขะ จะตามตีเสมอให้ทีมเยือนในนาทีที่ 59 ตามด้วย นูรูล ศรียานเก็ม ถูกเปลี่ยนตัวลงมายิงแซงในนาทีที่ 65
หลังจบเกม “เดอะ ก็อด” ฟาวเลอร์ ให้สัมภาษณ์ว่า “นี่เป็นเกมที่สมศักดิ์ศรีบิ๊กแมตช์ของเมืองไทยตามคำร่ำลือ เราเล่นดีในครึ่งแรกแต่ผมยอมรับว่า ชลบุรี แก้เกมได้อย่างยอดเยี่ยมในครึ่งหลัง ซึ่งผมรู้สึกผิดหวังที่ผลการแข่งขันออกมาไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจ เพราะนัดนี้มีผลต่ออันดับของทีมเมื่อจบฤดูกาล จากนี้ไปเราจะมุ่งไปที่การคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เพื่อให้ได้สิทธิ์ไปเล่นเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก แทน ส่วนเรื่องการเป็นทั้งผู้เล่นและโค้ชแล้วทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงนั้น ผมขอบอกว่ามันไม่ใช่งานที่ง่ายเลย แต่การจัดตัวผู้เล่นลงสนามคือสิ่งที่ทำตั้งแต่ก่อนเริ่มเกม ขณะที่ผลการแข่งขันมันเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง”
ด้าน “เฮงซัง” วิทยา เลาหกุล ผู้จัดการทีมชลบุรีกล่าวว่า “ครึ่งแรกผมสั่งให้ลงไปรับต่ำ แต่ผู้เล่นไม่ทำตามจึงเป็นเหตุให้เราเสียประตูแรก นอกจากนั้นคู่กองหน้าก็เก็บบอลได้ไม่ดีและเสียการครองบอลบ่อยครั้ง แต่ครึ่งหลังผมเห็นว่า เมืองทองฯ เริ่มอ่อนแรงลงจึงส่งผู้เล่นที่มีความเร็วอย่าง อองโตนี เอสปาร์ซา และ นูรูล ศรียานเก็ม ลงไปซึ่งก็ได้ผลดี โดยเฉพาะ นูรูล ที่ผมเน้นให้ซ้อมการเล่นโต้กลับซึ่งตอนซ้อมเขาทำได้ 2-3 ประตู วันนี้เขาแสดงให้เห็นว่ามีอนาคตไกล เชื่อว่าอีกไม่นานคงดีพอที่จะย้ายมาเล่นให้ เมืองทองฯ (กล่าวแบบติดตลก) ส่วนการคว้ารองแชมป์นั้นผมยังไม่มั่นใจ แต่ถ้าเราเล่นกับ บางกอกกล๊าส ในนัดสุดท้ายได้เหมือนกับครึ่งหลังที่เล่นกับ เมืองทองฯ ผมเชื่อว่าเราจะจบฤดูกาลที่อันดับ 2”