ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานไทยพรีเมียร์ลีกสั่งเลื่อนปิดฤดูกาล 2011 จากสิ้นปีนี้ไปเป็นวันที่ 7-8 มกราคม 2555 หลังหลีกทางให้ทีมชาติชุดใหญ่และซีเกมส์ ขณะที่ "เสี่ยเป้" ผู้จัดการทั่วไปสโมสรเมืองทองฯ ยูไนเต็ด เผยทีมแต่งตั้ง มิลอส โจซิค ผู้ฝึกสอนชาวเซอร์เบียของราชประชา ไทยแลนด์ เอฟซี จากดิวิชั่น 1 มานั่งเป็นผู้ช่วยร็อบบี ฟาวเลอร์
เมื่อเวลา 13.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2554 ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เป็นประธานการแถลงข่าวมีทเดอะเพรสไทยพรีเมียร์ลีก 2011 ณ สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย
โดย ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด กล่าวเปิดงานว่า "ต้องขอแสดงความเสียใจกับพื้นที่ประสบอุทุกภัยที่ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันฟุตบอลไม่ว่าจะเป็นนัดชิงชนะเลิศโตโยต้า ลีกคัพ และ การแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก ขณะเดียวกันมีการเลื่อนบางคู่เพื่อหลีกทางให้ทีมชาติชุดใหญ่และชุดซีเกมส์ได้เก็บตัวฝึกซ้อมอย่างเต็มที่จึงทำให้การปิดฤดูกาลที่เดิมกำหนดไว้ปลายปีนี้ต้องเลื่อนการปิดเป็นวันที่ 7-8 มกราคม 2555 ก่อนที่จะส่งรายชื่อทีมแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกให้แก่ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ในวันที่ 9 มกราคม"
"ส่วนดิวิชั่น 1 อาจจะปิดเลยไปอีก 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ยืนยันว่าไทยพรีเมียร์ลีกจะมีการเลื่อนชั้นขึ้น 3 ลง 3 ส่วนดิวิชั่น 1 ขึ้น 4 ลง 4 ส่วนโควต้าผู้เล่นต่างชาติยังคงยึดตามเดิมคือ 7 ลง 5 เพราะหาดเกิดการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทุกสโมสรทราบล่วงหน้าก่อน 1 ฤดูกาล"
"กิเลน"ตั้ง มิลอส โจซิค มือขวาฟาวเลอร์ ประเดิมรับเชียงราย ยูไนเต็ด
สำหรับความพร้อมก่อนเกมไทยพรีเมียร์ลีกเริ่มที่ "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทั่วไปสโมสรเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2 มี 47 คะแนน กล่าวว่า "ก่อนอื่นขอโอกาสแถลงข่าวสโมสรฯ ได้แต่งตั้ง มิลอส โจซิค ผู้ฝึกสอนชาวเซอร์เบียของราชประชา ไทยแลนด์ เอฟซี จากดิวิชั่น 1 มานั่งเป็นผู้ช่วยร็อบบี ฟาวเลอร์ รักษาการผู้จัดการทีมและนักเตะในทีมซึ่งจะประเดิมหน้าที่ในนัดแรกที่เปิดบ้านรับเชียงราย ยูไนเต็ด"
"ขณะนี้ทีมมีความพร้อมเพราะได้ เซส เรห์มาน กลับคืนมา ทั้งนี้ก็ประคับประคองอาการล้าของ ธีรศิลป์ แดงดา และ ดัสกร ทองเหลา หลังจากรับใช้ทีมชาติ การเจอเชียงรายนัดนี้ไม่เพียงแค่หวัง 3 แต้มเท่านั้น แต่ต้องทวงความแค้นคืนให้ได้ เพราะเลกแรกเราบุกไปแพ้ ที่สำคัญจะต้องเร่งเก็บสกอร์เพื่อรักษาช่องว่างกับ บุรีรัมย์ พีอีเอ ให้น้อยที่สุด"
ด้าน พ.ต.ท.รังสิมันต์ สงเคราะห์ธรรม รองประธานสโมสร "กว่างโซ้ง" เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 10 มี 34 คะแนน เผยถึงความพร้อมก่อนบุกรัง "กิเลนผยอง" ว่า "โชคดีที่สตาฟฟ์โค้ชมีความรู้ทางด้านเทคนิคทำให้เป็นผลดีต่อนักเตะสูงอายุสามารถเล่นได้ทั้งฤดูกาล ซึ่งทีมมีปัญหาที่ผู้เล่นบาดเจ็บ คือ อันโตนิโอ เคาดิโอ กองหลังที่จมูกร้าว และ ธวัชชัย ทองฮวด ที่เริ่มหายจากอาการบาดเจ็บ นอกจากนั้นทุกตำแหน่งก็ฟูลทีมซึงอยู่ที่โค้ชจะเป็นคนเลือก ทั้งนี้ถือว่าเราโชคดีในบ้านแต่เมื่อออกมานอกบ้านถือว่าเป็นงานยากเหมือนกันซึ่งความจริงก็อยากให้ 3 แต้มแก่ เมืองทองฯ เพื่อเบียดกับ บุรีรัมย์ แต่ เชียงรายฯ เองก็ผ่านไปไม่ง่ายเช่นกัน"
"ฉลาม" ลุ้นชิงที่ 2 - เพื่อนตำรวจ รับเจองานหนัก
ขณะเดียวกัน "เซอร์เด็จ" จเด็จ มีลาภ หัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 3 มี 45 คะแนน กล่าวถึงความพร้อมว่า "นักเตะได้ซ้อมตลอดทั้งสัปดาห์จึงทำให้ทีมมีความสมบูรณ์มากขึ้น แต่ยังมีปัญหาเรื่องบาดเจ็บหลายราย อาทิ เอกพันธ์ อินทเสน, ณัฐพงษ์ สมณะ และ อุชา กิจพงษ์ศรี คาดว่าอีกสัก 2-3 สัปดาห์จะสมบูรณ์มากขึ้น จากการศึกษาเทปการเล่นของอินทรีเพื่อนตำรวจคาดว่าเรามีโอกาสชนะซึ่งยังมีโอกาสลุ้นอีกหลายเกมที่จะยึดอันดับรองจ่าฝูง ส่วนนัดนี้แม้ไร้แฟนบอลอาจจะส่งผลต่อกำลังใจนักเตะแต่ทุกคนมีความกระหายอยากชนะทุกรายแม้จะเล่นที่สนาม สพล.ชลบุรี"
ทางฝั่ง อินทรีเพื่อนตำวจ ได้ส่ง ประเสริฐ ช้างมูล ผู้ฝึกสอน ทีมอันดับ 7 มี 37 คะแนน เผยถึงความพร้อมก่อนเกมว่า "สภาพทีมสมบูรณ์ไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บ แต่มีผู้เล่นที่ถูกแบน คือ รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ กองหลัง ซึ่งการเจอ ชลบุรี เอฟซี ถือว่าเป็นงานค่อนข้างหนัก แต่คาดว่าจะมีแต้มกลับมาได้แน่นอน ส่วนตัวแล้วอยากให้แฟนบอลเจ้าถิ่นเข้าชมมากกว่าเพราะไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไรต่อทีม"
"ฮัลโหล"-"ตะหานน้ำ" ศึกหนีโซนตกชั้น
มากันที่ศึกหนีตาย "โค้ชจักษ์" ประจักษ์ เวียงสงค์ ผู้ฝึกสอนทีโอที เอสซี ทีมอันดับ 17 มี 22 คะแนน กล่าวถึงความพร้อมใน 9 นัดที่เหลือ ว่า "ถือเป็นการได้เปรียบและช่วยเพิ่มความมั่นใจให้รอดการจากตกชั้นได้ ซึ่งตอนนี้ก็กำชับลูกทีมให้เล่นกันอย่างรัดกุม เน้นความกระหายที่จะชนะ โดยต้องเน้นที่เกมรับและโต้กลับเร็ว แก้ปัญหาเฉพาะหน้า แม้จะมีหนึ่งนัดที่ต้องเจอบุรีรัมย์ พีอีเอ ส่วนการเปิดบ้านรับราชนาวีสโมสรนั้นมีนักเตะถูกแบน อาทิ นพพล ผลอุดม, ไกรสร ปั้นเจริญ และต่างชาติบางราย อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าจะสามารถอยู่รอดในไทยพรีเมียร์ลีกได้อีกสมัยแน่นอน"
ขณะที่ "ป๋าธรรม" น.อ.บุญธรรม พันธุ์นุช ผู้ช่วยผู้จัดการทีมราชนาวีสโมสร ทีมอันดับ 15 มี 23 คะแนน เผยถึงความพร้อมว่า "ขณะนี้ทีมยังไม่ปลอดภัย ผลงานไม่ชัดเจน สลับกันแพ้ชนะบ้าง สำหรับการบุกไปเยือนทีโอทีฯ ทีมมีผู้บาดเจ็บ คือ ปิยะชาติ ศรีมะเรือง อย่างไรก็ตามนัดนี้จะทำผลงานให้ดีที่สุดทุกสนามที่ไปต้องมีแต้มกลับมา ส่วนการให้ "โค้ชศักดิ์" น.ท.สมศักดิ์ อักษร ผู้ช่วยโค้ช ทำหน้าที่คุมทีมชั่วคราว ก็ยังถือว่าทำผลงานได้น่าพอใจแต่คงต้องมีการปรับจูนกับนักเตะอีกสัก 1-2 นัด"
อาร์มีฯ รับหวั่นทีมหนีตาย
ปิดท้ายที่ อดุลย์ รุ่งเรือง ผู้ฝึกสอน อาร์มี ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 12 มี 29 คะแนน กล่าวถึงความพร้อมก่อนไปเยือน ขอนแก่น เอฟซี อันดับบ๊วย มี 18 คะแนน ว่า "ถือเป็นงานหนักเมื่อไปเยือนโซนหนีชั้นที่ต้องเจอสภาพดิ้นรน ยอมรับว่าน่ากลัว แต่อาร์มีก็ต้องไปด้วยความหวัง มุ่งมั่น ที่จะมีแต้มกลับมาเพื่อรักษาอันดับบนหรือกลางตารางเพราะสภาพทีมตอนนี้ก็ยังไม่น่าไว้วางใจคงต้องรอให้ผ่าน 1-2 แมตช์เสียก่อนจึงจะหายใจคล่อง ขณะเดียวกันทีมมีนักเตะหลักบาดเจ็บ คือ ธาตรี สีหา และ เลอัน โดร ดอส ซานโตส ที่ยังเป็นปัญหาสำคัญในขณะนี้"
โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม 2554
เวลา 18.00 น. ขอนแก่น เอฟซี - อาร์มี ยูไนเต็ด ณ อบจ.ขอนแก่น ถ่ายทอดสดทางช่อง NBT 11
เวลา 18.00 น. ชลบุรี เอฟซี - อินทรีเพื่อนตำรวจ ณ สพล.ชลบุรี ถ่ายทอดสดทางช่อง True sport 2 (102)
วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2554
เวลา 18.00 น. เมืองทองฯ ยูไนเต็ด - เชียงราย ยูไนเต็ด ณ ยามาฮ่า สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทางช่อง SK TV
เวลา 18.00 น. พัทยา ยูไนเต็ด - บีอีซี เทโรศาสน ณ สพล.ชลบุรี ถ่ายทอดสดทางช่อง NBT 11
เวลา 18.00 น. ทีโอที เอสซี - ราชนาวี สโมสร ณ ทีโอที สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทางช่อง T-Sport
หมายเหตุ : เลื่อนแข่ง 2 คู่ เนื่องจากอุทุกภัย
บางกอกกล๊าส เอฟซี - ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี
โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี - เอสซีจี สมุทรสงคราม