xs
xsm
sm
md
lg

หักเหลี่ยมหนีตาย “อยู่หรือไป” ไทยลีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เดอะ ทีเร็กซ์” หวังโกงความตาย
ASTV ผู้จัดการรายวัน – เข้าสู่โค้งสุดท้ายของฟุตบอลสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 แล้ว โดยที่ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ พีอีเอ ยึดบัลลังก์แชมป์ฤดูกาลนี้ด้วยคะแนนนำโด่งแม้ยังไม่รูดม่านปิดฉากอย่างเป็นทางการ ส่วนตำแหน่งรองแชมป์ยังคงขับเคี่ยวกันระหว่าง “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี และ “กิเลนผยอง” เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด ขณะเดียวกันทีมที่มีโอกาสตกชั้นไปเล่นในศึกดิวิชัน 1 ต่างก็ดิ้นรนเฮือกสุดท้ายกันอย่างสุดชีวิต

สำหรับทีมที่เสี่ยงต่อการตกชั้นมากที่สุดในซีซั่นนี้ คือ “เดอะ ทีเร็กซ์” ขอนแก่น เอฟซี เนื่องจากแข่งมาแล้ว 32 นัด มีเพียง 26 คะแนน รั้งอันดับรองบ๊วย โดย พิเชษฐ์ สุโพธิ์เมือง กุนซือผู้แบกภาระเข็นทีมให้พ้นโซนอันตรายเผยว่า “หากเทียบตามทฤษฏีเรามีโอกาสรอดเนื่องจากทีมท้ายตารางยังมีแต้มนำไม่ขาด แต่ในความเป็นจริงเรามีโอกาสตกชั้นสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น 10 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือจะต้องชนะให้ได้ในอีก 2 นัดที่เหลือ อาจจะดูยากในนัดที่เยือน บางกอกกล๊าส ส่วนนัดเปิดบ้านรับ การท่าเรือไทย มีความเป็นไปได้ที่จะเก็บ 3 แต้ม จึงต้องกำชับลูกทีมทุกคนให้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวแพ้ต่อทีมใดทั้งสิ้น”

นอกจากนี้ โค้ชพิเชษฐ์ ได้เปิดเผยถึงปัญหาที่ส่งผลต่อตารางคะแนนว่า “เนื่องจากมีผู้เล่นบาดเจ็บและติดโทษแบนมาก อีกทั้งผู้เล่นของเรามักถูกแบนในตำแหน่งเดียวกันจึงทำให้จำนวนผู้เล่นที่มีจำกัดต้องสลับมาเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัด ส่วนในฤดูกาลหน้าจะเสริมในตำแหน่งใดต้องขึ้นอยู่กับนโยบายบอร์ดบริหารและผู้เล่นเดิมว่าจะย้ายออกจากทีมหรือไม่”

มาดูที่ทีม ราชนาวี แม้อยู่อันดับที่ 14 แต่ได้ลงสนามมาแล้ว 32 นัด เก็บได้เพียง 32 คะแนน ซึ่ง สมชาย ชวยบุญชม นายใหญ่ “ตะหานน้ำ” ที่เพิ่งเข้ามารับเผือกร้อนได้เพียง 5 นัดกล่าวถึงความหวังในการรอดตกชั้นว่า “ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากมากเพราะมีทางเลือกคือต้องชนะ เอสซีจี สมุทรสงคราม ให้ได้จึงจะมีโอกาสหลุดโซนอันตรายได้ถึง 99% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทีมท้ายตารางที่ยังเหลือให้ลุ้นหลายนัดมากกว่า ขณะเดียวกันหากแพ้ เอสซีจีฯ จะหมดโอกาสลุ้นทันที”

โดย “น้าฉ่วย” ได้เผยถึงจุดบกพร่องของทีมราชนาวีว่า “ตัวผู้เล่นต่างชาติไม่มีความเป็นมืออาชีพ ไม่ให้ความร่วมมือในการฝึกซ้อมเท่าที่ควร ส่วนผู้เล่นที่มีอยู่ก็มีศักยภาพเป็นรองเนื่องจากตัวหลักย้ายทีม ที่สำคัญบริษัท สยามนาวี ลีคคลับ มีการบริหารที่ค่อนข้างขี้เหนียวเกินควร ทว่าการบริหารดีขึ้นเรื่อยๆ จากการเปลี่ยนแปลงประธานสโมสรฯ คนใหม่ที่พร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่”

ขณะที่ “เดอะ บลูมาร์ลิน” ศรีราชา ซูซูกิ ทีมอันดับสุดท้ายของตารางยังเหลือให้ลุ้นอีก 4 นัด โดยมีแต้มตุนไว้ 24 คะแนน ซึ่ง “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมกล่าวถึงความมั่นใจในการลุ้นหนีตายว่า “ผมยังคงมองโลกในแง่ดีเพราะมีอีก 12 แต้มให้ลุ้น ที่สำคัญนักเตะต้องมีสมาธิให้มากขึ้นควบคู่กับการเล่นท็อปฟอร์ม โดยหลังจบฤดูกาลผมจะประเมินผลงานตัวเอง หากตกชั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ว่ายังคงไว้ใจผมให้ทำหน้าที่ต่อหรือไม่ ส่วนในฤดูกาลหน้าต้องมีการปรับปรุงกันหลายด้านไม่ว่าจะเป็นระบบการเล่นและตัวนักเตะ”

ด้าน “ฮัลโหล” ทีโอที เอสซี ที่ช่วงเริ่มฤดูกาลได้รับผลกระทบจากการยื้อแย่งสิทธิ์ทำทีมจึงส่งผลให้หล่นมาอยู่ที่อันดับ 16 จากการแข่ง 30 นัด มี 29 คะแนน โดย สมชาย ทรัพย์เพิ่ม กุนซือของทีมตั้งเป้าในซีซั่นนี้ว่า “ยากมากกับอีก 4 นัดที่เหลือหากจะรอดตกชั้นต้องเก็บให้ได้อย่างน้อย 7 แต้ม ลึกๆ เชื่อว่ายังมีโอกาสเป็นไปได้ หากไม่มีผลกระทบในเรื่องอาการบาดเจ็บและติดโทษแบนของนักเตะตัวหลัก เพราะยอมรับว่าผู้เล่นตัวจริงที่มีอยู่ตอนนี้เป็นผู้เล่นที่มีศักยภาพดีที่สุดเท่าที่มีแล้ว ส่วนผู้เล่นสำรองจะลดหลั่นตามศักยภาพเนื่องจากสมดุลของทีมไม่ค่อยดี นอกจากนี้หากไม่ตกชั้นได้มีการเล็งแข้งต่างชาติเสริมในฤดูกาลหน้าอีกด้วย”

ปิดท้ายที่ ขุนพลลูกหนัง “ปลาทูคะนอง” เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี กลับมาอยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดภัยมากขึ้น จากการลงสนาม 30 นัด มีอยู่ 31 คะแนน ขยับพ้นโซนตกชั้นขึ้นมาอยู่อันดับ 15 แม้ 4 นัดสุดท้ายจะต้องออกไปเป็นทีมเยือนทั้งหมด แต่ “โค้ชป้ำ” วรวรรณ ชิตะวณิช ยังคงแสดงความมั่นใจว่า “เราเหลือเกมอีก 4 นัด ขณะที่ ราชนาวี เหลือแค่ 2 นัด นั่นหมายความว่าเรามีโอกาสเก็บแต้มมากกว่า ซึ่งหากนัดหน้าเราได้แต้มจาก ราชนาวี ผมมั่นใจว่าไทยพรีเมียร์ลีกปีหน้าจะมีชื่อ เอสซีจี สมุทรสงคราม อยู่อย่างแน่นอน ซึ่งการได้ พานุวัฒ ยิ้มสง่า กลับมา ทำให้การสร้างสรรค์เกมรุกมีประสิทธิภาพมากขึ้นและจะช่วยให้ทีมทำผลงานได้ดีในช่วงโค้งสุดท้าย”
“น้าฉ่วย” เร้า “ตะหานน้ำ” ดีขึ้น
“โค้ชโอ่ง” ลุ้นพาศรีราชาอยู่รอด
“สมชาย” รับฮัลโหลหืดขึ้นคอ
“โค้ชป้ำ” มั่นใจปลาทูคะนองศึก
กำลังโหลดความคิดเห็น