ASTVผู้จัดการรายวัน-การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย กำลังจะปิดฉากลงในช่วงค่ำของวันที่ 22 พ.ย.นี้ ทว่าสปิริตของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่มีวันเหือดหาย หลังเจ้าภาพพร้อมถ่ายทอดออกมาในพิธีปิดภายใต้รูปแบบของ “Harmony in Victory” หรือความสามัคคีในชัยชนะ ขณะที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ประเมินให้ทัพนักกีฬาไทยสอบผ่านในศึก “อิเหนาเกมส์”
อินดรา ยุดฮิสทิรา รามาดฮาน ผู้ดูแลพิธีเปิด-ปิดซีเกมส์เผยถึงการเตรียมการในพิธีปิดการแข่งขันว่า “เราหวังว่าสิ่งที่เราเตรียมการในพิธีปิดจะนำมาซึ่งความทรงจำที่ดีในซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ณ นครปาเลมบัง ความเป็นมิตร ความสามัคคี และชัยชนะจะตราตรึงไว้กับชาติสมาชิกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประเทศอินโดนีเซียขอขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างในซีเกมส์ครั้งนี้ผ่านทางพิธีปิดการแข่งขัน”
โดยพิธีปิด "อิเหนาเกมส์" เจ้าภาพเตรียมนักเต้นไว้กว่า 600 คน เพื่อออกไปสร้างสีสันในแต่ละชุดการแสดงโดยมี เซนทอท ซูดิฮาร์โต ศิลปินชื่อก้องแดนอิเหนาเป็นผู้ควบคุม นอกจากแสงสีเสียงเต็มอัตรา อินโดนีเซีย เกณฑ์เหล่านักร้องชั้นนำอาทิเช่น อักเนส โมนิกา, อัฟกัน, กิริง หรือที่รู้จักในนาม นิดจิ, เชอรินา, เอโญ, ปูทรี อายู, ซาเนทท, จอย โทบิง, ดาเนียล คริสทานโท และ อาร์มันดา แบนด์ดังของปาเลมบัง ร่วมกันขับกล่อมเสียงเพลงด้วย
ซึ่งทันทีที่ โบดิโอโน รองประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เข้าสู่ เกโลรา ศรีวิจายา สเตเดียม พร้อมกล่าวเปิดงาน ทานโทวี ยาห์ยา ทิยา ดิราน พิธีกรก็จะนำเข้าสู่พิธีปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ เสียงเพลง “Indonesia Raya” เปิดคลอนำคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ของทั้ง 11 ชาติเข้าสู่สนาม โดยไทยมี “บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ นำทัพ ขณะที่ “บิ๊กจา” พลตรีจารึก อารีราชการัณย์ รองประธานกรรมการและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายธเนศ เครือรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมเป็นสักขีพยาน
จากนั้นการแสดงประกอบเพลงไล่เรียงเป็นลำดับ เริ่มจาก Walk In Music For The Governor Of South Sumatera, One Day In Your Life, Kita Bisa, Medley, Laskar Pelangi, Bebas Untuk Menang, Together We Can Rise, Shake It Off, Harmoni และปิดท้ายด้วย Ayo! Indonesia Bisa ซึ่งเป็นเพลงประจำการแข่งขัน ก่อนที่ อินโดนีเซีย จะส่งมอบธงซีเกมส์ให้ เมียนมาร์ เจ้าภาพครั้งต่อไปเป็นอันเสร็จพิธี
ด้านผลงานโดยรวมของทัพนักกีฬาไทยในซีเกมส์ครั้งนี้ นายณัฐวุฒิ เรืองเวส ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เผยผ่าน MGR SPORT ว่า "จากการประเมินถือว่าภาพรวมไทยในครั้งนี้ถือว่าสอบผ่านในระดับ 80-90 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ดีถือว่าหลายสมาคมทำผลงานได้น่าผิดหวัง อย่างเช่นยิงปืน ส่วนกีฬาต่อสู้อย่าง คาราเต, ปัจจักสีลัต หรือ วูซู กลับไม่มีเหรียญติดมือเลย ยังดีที่ได้ เทควันโด ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะที่ ฟุตบอล เป็นอีกสมัยที่น่าผิดหวัง คงต้องขึ้นอยู่กับสมาคมฟุตบอลฯที่จะจัดการปัญหานี้ต่อไป"
"ส่วนจำนวนเหรียญทองถึงวันนี้เราคงทำไม่ได้ตามเป้า 126 เหรียญทอง แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องหันกลับไปมองที่ เวียดนาม ซึ่งต้องบอกว่าไทยเรายังโชคดีที่มีเหรียญทองในช่วงท้ายรออยู่ทั้งมวยสากลสมัครเล่น รวมถึงฟุตซอล ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เราเขยิบทะลุหลัก 100 เหรียญทอง รวมถึงการคว้าอันดับ 2 ในกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ได้" ผอ.พัฒนากีฬาเป็นเลิศ กกท.กล่าวในท้ายที่สุด
ด้าน ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย กล่าวกับทีมข่าว MGR Sport ถึงการจัดการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ว่า "ครั้งนี้ถือว่าค่อนข้างทะลักทุเลพอสมควร เริ่มจากความไม่พร้อมของสนามต่างๆ ขณะที่ผมเองได้รับการร้องเรียนจากนักกีฬา ที่มีปัญหาที่สุดหนีไม่พ้นที่ปาเลมบัง ทั้งเรื่องที่พักนักกีฬาที่แออัดเกินไป ส่วนที่จาการ์ตา ปัญหาคงเป็นเรื่องของรถติด เนื่องด้วยสนามค่อนข้างไกลกันทำให้การเดินทางไม่สะดวกนัก"
สุดท้าย "บิ๊กต้อม" พูดถึงผลงานของทัพนักกีฬาไทยว่า "การมาซีเกมส์ครั้งนี้ นักกีฬาไทยทำได้ตามเป้าคือการเป็นอันดับ 2 รองแค่เจ้าภาพ อินโดนีเซีย ทว่าพลาดเป้าเรื่องของจำนวนเหรียญที่คาดไว้ ซึ่งเรื่องนี้พอเข้าใจได้ในหลายๆสาเหตุ อย่างไรก็ดีหลายสมาคมกีฬาจำเป็นต้องกลับไปพูดคุยกัน ซึ่งเราคงเก็บประสบการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนเพื่อนำไปพัฒนาในการแข่งขันกันต่อที่เมียนมาร์ในอีกสองปีข้างหน้า"