xs
xsm
sm
md
lg

"จูน" ตีตั๋วเทควันโด อลป.ใบที่ 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"น้องจูน" รังสิยา นิสัยสม คว้าตั๋วใบที่ 3 ส่งท้ายเทควันโดควอลิฟายโอลิมปิก โซนเอเชีย หลังพลิกชนะ มาโยะ ฮามาดะ เหรียญทองแดงเยาวชนโลกชาวญี่ปุ่น 9-7 คะแนน ทั้งที่คะแนนตามหลังมาตลอด ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมฯ ยกย่องทีมงานทุกคน
น้องจูน รังสิยา นิสัยสม (ขวา) คว้าตั๋วใบที่ 3 ให้กับทัพจอมเตะไทย (ภาพจากแฟ้ม)
การแข่งขันเทควันโดควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ โซนเอเชีย หรือศึก "เอเชี่ยน ควอลิฟิเคชั่น ทัวร์นาเมนท์ ฟอร์ ลอนดอน 2012" วันสุดท้าย เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่ม.อัสสัมชัญ (เอแบค บางนา) โดยมีนักกีฬาจาก 30 ประเทศจำนวน 99 คนแยกเป็นชาย 54 คน และหญิง 45 คนร่วมประชันเพลงเตะ เพื่อเฟ้นหานักกีฬาที่สร้างผลงานดีสุดอันดับ 1-3 จากทั้งหมด 8 รุ่นจำนวน 24 คน ผ่านเข้าไปสู่รอบสุดท้าย "ลอนดอนเกมส์" ปีหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้นักเทควันโดไทยประสบความสำเร็จคว้าตั๋วอลป.เพิ่มมาได้อีก 1 ใบจาก "น้องเล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ รุ่น 49 กก.หญิง เมื่อรวมกับ "เจ้าไอ" เป็นเอก การะเกตุ รุ่น 58 กก.ชาย ที่ได้มาก่อนหน้านี้ในการคัดเลือกตัว ที่อาเซอร์ไบจานเป็น 2 ที่นั่งเรียบร้อยแล้ว

สำหรับการแข่งขันในวันนี้ไทยมีคิวลงสนามแค่คนเดียว คือ รุ่น 57 กก.หญิง "น้องจูน" รังสิยา นิสัยสม เจ้าของแชมป์โลกคนล่าสุด ที่เกาหลีใต้ รอบแรกไล่ต้อนเอาชนะ จามาดี้ ดี.ดี.พาดิ จากศรีลังกา จนต้องขอยอมแพ้ในยกที่ 3 ด้วยสกอร์ 14-2 คะแนน จากนั้นในรอบสอง หรือรอบ 8 คนสุดท้าย รังสิยา เกือบเสียท่า เมื่อยกแรกถูก ดิโรบาร์ เซยดูเลียว่า ตัวเก่งของอูซเบกิสถาน เตะเข้าที่ศรีษะและลำตัวทำแต้มนำห่าง 6-1 คะแนน มาถึงยกสอง รังสิยา ฮึดกัดฟันสู้ไล่ตามหลังมา 5-6 คะแนน จากนั้นในยกที่สาม ทั้งคู่ออกอาวุธกันอย่างสนุกดุเดือด กระทั่ง รังสิยา ไล่ตามมาเสมอ 6-6 คะแนน จนต้องมาตัดสินชี้ชะตาเตะซัดเดิ้ลเดดในยกที่สี่ ก่อนที่ รังสิยา จะถีบเข้าลำตัวเฉือนเอาชนะไปได้ 7-6 คะแนน ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศพบกับ มาโยะ ฮามาดะ เจ้าของเหรียญทองแดงเยาวชนโลกจาก ญี่ปุ่น

เริ่มเกมยกแรก รังสิยา เครื่องยังไม่ร้อนตามหลังอยู่ที่ 0-2 คะแนน เข้าสู่ยกสอง แชมป์โลกจากไทยเร่งออกอาวุธไล่มาเสมอ 3-3 คะแนน กระทั้งมาถึงยกที่สาม ฮามาดะ เตะเข้าลำตัวและศรีษะอย่างจังจนคะแนนหนีห่างไปถึง 7-4 คะแนน และเหลืออีกแค่ 26 วินาทีจะหมดเวลา กองเชียร์ไทยทั้งสนามคิดว่า รังสิยา แพ้แน่นอนแล้ว แต่แล้วก็มีปาฏิหารย์เกิดขึ้นเมื่อ "น้องจูน" สบโอกาสเตะสวิงแบ็กคิกส์เข้าศรีษะคู่แข่งจากแดนปลาดิบจนหน้าหงาย แต้มขยับมาเสมอ 7-7 คะแนน ก่อนที่ รังสิยา จะถีบเข้าลำตัวอีก 2 แต้มติด เป็นฝ่ายพลิกล็อกกลับมาชนะด้วยสกอร์ 9-7 คะแนน ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศพบกับ แอนเดรีย พอลลี่ ตัวเก๋าจากเลบานอน

ซึ่งไม่ว่า ผลการแข่งขันคู่นี้จะออกมาเช่นไร รังสิยา ก็สามารถคว้าตั๋วไปกีฬาโอลิมปิกเกมส์ให้กับทัพเทควันโดไทยได้เป็นคนที่ 3 และถือว่า เป็นนักกีฬาไทยคนที่ 12 ที่คว้าสิทธิ์ไป "ลอนดอนเกมส์"ปีหน้า ต่อจาก 1.สุธิยา จิวเฉลิมมิตร (ยิงเป้าบิน), 2.รุจิราภรณ์ ลิเกิ้น ล่ำซำ (ขี่ม้า), 3.วนิดา บุญวรรณ์ (กระโดดสูง) ,4."เจ้าไอ" เป็นเอก การะเกตุ (เทควันโด),5.ณัชฐานันท์ จันทร์กระจ่าง, (ว่ายน้ำ), 6 ณัฐพงษ์ เกษอินทร์ (ว่ายน้ำ) 7.แก้ว พงษ์ประยูร (มวยสากลสากลสมัครเล่น), 8.ฉัตรชัย บุตรดี (มวยสากลสมัครเล่น), 9.สายลม อาดี (มวยสากลสมัครเล่น), 10.จ่าเอกวิทยา คำว่อง (ยิงธนู) และ 11."น้องเล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ (เทควันโด)

หลังเกม ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่สามารถทำได้ตามเป้าหมาย คือ เก็บตั๋วโอลิมปิกเพิ่มได้อีก 2 ใบ เมื่อรวมกับของเก่าอีก 1 ใบก็เป็น 3 ใบพอดี แยกเป็นชาย 1 คนและหญิง 2 คน เท่ากับกีฬาโอลิมปิกปี 2008 ที่จีนพอดี โดยเฉพาะตั๋วใบสุดท้ายที่เราได้จาก "น้องจูน" รังสิยา นั้นถือว่า พลิกล็อกเกิดความคาดหมายมาก เนื่องจากคู่แข่งจากญี่ปุ่นคนนี้ฝีมือไม่ธรรมดาเลย อีกทั้งใกล้จะหมดเวลาแล้วเรายังคะแนนตามหลังอยู่ แต่แล้วก็มีปาฏิหารย์เกิดขึ้นจากการตัดสินใจเตะเข้าที่ศรีษะของ รังสิยา จนทำให้เป็นจุดพลิกผันนำไปสู่ชัยชนะ ส่วนตัวต้องขอชื่นชมทีมงานทุกคนที่ทุมเทเสียสละจนสามารถมาถึงจุดนี้ได้ จากนี้ไปเรายังมีภาระกิจสำคัญต่อ คือ จะต้องไปคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์แรกในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ให้จงได้ คงต้องย้ำให้ เช ยอก ซอก เฮดโค้ชทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้ คอยแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆของนักกีฬาให้ดีกว่านี้ เพราะคู่แข่งแต่ละคนที่เราจะเจอในโอลิมปิกนั้น ล้วนแข็งแกร่งและประสบการณ์สูงทั้งสิ้น

ขณะที่ "น้องจูน" รังสิยา กล่าวว่า ตลอดทั้งเกมเข้าทำคะแนนได้ไม่ดีเท่าไหร่ เพราะคู่ต่อสู้มีขาหน้ายันเอาไว้ ยิ่งยกสามตอนที่คะแนนตามหลังอยู่ 4-7 แต้ม ส่วนตัวไม่คิดว่า แพ้ เพราะเวลายังไม่หมดเราน่าจะมีโอกาสกลับมาชนะได้ และทุกอย่างก็เป็นจริง รู้สึกสะใจและดีใจมากที่สามารถคว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ได้ครั้งแรกในชีวิต จากนี้ไปคงจะต้องแก้ไขจุดบอดของตัวเอง คือ เรื่องพละกำลัง และการเข้าทำแต้มที่หลากหลาย เพราะในระดับโอลิมปิกเกมส์ทุกคนจะประมาทใครไม่ได้เลย นอกจากนี้ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่สมาคมทุกคนที่ให้โอกาส รวมไปถึงโค้ชเช ยอง ซอก และ พิษณุ พันพรหม โค้ชค่าย "ฉลามร้ายชลบุรี" ที่ได้ปลุกปั้นและสอนให้ตัวเองมาถึงวันนี้ได้ ส่วนตัวในกีฬาโอลิมปิกอยากคว้าเหรียญทองกลับมา

ด้านโค้ช เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้ เผยว่า ดีใจกับความสำเร็จของนักกีฬาทุกคน แต่คนที่ไม่ประสบความสำเร็จก็ต้องกลับมาทบทวนตัวเองว่า เรายังมีข้อเสีย หรือสิ่งที่จะต้องแก้ไขอะไรบ้าง จากนี้ไปจะเดินหน้าต่อเรื่องการฝึกซ้อมต่างๆเต็มที่ โดยเฉพาะนักกีฬาทั้ง 3 คนที่คว้าสิทธิ์มาจะต้องดูแลรักษาตัวให้ดี เนื่องจากสมาคมจะมีการประลองภายในอีกครั้ง เพื่อคัดเลือกเอาคนที่พร้อมและดีที่สุดเท่านั้นไปโอลิมปิกเกมส์ อย่างไรก็ตามส่วนตัว จะดูองค์ประกอบในทุกๆด้านทั้งเรื่องความฟิต, โอกาสความหวัง และ พฤติกรรมต่างๆของนักกีฬาว่า มีศักยภาพความพร้อมมากน้อยแค่ไหนกับมหกรรมกีฬาของมวลมนุษย์ชาติอย่าง โอลิมปิก


กำลังโหลดความคิดเห็น