ร็อบบี ฟาวเลอร์ ผู้เล่น-โค้ชของ เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด เผยไม่ใช่เรื่องแปลกที่ต้องยืนระยะในสนามตลอด 120 นาทีในเกมไทยคม เอฟเอ คัพ รอบ 4 ที่ดวลจุดโทษชนะ บางกอกกล๊าส โดยบอกว่าสภาพร่างกายฟิตมากพอ พร้อมทั้งเตรียมมุ่งสมาธิไปที่รอบ 5 ซึ่งจะบุกไปเยือน พัทยา ยูไนเต็ด ด้าน ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ เปรยเตรียมลดอายุเฉลี่ยของทีมบีจีลงในปีหน้า เนื่องจากมีผู้เล่นหลายรายอายุมากกว่า 30 ปี
เมื่อช่วงค่ำวันพุธที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา “กิเลนผยอง” เปิดรังยามาฮ่า สเตเดียม ฟาดฟันกับ “กระต่ายแก้ว” อย่างโชกโชนโดยเสมอ 1-1 ในเวลาปกติ 90 นาที ล่วงมาจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษรวมเป็น 120 นาที ก่อนที่เจ้าถิ่นจะสังหารจุดโทษได้แม่นกว่าในการดวลเป้าตัดสินโดยยิงเข้าครบทั้ง 5 คน ขณะที่ทีมเยือนพลาด 1 ราย ทำให้ชนะไป 5-4 สกอร์รวม 6-5 ผ่านเข้าสู่รอบ 5 ต่อไป
หลังจบเกม “เดอะ ก็อด” ฟาวเลอร์ ศูนย์หน้าและนายใหญ่เมืองทองฯ ให้สัมภาษณ์ว่า “ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ผมลงเล่นตลอด 120 นาที เนื่องจากสถานการณ์ของเกมและแท็กติกมันจำเป็น แต่ผมก็ฟิตมากพอที่จะเล่นต่อไปได้เพียงแต่ถอยลงมาเก็บบอลและเปลี่ยนมาเปิดเกมให้เพื่อนเท่านั้น ส่วนเกมนี้ถือว่ายากไม่น้อย และเราน่าจะชนะในเวลา 90 นาทีจากโอกาสที่มีมากมายแต่ก็ทำไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ผมขอชมทุกคนที่ทุ่มเทตลอด 120 นาทีจนกระทั่งชนะในการดวลจุดโทษซึ่งถือว่าเราโชคดีกว่า จากนี้ผมจะมุ่งสมาธิไปที่รอบหน้าซึ่งจะต้องไปเยือน พัทยา ยูไนเต็ด วันที่ 30 ตุลาคมนี้ รวมถึงการลุ้นแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก”
ขณะที่ “เสี่ยเหน่ง” ศุภสิน รองประธานสโมสรและผู้จัดการทีมบางกอกกล๊าส กล่าวว่า “ผมยอมรับว่าผู้เล่นของเราอ่อนล้ามาจากการเล่น 3 เกมในรอบ 1 สัปดาห์ แต่ก็ขอยกย่องทุกคนที่ช่วยกันเล่นอย่างเต็มที่ตลอด 120 นาที หลังจากนี้เราคงต้องหันมาเน้นในการรักษาอันดับ 4 ของไทยพรีเมียร์ลีกเอาไว้ให้ได้ ส่วนการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าต้องปรึกษาร่วมกับผู้บริหารและสตาฟฟ์โค้ชก่อน แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะปรับลดอายุเฉลี่ยของทีมลง เนื่องจากผู้เล่นหลายคนอายุมากกว่า 30 ปี โดยอาจจะผลักดันนักเตะเยาวชนของสโมสรที่มีแววขึ้นมาใช้งานส่วนหนึ่ง”