ร็อบบี ฟาวเลอร์ ผู้เล่น-โค้ชของ เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด ปลื้มใจที่สามารถคว้า 3 แต้มในการคุมทีมนัดแรกได้ พร้อมทั้งบอกว่าไม่กดดันกับการพาต้นสังกัดลุ้นแชมป์ต่อใน 2 รายการที่เหลืออยู่ เนื่องจากมีทีมงานที่แข็งแกร่ง ส่วน วรวรรณ ชิตะวณิช กุนซือเอสซีจี สมุทรสงคราม ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่จะกลับไปแก้ไขข้อบกพร่องเพื่อลุ้นคว้าชัยในแมตช์หน้ากับ ศรีราชา ซูซูกิ
“เดอะ ก็อด” เริ่มต้นงานโค้ชนัดแรกในชีวิตได้อย่างสวยงามด้วยการนำทัพ “กิเลนผยอง” บุกไปเอาชนะ “ปลาทูคะนอง” ถึงสนาม อบจ.สมุทรสงคราม 3-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยที่ตำนานนักเตะของ ลิเวอร์พูล ลงเล่นครบ 90 นาทีและจ่ายให้เพื่อนยิงอีก 2 ประตูด้วย ทำให้แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2 สมัยล่าสุดเก็บเพิ่มเป็น 47 คะแนนจาก 22 นัด ขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ของตาราง ตามหลัง บุรีรัมย์ พีอีเอ จ่าฝูงที่แข่งมากกว่า 1 นัดอยู่ 9 คะแนน
หลังจบเกม ฟาวเลอร์ ให้สัมภาษณ์ถึงชัยชนะในการประเดิมบทบาทใหม่ว่า “ผมดีใจมากที่เก็บ 3 คะแนนได้ และขอชมผู้เล่นทุกคนที่ทำผลงานได้ดีตั้งแต่ผู้รักษาประตูจนถึงกองหน้า สิ่งที่ผมพอใจคือเราสามารถคุมเกมได้ตั้งแต่ต้นจนจบ แม้จะมีบางจังหวะที่เราเร่งกันเกินไปก็ตาม ส่วนการทำหน้าที่ 2 บทบาทในเวลาเดียวกันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะการคุมทีมไม่ได้หมายความว่าจะต้องนั่งอยู่ข้างสนามตลอด แม้ตัวผมจะลงไปเล่นแต่ก็ยังมีทีมงานที่แข็งแกร่งคอยช่วยเหลืออยู่”
อดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษวัย 36 ปี กล่าวต่อไปว่า “เรื่องสัญญาในการทำหน้าที่โค้ชควบคู่ไปกับการเป็นผู้เล่น ผมขอบอกว่าไม่ทราบรายละเอียดมากนัก ผมรู้เพียงแค่ว่าจะต้องทำงานอย่างสุดความสามารถในช่วงที่เหลือสัญญาอยู่อีก 1 ปี ซึ่งความจริงตอนผมอยู่ที่อังกฤษก็ไม่คิดว่าจะได้เป็นโค้ชมาก่อน ต้องขอบคุณประธานสโมสร (ระวิ โหลทอง) ที่ให้โอกาสนี้กับผม เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่ท้าทายความสามารถในการทำงานของผม ซึ่งส่วนตัวแล้วไม่กดดันกับการลุ้นแชมป์ใน 2 รายการที่เหลืออยู่ คือ ไทยพรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ เนื่องจากทีมมีคุณภาพพร้อมที่จะประสบความสำเร็จอยู่แล้ว”
ส่วน “โค้ชป้ำ” วรวรรณ ชิตะวณิช เฮดโค้ชเอสซีจี สมุทรสงคราม พูดถึงความปราชัยและเกมต่อไปว่า “ช่วงที่เราตามหลัง 0-1 ก็ยังเล่นได้ดี แต่หลังจากสกอร์เปลี่ยนเป็น 0-2 เกมก็ขาดทันที ทำให้เราขาดความมั่นใจ ทำอะไรก็ผิดพลาดไปหมด ซึ่งเราต้องกลับไปทบทวนเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว ผมยอมรับว่าเลกสองเป็นงานที่หนักมาก แต่การเจอ เมืองทองฯ ก็ทำใจไว้ก่อนแล้วว่าหวังเก็บได้สัก 1 คะแนน นอกจากนั้น การที่คุณระวิ โหลทอง มาให้กำลังใจถึงขอบสนามด้วยยิ่งทำให้ เมืองทองฯ มีแรงกระตุ้นมากขึ้นเป็น 2 เท่า ส่วนนัดหน้าที่เล่นในบ้านกับ ศรีราชา (9 ตุลาคม) ก็ต้องเอาชนะให้ได้เพื่อหนีการตกชั้น”
รายได้จากบัตรเข้าชมการแข่งขัน 181,050 บาท
รายได้จากการขายสินค้าที่ระลึก 72,520 บาท
“เดอะ ก็อด” เริ่มต้นงานโค้ชนัดแรกในชีวิตได้อย่างสวยงามด้วยการนำทัพ “กิเลนผยอง” บุกไปเอาชนะ “ปลาทูคะนอง” ถึงสนาม อบจ.สมุทรสงคราม 3-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยที่ตำนานนักเตะของ ลิเวอร์พูล ลงเล่นครบ 90 นาทีและจ่ายให้เพื่อนยิงอีก 2 ประตูด้วย ทำให้แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2 สมัยล่าสุดเก็บเพิ่มเป็น 47 คะแนนจาก 22 นัด ขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ของตาราง ตามหลัง บุรีรัมย์ พีอีเอ จ่าฝูงที่แข่งมากกว่า 1 นัดอยู่ 9 คะแนน
หลังจบเกม ฟาวเลอร์ ให้สัมภาษณ์ถึงชัยชนะในการประเดิมบทบาทใหม่ว่า “ผมดีใจมากที่เก็บ 3 คะแนนได้ และขอชมผู้เล่นทุกคนที่ทำผลงานได้ดีตั้งแต่ผู้รักษาประตูจนถึงกองหน้า สิ่งที่ผมพอใจคือเราสามารถคุมเกมได้ตั้งแต่ต้นจนจบ แม้จะมีบางจังหวะที่เราเร่งกันเกินไปก็ตาม ส่วนการทำหน้าที่ 2 บทบาทในเวลาเดียวกันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะการคุมทีมไม่ได้หมายความว่าจะต้องนั่งอยู่ข้างสนามตลอด แม้ตัวผมจะลงไปเล่นแต่ก็ยังมีทีมงานที่แข็งแกร่งคอยช่วยเหลืออยู่”
อดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษวัย 36 ปี กล่าวต่อไปว่า “เรื่องสัญญาในการทำหน้าที่โค้ชควบคู่ไปกับการเป็นผู้เล่น ผมขอบอกว่าไม่ทราบรายละเอียดมากนัก ผมรู้เพียงแค่ว่าจะต้องทำงานอย่างสุดความสามารถในช่วงที่เหลือสัญญาอยู่อีก 1 ปี ซึ่งความจริงตอนผมอยู่ที่อังกฤษก็ไม่คิดว่าจะได้เป็นโค้ชมาก่อน ต้องขอบคุณประธานสโมสร (ระวิ โหลทอง) ที่ให้โอกาสนี้กับผม เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่ท้าทายความสามารถในการทำงานของผม ซึ่งส่วนตัวแล้วไม่กดดันกับการลุ้นแชมป์ใน 2 รายการที่เหลืออยู่ คือ ไทยพรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ เนื่องจากทีมมีคุณภาพพร้อมที่จะประสบความสำเร็จอยู่แล้ว”
ส่วน “โค้ชป้ำ” วรวรรณ ชิตะวณิช เฮดโค้ชเอสซีจี สมุทรสงคราม พูดถึงความปราชัยและเกมต่อไปว่า “ช่วงที่เราตามหลัง 0-1 ก็ยังเล่นได้ดี แต่หลังจากสกอร์เปลี่ยนเป็น 0-2 เกมก็ขาดทันที ทำให้เราขาดความมั่นใจ ทำอะไรก็ผิดพลาดไปหมด ซึ่งเราต้องกลับไปทบทวนเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว ผมยอมรับว่าเลกสองเป็นงานที่หนักมาก แต่การเจอ เมืองทองฯ ก็ทำใจไว้ก่อนแล้วว่าหวังเก็บได้สัก 1 คะแนน นอกจากนั้น การที่คุณระวิ โหลทอง มาให้กำลังใจถึงขอบสนามด้วยยิ่งทำให้ เมืองทองฯ มีแรงกระตุ้นมากขึ้นเป็น 2 เท่า ส่วนนัดหน้าที่เล่นในบ้านกับ ศรีราชา (9 ตุลาคม) ก็ต้องเอาชนะให้ได้เพื่อหนีการตกชั้น”
รายได้จากบัตรเข้าชมการแข่งขัน 181,050 บาท
รายได้จากการขายสินค้าที่ระลึก 72,520 บาท