ASTV ผู้จัดการรายวัน – มหกรรมกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ผ่านไปแล้วครึ่งทาง ทว่าผลงานล่าสุดของทัพนักกีฬาไทยยังคงโกยเหรียญทองได้ไม่มากนัก โดยรั้งอันดับ 3 บนตารางสะสมเหรียญ ตามหลังจ่าฝูงอย่าง “อิเหนา” เจ้าภาพ และ เวียดนาม ซึ่งกำลังมาแรงจนรั้งอันดับ 2 ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า ไทย จะจบการแข่งขันด้วยการเข้าป้ายเป็นรองจ้าวซีเกมส์อย่างที่ตั้งเป้าไว้แต่ต้นได้หรือไม่
ผู้สื่อข่าว MGR Sport มีโอกาสสัมภาษณ์ ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยถึงความคิดเห็นที่มีต่อผลงานของทัพไทยนับจนถึงเวลานี้ (ช่วงเช้าวันที่ 18 พฤศจิกายน) ซึ่งได้รับคำตอบว่า “เวียดนาม ได้ไปแล้ว 68 เหรียญทอง ขณะที่เราทำได้ 64 เหรียญทอง ถือว่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่ก็น่าจะได้มากกว่านี้ ส่วนหนึ่งมาจากการตัดสินในบางชนิดกีฬาที่ไม่ยุติธรรมโดยเฉพาะกีฬาที่ตัดสินด้วยสายตา อีกส่วนหนึ่งเกิดจากการจัดการต่างๆ ซึ่งหลายชาติก็บ่นเป็นเสียงเดียวกัน เช่น การจัดตารางให้ฝึกซ้อมน้อย การจัดรถเดินทางไม่เพียงพอ รถรับ-ส่งนักกีฬามารับไม่ตรงเวลา เรื่องที่พักในหมู่บ้านนักกีฬาต้องอยู่กันห้องละ 6 คน หรือกระทั่งเรื่องอาหารการกินที่นักกีฬาหลายชาติไม่ใช่แค่ไทยที่ทานแล้วมีอาการท้องเสียหลายคน ซึ่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ทำให้ความพร้อมของนักกีฬาลดลง ส่งผลกระทบไปถึงการทำผลงานในสนาม”
ขณะที่สถานการณ์ลุ้นอันดับ 2 บนตารางเหรียญซีเกมส์ ณ ตอนนี้ถือว่า เวียดนาม กลายเป็นชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเภทกีฬาสากล ส่วน ไทย ตามมาเป็นที่ 2 จนเป็นที่น่าหนักใจว่าจะสู้กับชาติอื่นได้ยากยิ่งขึ้นเมื่อเข้าสู่เวทีใหญ่อย่าง โอลิมปิกเกมส์ ซึ่งจุดนี้ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยเปิดเผยว่า “เวียดนาม กำลังสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ฝีมือดีขึ้นมามากมายทั้ง ยิมนาสติก, กรีฑา และ ยิงปืน ส่วน ไทย ก็มีบางกีฬาที่ยังคงใช้รุ่นเก๋าลงแข่ง เช่น ยิงปืน หรือ กรีฑา ทำให้การสร้างดาวรุ่งขึ้นมาทดแทนยังคงขาดช่วง ซึ่งหลังจบซีเกมส์ครั้งนี้เราคงต้องประชุมร่วมกับทุกสมาคมกีฬา เพื่อกำหนดนโยบายในการสรรหานักกีฬาสายเลือดใหม่ที่มีฝีมือดีไม่แพ้รุ่นพี่มาทดแทนให้ได้โดยเร็วที่สุด”
อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งหลังจนถึงจบการแข่งขันมหกรรมกีฬาแห่งภูมิภาคอาเซียน “บิ๊กต้อม” ยังคงเชื่อมั่นว่า ไทย จะแซงทัพนักนักกีฬาสัญชาติเหงียนขึ้นมาเป็นรองจ้าวเหรียญทองได้ “ตอนนี้ เวียดนาม ยังนำเราไม่มากนัก ซึ่ง ไทย ยังมีกีฬาความหวังอีกหลายชนิดที่จะคว้าเหรียญทองให้เราได้เป็นกอบเป็นกำในช่วงท้าย เช่น มวยสากลสมัครเล่น, เซปักตะกร้อ, ยกน้ำหนัก, วอลเลย์บอล, ฟุตซอล และอื่นๆ อย่าง บาสเกตบอลทีมหญิงที่หากเราชนะ ฟิลิปปินส์ ได้ก็จะคว้าเหรียญทองทันทีโดยไม่ต้องลุ้นผลในนัดสุดท้าย และผมเชื่อว่าเราจะทำยอดได้เกิน 100 เหรียญทองพร้อมทั้งครองตำแหน่งรองจ้าวซีเกมส์อย่างแน่นอน ”
ท้ายสุด นายธนา เปิดเผยว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ทรงเป็นกำลังใจให้กับทัพนักกีฬาไทยอย่างใกล้ชิด โดยตลอด 8 วันที่ผ่านมา พระองค์เสด็จทอดพระเนตรการแข่งขันกีฬาหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นที่เมืองปาเล็มบังในการแข่งขัน กรีฑา, ยิงปืน, เซปักตะกร้อ และที่กรุงจาการ์ตาในการแข่งขัน แบดมินตัน, ขี่ม้า ซึ่งหลังจากนี้พระองค์จะเสด็จทอดพระเนตรการแข่งขันกีฬาชนิดอื่นๆ อีก พร้อมทั้งตรัสให้กำลังใจกับทัพนักกีฬาไทยว่าขอให้เล่นอย่างเต็มที่สมศักดิ์ศรีของตัวแทนประเทศไทย และประสบความสำเร็จในการแข่งขัน
