เอ็นริเก คาลิสโต กุนซือ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ชูสถิติไร้พ่ายยามนัดเหย้ายอมรับทำงานหนักเกิน 200 % ส่วน "บิ๊กเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทั่วไป พร้อมยกโบนัสให้ลูกทีมทั้งหมด 15 ล้านบาทหากคว้าแชมป์เอเอฟซีคัพได้สำเร็จ ด้าน ดราแกน ทาราจิช เฮดโค้ชคูเวต เอสซี โวแฟนบอลเจ้าถิ่นต้องเสียใจแน่นอนเพราะมั่นใจได้เข้ารอบรองฯ ในศึกเอเอฟซี คัพ 2011 นัดสอง วันอังคารที่ 27 กันยายน 2554 เวลา 19.30 น.
เมื่อเวลา 13.00 น. วันจันทร์ที่ 26 กันยายน 2554 มีการแถลงข่าวความพร้อมก่อนเกมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชียถ้วยเล็ก "เอเอฟซี คัพ 2011" รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 ในวันอังคารที่ 27 กันยายน 2554 "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด อดีตแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2 สมัย จะเปิดรังยามาฮ่า สเตเดียม รับการมาเยือนของ คูเวต เอสซี ทีมจากประเทศคูเวต ในเวลา 19.30น.ทรูสปอร์ต 3 (103) ถ่ายทอดสด
หลังจากบุกไปพ่ายในนัดแรกมา 0-1 เอ็นริเก คาลิสโต กุนซือเมืองทองฯ ยูไนเต็ด กล่าวว่า "ทีมมีสภาพพร้อม เพราะได้พักมาอย่างเต็มที่ มีเพียง เชส เรห์มาน คนเดียวที่เจ็บลงสนามไม่ได้ ซึ่งนัดนี้ถือเป็นเกมที่หนักของ เมืองทองฯ เพราะจะต้องชนะ 2 ลูกขึ้นไปเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คูเวต เป็นทีมที่เล่นได้ดี แต่การที่ได้เล่นในบ้านตัวเองซึ่งยังไม่เคยแพ้ใครทุกรายการจะทำให้มั่นใจได้ว่าทีมจะสามารถเอาชนะและเข้าสู่รอบรองฯ ต่อไปได้ โดยยอมรับว่าต้องทำงานหนักเกิน 200 % ซึ่งวันนี้ (27 กันยายน 2554) ไม่ได้ลงสนามแค่ในนามทีมเมืองทองฯ ยูไนเต็ด เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ลงในนามตัวแทนประเทศไทยอีกด้วย"
นอกจากนี้ คาลิสโต ยังเผยถึงกองหน้าตัวเก่งอย่าง "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ว่าสามารถลงได้ตั้งแต่ต้นเกม ส่วนหมายเลข 10 คือ โรเจอริโอ เดอ แอสซิส ซิลวา คูตินโญ ตัวเก่งของคูเวต ยอมรับว่าเป็นนักเตะที่มีทักษะดีแต่ตนคงไม่สั่งประกบติดมากนัก โดยมองว่าทีมเยือนเล่นได้ดีทั้งรับ-รุกเหมือนกันอยู่แล้ว ส่วน "เดอะก็อด" ร็อบบี ฟาวเลอร์ จะถูกลงสนามหรือไม่ คาลิสโต กล่าวว่า "ขึ้นอยู่กับแท็กติกของทีม แต่อย่างไรก็ตามจากประสบการณ์ที่มากของ ฟาวเลอร์ จะสามารถช่วยทีมได้ ซึ่งนัดที่ไปเยือน คูเวต เอสซี ผู้เล่นของเราไม่ค่อยสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น ณัฐพร พันฤทธิ์, กวิน ธรรมสัจจานันท์, ภานุพงษ์ วงศ์ษา,เชส เรย์มาน และ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว"
ขณะเดียวกัน "บิ๊กเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทั่วไป "กิเลนผยอง" เผยว่า "สภาพทีมถือว่าค่อนข้างดีขึ้น ซึ่งมีนักเตะหลายคนหายเจ็บกลับมาและยังโชคดีที่ "เจ้ามุ้ย" สามารถลงสนามได้ เนื่องจากขณะนี้กองหน้าทีมชาติไทยอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มและยังสามารถสร้างความมั่นใจให้กับเพื่อนร่วมทีมด้วย เพราะทุกคนต่างรู้ใจซึ่งกันละกัน ส่วนในเรื่องการอัดฉีดทางทีมมีให้อยู่แล้วนัดละ 5 แสนบาทในแต่ละรอบ ซึ่งหากคว้าแชมป์เอเอฟซี คัพ มาได้จะได้รับเงิน 35,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1 ล้านบาท) และเมื่อนำมารวมกับเงินอันฉีดในแต่ละนัดจะอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านบาท โดยเงินทั้งหมดจะยกให้นักเตะทุกคนไปแบ่งกัน"
ส่วน "ตอง" กวิน ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูทีมเมืองทองฯ กล่าวอย่างมั่นใจว่า "ก่อนหน้านี้มีอาการเจ็บข้อศอกข้างซ้ายแต่ตอนนี้ปกติแล้ว ซึ่งเกมนัดนี้ต้องการเก็บชัยชนะให้ได้โดยการต้องไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว"
ด้าน ดราแกน ทาราจิช เฮดโค้ชคูเวต เอสซี ที่เคยเปิดบ้านชนะเมืองทองฯ ยูไนเต็ด มาได้ในนัดแรก 1-0 กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมว่า "ได้เน้นกับลูกทีมทุกคนว่าชัยชนะของแต่ละนัดนั้นต้องค่อยเป็นค่อยไป แมตช์ต่อแมตช์ สำหรับนัดนี้พยายามเล่นให้เต็มที่ ทั้งนี้เคารพในศักยภาพของนักเตะเมืองทองฯ ทุกคน ทว่ามั่นใจว่าเกมนี้จะสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน ส่วนสภาพทีมถือว่าพร้อมไม่มีใครบาดเจ็บ ขณะที่ในเรื่องสภาพอากาศที่ร้อนไม่ได้มีปัญหาสำหรับทีมของตน"
"ที่สำคัญไม่ได้หวั่นเรื่องแฟนบอลของเมืองทองฯ ที่จะเข้ามาชมเกมนี้ราว 20,000 คน ไม่ต้องไปพะวงเพราะว่าเราเอาชนะมาได้ในนัดแรก เป้าหมายคือต้องการได้แชมป์รายการนี้ เหมือนเมื่อปี 2009 ที่เป็นแชมป์เก่า เพราะฉะนั้นจะพยายามผ่านทีมเมืองทองฯ เพื่อก้าวขึ้นไปสู่แชมป์ให้ได้ แม้ว่าทีมเมืองทองฯ จะไม่เคยแพ้ยามเล่นในบ้าน เราจะยัดเยียดความปราชัยให้คาบ้านแน่นอน ขณะเดียวกันรู้สึกเสียใจมากกว่าที่แฟนบอลจำนวนนี้จะเห็นทีมรักต้องพ่ายให้กับ คูเวต เอสซี"